ภาพพจน์และจริยธรรม สภาไทยเสื่อม
ช่วงเย็นวานนี้ (30 พ.ค.)ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เกิดเหตุการณ์ปั่นป่วนขึ้น เมื่อส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เร่งรัดการลงมติ ได้ขึ้นไปดึงเก้าอี้ประธานสภาฯ เพื่อให้ลงจากเก้าอี้ ทำให้ส.ส. ที่กำลังประชุมอยู่ต่างพากันกรูเข้าล้อมประธานสภาฯ พร้อมตะโกนด่าทอ ทำให้บรรยากาศในการประชุมตึงเครียด และต้องพักการประชุมไปชั่วครู่ และเรียกร้องให้มีการพักการประชุม
แต่ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่นักการเมืองที่เห็นต่างด้านแนวคิดต่างเลือกที่จะสาดความโกรธเกรี้ยวและใช้กำลังเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม
เหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาผู้แทนราษฎรที่เกิดขึ้น 2 วันติดต่อกัน ระหว่างการเสนอร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความเห็น ซึ่งรวมถึงอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกวุฒิสภาด้วย โดยทุกคนเห็นตรงกันว่า เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ภาพพจน์สภาไทยเสื่อมเสีย
ภาพความวุ่นวายในสภาตลอด 2 วันที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สะท้อนว่าการปรองดองไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย แม้จะพยายามออก พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ซึ่งกลับกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการใช้ความรุนแรงในการประชุม
นายวันมูฮัมมัดนอร์ มะทา ในฐานะอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่าน มาไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงขนาดถึงขั้นขับไล่ประธานสภา ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อประชาชน แต่การจะวิพากษ์วิจารณ์ว่าประธานสภาปฏิบัติหน้าที่ได้สง่างาม ควบคุมการประชุมได้หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับว่า สมาชิกให้ความร่วมมือมากน้อยเพียงใด
ส่วนกรณีที่มี ส.ส.หญิงจากพรรคคู่แข่ง อย่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยปะทะคารมและยื้อแย่งเก้าอี้กันในสภาเมื่อวานนี้ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีตสมาชิกวุฒิสภากล่าวในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าสภาอันทรงเกียรติว่า รู้สึกเศร้าใจที่เห็นสภาในสภาพแบบนี้และไม่เคยคาดฝัน ว่าจะเห็นภาพสภาไต้หวันเกิดขึ้นในประเทศไทย
ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยขึ้นไปบนบัลลังก์ประธานสภา และฉุดกระชากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ลงจากการทำหน้าที่นั้น นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยเป็นประธาน นำเรื่องนี้ไปสอบถึงพฤติกรรมของ ส.ส.ที่ขัดต่อประมวลจริยธรรมของสภา พร้อมเสนอให้นายสมศักดิ์แจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส. ที่เข้าไปใช้กำลัง ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาธิปัตย์พยายามเล่นเกมในสภา เพื่อขัดขวางการพิจารณา พ.ร.บ.ปรองดองฯ
การทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง ส.ส.ฝ่ายค้านรวม 127 คน ยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอนนายสมศักดิ์ออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อไม่ให้ทำหน้าที่ในการเป็นประธานที่ประชุมสภาเหตุเพราะปฎิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางหลายครั้ง โดยไม่เปิดโอกาสให้ ส.ส.ฝ่ายค้านชี้แจง
แม้จะมีข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในหมวด 9 ข้อ 108 จะกำหนดไว้ว่า สถานที่ประชุมของรัฐสภาย่อมเป็นที่เคารพและเป็นเขตหวงห้าม บุคคลซึ่งเข้าไปในห้องประชุมรัฐสภาต้องประพฤติตนให้เรียบร้อย มีสัมมาคารวะ และปฏิบัติตามคำสั่งประธานสภา แต่ข้อบังคับเหล่านี้กลับถูกละเมิดโดย ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ผู้เขียนข้อบังคับนี้ขึ้นมาเสียเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ