#ข้อมูลการฟอกเงินในวงการพระเครื่องไทยและสร้างมูลค่าเกินจริงในประเทศไทย ภัยต่อความมั่นคงของชาติ
การประมูลพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ หลังแบบ เนื้อผงคลุกรัก จ.ชลบุรี ของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์
ผู้ที่ประมูลได้คือ นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ในราคา 31 ล้านบาท
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/515071
#ข้อมูลการฟอกเงินและสร้างมูลค่ าเกินจริงในประเทศไทย
#การฟอกเงินค้ามนุษย์
https://
ชีวิตกำพล จากพระ, ชี, หุ้น และฟุตบอล
การบุกจับ "วิคตอเรีย" ของ “เสี่ยกำพล” กำลังลามไปสู่เรื่องอื่นๆ กระทั่งธุรกิจดั้งเดิมที่เป
หลายคนบอกว่า “ชูวิทย์ก็เคยทำอาบอบนวด พอขายแล้วดันไปว่าคนอื่น”
ขอบอกก่อนเลยว่า คนอย่างผมไม่เคยกลั่นแกล้งใ
แต่อย่างว่าล่ะครับ คนเคยหากินแบบนี้มาก่อน เลยไม่รู้สึกรู้สา
ประวัติ "กำพล" ผมรู้จักดี พวกคนใหญ่คนโตที่คบค้าสมาคม
กำพลเริ่มต้นจากการ "ทำเด็กเอเย่นต์ " ส่งตามอาบอบนวดแถวเพชรบุรี ใช้วิธีการเหมาเด็กเข้าในสั
หนึ่งในอาบอบนวดเล็กๆบน ถ.เพชรบุรี ที่กำพลเอาเด็กไปส่งคือ "อะตามิ" อาบอบนวดเกรดสองย่านมักกะสั
กำพลกับนิภาช่วยกันทำมาหากิ
ในสมัยนั้นผมเริ่มทำอาบอบนว
เมื่อผมอยากขาย กำพลอยากซื้อ เขาก็ไปรวบรวมเงินจากคนในวง
ธุรกิจอาบนำ้ต้องทำเป็น ไม่ใช่ทุกคนทำแล้วรวย เพราะต้องคุมเชียร์แขกให้ดี
กำพลเรียนรู้การทำอาบอบนวดจ
เมื่อกำพลซื้อของผมครบ 3 แห่ง ก็ทำธุรกิจจนได้เงินมากมาย ก่อนไปสร้างอาบอบนวดของตัวเ
งานอดิเรกที่ทำเงินให้กำพลม
การกระโดดเข้ามาในวงการพระ ทำให้กำพลรู้จักคนรวย คนใหญ่คนโตมากมาย ซึ่งคนเหล่านั้นไม่สนใจว่าก
กำพลคบคนรวย นักธุรกิจ จนไปเจอนักธุรกิจหนุ่มดาวรุ
จาก ค้าพระ ค้าชี ชีวิตกำพลจึงหันเหเข้าไปค้า
หุ้นตัวสำคัญที่กำพลถือหุ้น
และบริษัท Aqua นี่แหละ คือผู้สนับสนุนทุนให้กับทีม
แต่ชีวิตกลับพลิกผัน เดินทางมาถึงจุดพลาดตรง “วิคตอเรีย ซีเครท” แม้จะวางแผนไว้ว่าทำสัญญาหล
มั่นใจว่าไม่มีอะไรในประเทศ
หากแต่สัญญาเช่าที่ทำหลอกๆก
นอกจากโดนคดี “ค้ามนุษย์” 12 ข้อหาแล้ว ยังต้องถูกยึดทรัพย์ เพราะคดีค้ามนุษย์เป็น 1 ใน 26 ความผิดมูลฐานการฟอกเงิน
ขึ้นอยู่กับว่า กำพลจะกล้าเคลียร์ขนาดหมดตู
เพราะหากผม “แฉ” ก็คงยากที่จะหยุด
https://m.facebook.com/
#เผยข้อมูลประวัติศาสตร์ การฟอกเงินในวงการพระเครื่ องไทย?
#พระเครื่องที่เป็นมงคลโดยแท้
เรื่องสะท้านวงการสีกากีประจำปี 2557 หนีไม่พ้นคดีทุจริตเรียกรับผลประโยชน์มหาศาล โดยมี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เป็นหัวหน้าขบวนการใหญ่ ถูกจับพร้อมด้วยลูกน้อง นายตำรวจใน....... อ่านต่อได้ที่ : https://m.posttoday.com/analysis/report/338327
ชำแหละ 8 วิธี "ฟอกเงินร้อน"....
ขบวนการฟอกเงินพลิกแพลงแยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่จะเอื้ออำนวยให้แก๊งมิจฉาชีพลงมือปฏิบัติการเสกเงินเข้ากระเป๋าด้วยวิธีไหนให้เนียนที่สุด คดีการได้ทรัพย์สินมาอันมิชอบของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์.......1.การฟอกเงินโดยใช้ชื่อบุคคลที่คุ้นเคยและว่าจ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชี วิธีการนี้ว่าจ้างให้คนรู้จักหรือเพื่อนสนิท เปิดบัญชีธนาคารสำหรับการโอนเงิน โดยมีการทำบัตรเอทีเอ็มไว้พร้อม ซึ่งวิธีการนี้มักจะพบในคดีค้าเสพติดหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์.......
อ่านต่อได้ที่
ปปง. เตรียมจัดมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินของเครือข่าย “พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์” ตัดวงจรการฟอกเงิน พร้อมนำเงินคืนสู่แผ่นดิน ระบุล็อตแรกกว่า 20,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 50 ล้านบาทวันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิงเอมอร ไชยบัวแดง รองเลขาธิการ ปปง. ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงานมหกรรมขายทอดตลาด ตัดวงจรฟอกเงิน นำเงินคืนสู่แผ่นดินกว่า 20,000 ชิ้น มูลค่าประเมินเบื้องต้นกว่า 50 ล้านบาท
ซึ่งทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเครือข่าย พ.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในคดีที่ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้งข้าราชการเรียกรับผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย (ค้าน้ำมันเถื่อน) การเปิดบ่อนพนันผิดกฎหมายและฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อาทิ วัตถุโบราณ พระเครื่อง นาฬิกา ชุดถ้วยชาม ชุดเครื่องเงิน ชุดเครื่องแก้ว เฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม และทรัพย์สินมีค่ากว่า 2,000 รายการ จำนวน 20,000 ชิ้น
โดย พ.ต.อ.สีหนาท ระบุว่า ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ในคดีดังกล่าวมีกว่า 3,000 ชิ้น แต่มีกว่า 1,000 ชิ้นที่เป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถขายได้ ซึ่งบางส่วนกรมศิลปากรได้รับไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ และทรัพย์สินที่เก็บไว้ได้เพราะไม่เสื่อมราคา เช่น ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี ส่วนทรัพย์สินที่นำขายทอดตลาดก่อน เนื่องจากหากเก็บไว้จะเสื่อมราคา
ทั้งนี้ ปปง.จะจัดการขายทอดตลาดทรัพย์ของ พ.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเครือข่าย เบื้องต้น 2ครั้ง ครั้งที่ 1 เปิดให้ประชาชนเข้าชมทรัพย์สินได้ระหว่างวันที่ 2-3 มี.ค. 2558 และขายทอดตลาดในวันที่ 5-8 มี.ค.2558 ส่วนครั้งที่ 2 กำหนดให้ชมได้ในระหว่างวันที่ 20-21 มี.ค.2558 และขายทอดตลาดในวันที่ 23-26 มี.ค.2558 ที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ แจ้งวัฒนะ
“สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชมทรัพย์สินที่สนใจได้ก่อนวันประมูล โดยทรัพย์ที่มีราคาไม่เกิน 50,000 บาท ต้องจ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด ส่วนทรัพย์ที่ราคาเกิน 50,000 บาท ต้องวางเงินจอง 10% ในวันที่ดูทรัพย์จึงจะมีสิทธิเข้าประมูล โดยวันประมูลต้องวางเงินอีก 25% และจ่ายให้ครบทั้งหมดภายใน 15 วัน สำหรับเงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมด เมื่อคดีสิ้นสุดจะถูกส่งให้กระทรวงการคลัง แต่หากพิสูจน์ว่าได้มาโดยสุจริตจะส่งคืนให้เจ้าของทรัพย์เป็นเงินพร้อมดอกผล” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สีหนาท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมปปง. มีมติให้อายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก เพิ่มเติมอีกหลายรายการ พร้อมมีมติ ให้ ปปง.ยื่นเรื่องให้อัยการส่งให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินส่วนแรก ที่ ปปง.อายัดไว้ จำนวน 152 รายการ ตกเป็นของแผ่นดิน ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หลังตรวจสอบธุรกรรมการเงินแล้วพบว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมูลฐานฟอกเงิน
แฉ‘กำพล’ไหวทันโยกเงินก่อนถูกอายัด ดีเอสไอพบส่อฟอกเงิน
24 ม.ค.61 พ.ต.อ ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอได้ส่งบัญชีทางเงินของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ สองสามีภรรยา ที่ถูกออกหมายจับในความผิดคดีค้ามนุษย์ รวมถึงบัญชีผู้เกี่ยวข้องกับสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ให้ช่วยประสานธนาคาร เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน และขออายัดบัญชีดังกล่าวจำนวนกว่า 10 บัญชี รวมวงเงินกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ามีโอนเงินออกจากบัญชีไปก่อนที่จะถูกออกหมายจับจำนวนหนึ่ง คาดว่าขณะนี้ ปปง.กำลังดำเนินการ
ส่วนการเข้าไปตรวจสอบสถานบริการอาบอบนวดเครือข่ายของนายกำพล ดีเอสไอไม่ได้รับการประสานจากตำรวจให้ร่วมตรวจ เข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบเรื่องการใช้น้ำบาดาล ตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ
รายงานข่าวจากดีเอสไอ แจ้งว่า เบื้องหลังที่ดีเอสไอประสานให้ ปปง.ทำการอายัดบัญชีกว่า 10 บัญชี ที่มีเงินกว่า 100 ล้านบาทของนายกำพล เนื่องจากหลังจากเจ้าหน้าที่อายัดเครื่องรูดบัตรเครดิตที่อายัดได้จากอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ก่อนตรวจสอบพบว่าปลายทางเป็นชื่อบัญชีของนายกำพล และนางนิภา เบื้องต้นอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ของ ปปง. นอกจากนี้ยังพบมีการยักย้ายถ่ายเทเงินออกไปจากบัญชีก่อนทำการอายัดไว้จำนวนมาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ