อุ๊ กรุงสยาม ผู้ทุจริตในประวัติศาสตร์? ร่วมพุทธพานิชกับพระเถร มหาชนต้องศึกษา?
ปัจจุบันได้ตั้งวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วชื่อว่า “วัดวชิรธรรมาราม” มีเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตรักษาการเจ้าอาวาสรูปแรก
หมายเหตุ : ควรเลิกสร้างวัตถุมงคลเชิงพุทธพานิชได้แล้ว การระดมทุนช่วยพระศาสนา ควรใช้วิธีใหม่ๆ
เช่น ให้ประชาชนนำวัตถุมงคลที่ได้สะสมไว้ถวายให้วัดที่ศรัทธาและนำรายได้จากการที่มีผู้ศรัทธามาเช่าบูชา โดย ครึ่งหนึ่งถวายให้แก่พระศาสนาเพื่อสืบทอดพระศาสนา ครึ่งหนึ่งมอบให้เจ้าของผู้ใช้เวลาในการสะสมและศรัทธานำมาช่วยพระศาสนา มีการตรวจสอบความเก่าจากเจ้าหน้าที่ที่เชื่อถือได้เช่น เจ้าหน้าที่จากกองโบราณคดี กรมศิลปากร หรือตรวจสอบอายุทางวิทยาศาสตร์
https://www.youtube.com/watch?v=ba_CJmFyVH4&app=desktop เหรียญหลวงพ่อทวดนั่งพาน “รุ่น๑” พิมพ์รูปไข่ พุทธอุทยานมหาราช วัดวชิรธรรมาราม ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๕๕๖ องค์นี้เนื้อเงินลงยา จำนวนสร้าง ๓๓๓ องค์ องค์นี้หมายเลข ๙๐ หากท่านเดินทางมาจากกรุงเทพจะไปสิงห์บุรีโดยใช้ทางหลวงสายเอเซีย เลยทางเข้าเมืองอยุธยาไปสักพัก ท่านจะเห็นด้านซ้ายมือของท่าน มีรูปเหมือนหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดขนาดหน้าตักกว้าง ๒๔ เมตรประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นรูปเหมือนตัวแทนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงรวมฐาน ๕๑ เมตร สร้างด้วยปูนหุ้มโลหะสำริดเคลือบสีทอง ณ ที่แห่งนี้คือโครงการพุทธอุทยานมหาราช ซึ่งตามประวัติในสมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อทวดได้เคยเดินทางมาพำนักอยู่ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี และได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากมายในสมัยนั้น โครงการพุทธอุทยานมหาราช เกิดจากความคิดริเริ่มของคุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ซึ่งในวงการพระเครื่องรู้จักกันดีในนามของอุ๊ กรุงสยาม ประธานมูลนิธิพระเทวราชโพธิสัตว์ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ศรัทธาหลวงพ่อทวด อีกทั้งเป็นลูกศิษย์อาจารย์นอง วัดทรายขาว ท่านเห็นสังคมทุกวันนี้มีแต่การเอากำไรและประโยชน์ส่วนตนเป็นตัวตั้ง จนลืมหลักที่ว่า “ทุกคนตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้” และมีแต่คนเอาเปรียบซึ่งกันและกัน ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน ก่อให้เกิดความเสียหายในทุกภาคส่วน ล้วนดำเนินไปในทางที่เสื่อมสลายในระยะยาว และสังคมไทยสอนหรือบอกกันยาก ต้องทำให้เห็นแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากลำบาก ท่านจึงทำตามแนวคิดของท่านเอง ที่ต้องการเห็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยมีหลักตามหลักการ “บวร” หมายถึง บ้าน วัด โรงเรียน บ้านหมาย รวมถึงชุมชน ชาวบ้าน วัดหรือคณะสงฆ์เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมคุณธรรม และธำรงไว้ซึ่งในหน้าที่ในการสร้างเสริมความเป็นคนดีมีศีลธรรม และโรงเรียนองค์กรด้านการศึกษา หน่วยงานราชการ ได้มีการรวมตัวกันทำภารกิจอันป็นประโยชน์ต่อสังคม ได้ทำในสิ่งที่เป็นมิติใหม่ของสังคม ให้เป็นต้นแบบตัวอย่างของการบริหารจัดการในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ แด่มีเป้าหมายสุดท้ายร่วมกันคือ ประโยชน์สุขของสังคม ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อต่อชุมชน สังคมและประชาชน ด้วยวิธีที่ยั่งยืน โดยเริ่มต้นด้วยการเสียสละประโยชน์สุขส่วนตนรวมถึงกำลังทรัพย์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นโครงการเพื่อสังคม โครงการพุทธอุทยานมหาราชจึงเกิดขึ้นจากแนวความคิดนี้ คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ท่านได้นำพระเครื่องที่เก็บสะสมมาหลายสิบปีออกมาขาย และนำเงินไปซื้อที่ดินจำนวน ๒๐๐ ไร่ ตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่ออำเภอบางปะหัน และอำเภอมหาราชของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องกับอำเภอป่าโมก อำเภอเมืองของจังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความเป็นศิริมงคลจึงได้ใช้ชื่อว่า “พุทธอุทยานมหาราช” คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ได้หารือร่วมกับคณะสงฆ์โดยมีสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต วัดบวรนิเวศ และสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส เลขาคณะสงฆ์ธรรมยุต กรรมการมหาเถระสมาคม ตลอดจนพระเถระผู้ใหญ่หลายรูป ซึ่งทางคณะสงฆ์ได้เห็นชอบและมีหลักการเป้าหมายเดียวกันเพื่อดำเนินการตั้งวัดใหม่ขึ้นมา รวมถึงสร้างโรงเรียนใหม่ขึ้นมาในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้ทางคณะสงฆ์ยังมีความตั้งใจจะให้เป็น “โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ” ปัจจุบันได้ตั้งวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วชื่อว่า “วัดวชิรธรรมาราม” มีเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตรักษาการเจ้าอาวาสรูปแรก โครงการพุทธอุทยานมหาราช การดำเนินโครงการ ๑ สร้างสร้างสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และเพื่อให้เลี้งตัวเองได้จากการท่องเที่ยวซึ่งจะมีความยั่งยืน จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทวดเหยียนน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นพระเถระที่ประชาชนทั่วประเทศมีควาทศรัทธา และจะเป็นรูปเหมือนตัวแทนพระสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๔ เมตร ความสูงรวมฐาน ๕๑ เมตร สร้างด้วยปูนหุ้มโลหะสำริดเคลือบสีทอง ๒ สร้างวัดใหม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถโดยมี พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น และอาจารย์วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติเป็นผู้ออกแบบ โดยมีสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศ เป็นประธานอำนวยการ และสมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส เป็นประธานดำเนินการพร้อมด้วยคณะกรรมการมหาเถระสมาคมฝ่ายธรรมยุตทั้งหมด โดยมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้วางผังโครงการและสนับสนุนการก่อสร้างวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามพระพุทธรูปประจำวิหารว่า “พระพุทธเมตตาเสนานาถ” และตราสัญลักษณ์ ๘๔ พรรษา ให้กองทัพบกเป็นเจ้าภาพอัญเชิญประดิษฐานเป็นพระประธานประจำวิหาร ๓ สร้างโรงเรียนระดับมัธยมหลังจากสร้างวัดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนในชุมชนใกล้เคียง เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ๔ โครงการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า SME และ OTOP ถาวร ๕ พื้นที่การค้าสำหรับชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีที่ขายสินค้าชุมชน๖6 โครงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ๗ พื้นที่เกษตรและการอนุรักษ์ธรรมชาติ มีการทำนา ปลูกไม้ผลไม้ดอก ๘ โครงการหอศิลป์กรุงสยามและพิพิธภัณฑ์ การดำเนินงานตามโครงการทั้งหมดนี้ ต้องใช้เงินกว่าหนึ่งพันล้านบาท คุณวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ท่านได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อทวดนั่งพาน รุ่นหนึ่ง เพื่อหาทุนดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ เหรียญที่จัดสร้างนี้ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ในการจัดสร้าง อีกทั้งแบบเหรียญมีการปรับแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ เหรียญหลวงพ่อทวดนั่งพาน รุ่นหนึ่ง จัดสร้างด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือพิมพ์รูปไข่และพิมพ์เสมา มีจำนวนการจัดสร้างดังนี้ ๑ ชุดทองคำ ๑๙๙ ชุด ประกอบด้วย เหรียญทองคำ ๑ เหรียญ เหรียญนวะโลหะสองหน้า ๑ เหรียญ เหรียญอัลปาก้าสองหน้า ๑ เหรียญ เหรียญทองระฆังสองหน้า ๑ เหรียญ และเหรียญทองแดงสองหน้า ๑ เหรียญ (สำหรับชุดทองคำพิมพ์เสมามีเหรียญทองคำพิมพ์เล็กลงยาสีแดงและสีน้ำเงินเพิ่มให้อีกสีละเหรียญ เนื่องจากน้ำหนักทองของเหรียญทองคำพิมพ์เสมาเบากว่าพิมพ์รูปไข่) ๒ เหรียญเนื้อเงินองค์นวะ ๓๓๓ เหรียญ ๓ เหรียญเนื้อเงินลงยา ๓๓๓ เหรียญ ๔ เหรียญเนื้อเงิน ๓๓๓ เหรียญ ๕ เหรียญเนื้อนวะโลหะแก่ทองคำเต็มสูตร ๓๓๓ เหรียญ ๖ เหรียญเนื้ออัลปาก้า ๓,๓๓๓ เหรียญ ๗ เหรียญเนื้อทองระฆัง ๓,๓๓๓ เหรียญ ๘ เหรียญเนื้อทองแดงนอก ๓,๓๓๓ เหรียญ ๙ รูปหล่อบูชาหน้าตัก ๙ นิ้ว ๑๐๐ องค์ ๑๐ รูปหล่อบูชาหน้าตัก ๕ นิ้ว ๑๐๐ องค์ พระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเศกเป็นเวลา ๓วันที่พุทธอุทยานมหาราชหน้าหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ในวันที่๑, ๒ และ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ซึ่งทั้งสามวันนี้เป็นวันที่ดีมากในการประกอบพิธีพุทธาภิเศก โดยได้นิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระเกจิอาจารย์มากมายมาร่วมประกอบพิธี เหรียญหลวงพ่อทวดนั่งพาน “รุ่น๑” พุทธอุทยานมหาราช วัดวชิรธรรมาราม จัดเป็นรุ่นที่มีเจตนาการสร้างที่ดี ประกอบกับการออกแบบที่งดงาม อีกทั้งการสร้างที่ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่ที่ไม่เคยมีใครสร้างมาก่อน และพิธีพุทธาภิเศกที่ยิ่งใหญ่ จึงทำให้พระรุ่นนี้น่าเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง
มีเซียนพระคนหนึ่งไปไล่เก็บหัวคิวจากโรงหล่อ ตรงนี้ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้มีส่วนความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะตนคิดว่าทุกวงการก็มีสิ่งเหล่านี้ แต่พอเราทราบว่าน่าจะมีเราก็เข้าไปดำเนินการ โรงหล่อต่างๆ ก็มีความเข้าใจ คนที่สอดแทรกมาก็เป็นการแอบอ้าง แต่ทุกอย่างยุติลงด้วยดี สิ่งที่โรงหล่อต่างๆ อาจจะถูกหลอก โรงหล่อต่างๆ เองก็ไม่อยากให้เกิดอะไรเสียหาย เขาจึงมีการบริจาคโดยสมัครใจส่วนหนึ่ง อีกบางส่วนโรงหล่อก็นำไปใช้ในการทำองค์พระให้สมบูรณ์ ทุกอย่างจบเสร็จด้วยความเรียบร้อย สะอาด บริสุทธิ์ทุกขั้นตอน
ข้อมูลพฤติกรรมที่หากินบนศรัทธา= กรรมที่ได้รับ
เลิกเชื่อเซียนพระหรือยัง?
http://www.komchadluek.net/detail/20151110/216641.html
http://www.goosiam.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87/html/0001513.html
https://m.facebook.com/permalink.php?id=252333481619718&story_fbid=312762348910164
https://www.youtube.com/watch?v=j0Pzea807xg&app=desktop
http://www.faiththaistory.com/tag/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/
http://www.alittlebuddha.com/html/news%202006/august%202006/07%20august%2006.html
https://plus.google.com/wm/1/app/basic/stream/z13hs5qb1o2mdtpct22fxfhqzly2stxd5
http://www.palungdham.com/t634.html
การสร้างวัฒนธรรมรับใช้ประชาชน
น่าเสียดายที่เรื่องดีๆ งามๆ และเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ทั้งแก่ ประเทศชาติ แก่รัฐบาล และประชาชน ได้รับการเผยแพร่ข่าวสารหรื อประชาสัมพันธ์น้อยเกินไป จึงทำให้ความดี ความงามในประเทศนี้ถูกกลบไปด้ วยกระแสเสี้ยมและกระแสสร้ างความขัดแย้งในบ้านเมือง
เมื่อใดที่กระแสสร้างมี สถานะครอบงำบรรยากาศประเทศไทย ครอบงำกระแสเสี้ยมได้อย่ างหมดจดสิ้นเชิง หรือโดยทั่วไป เมื่อนั้นบ้านเมืองของเราก็ จะกลับสู่ความสงบสุขและสันติ สันติภาพและการพัฒนา ตลอดจนความมั่นคง มั่งคั่ง ก็จะปรากฏให้เห็น
บทความวันนี้เป็นเรื่ องของการสร้างวัฒนธรรมใหม่ ในวงราชการเพื่อให้รับใช้ ประเทศชาติและประชาชน โดยมุ่งต่อผลประโยชน์โดยรวมคือ ประเทศชาติ และส่งผลสะท้อนกลับไปยั งประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่า
เรื่องแรก การอำนวยความสะดวกให้แก่ ประชาชนที่ไปยื่นขอจดทะเบียนสิ ทธิ์และนิติกรรมทั้งหลายเกี่ ยวกับที่ดินต่อสำนักงานที่ดิน ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นบรรยากาศที่ น่าชื่นชมยินดีในทุกที่ทุกแห่ง ที่โครงการรับใช้ ประชาชนของกระทรวงมหาดไทยและกรม ที่ดินได้ขยายไปถึง
ในอดีตนั้น การติดต่อกับสำนักงานที่ดินเพื่ อทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินจะได้ รับความยุ่งยากและล่าช้า มีข้อขัดข้องติดขัดสารพัดที่ จะอ้างกัน บางครั้งประชาชนต้องเดิ นทางไกลหลายๆ ครั้ง หลายๆ วันจึงจะสามารถจดทะเบียนสิทธิ์ และนิติกรรมได้สำเร็จ
และมีจำนวนมากที่ต้องจ่ายค่าน้ ำร้อนน้ำชา ค่าใต้โต๊ะเพื่อซื้ อความสะดวกและความรวดเร็ว
จนเกิดเป็นเสียงก่นด่าอย่างกว้ างขวางทั่วทั้งประเทศ และเพราะเหตุที่ต้องมีค่าน้ำร้ อนน้ำชากันทุกเรื่องราว ดังนั้นแม้เรื่องถูกจะเร็วขึ้น แต่เรื่องผิดก็เกิดขึ้นเป็ นจำนวนมาก จนเกิดความเสียหายทั้งแก่รั ฐและราษฎร แม้กระทั่งแก่เจ้าหน้าที่เอง จึงมีกรณีที่ต้องถูกสอบ ถูกไล่ออก ถูกจำคุกกันเป็นเนืองนิตย์ ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องอัปมงคลทั ้งสิ้น
มาวันนี้ คสช. รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินได้ขับเคลื่ อนนโยบายในการสร้างวัฒนธรรมใหม่ ในวงราชการในการรับใช้ประชาชน และมีการปฏิบัติเด่นชัดแล้ วในสำนักงานที่ดินพื้นที่ต่างๆ หลายแห่ง แต่ยังคงไม่ทั่วถึงทั้งประเทศ
นั่นคือการสร้างวิธีปฏิบัติให้ เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานตั้ งแต่ก่อน 8 นาฬิกา ครั้นถึงเวลา 8 นาฬิกาก็เริ่มแจกบัตรคิวให้กั บประชาชนเพื่อเข้าคิวยื่นเรื่ องขอจดทะเบียนสิทธิ์และนิติ กรรมให้เป็นไปโดยลำดับและเป็ นระเบียบ
เมื่อมีการรับบัตรคิวแล้ว ประชาชนผู้ติดต่อขอใช้บริการก็ นำเรื่องไปยื่นต่อพนักงานเจ้ าหน้าที่เพื่อตรวจสอบเรื่องราว และจะได้รั บการอำนวยความสะดวกและความรวดเร ็ว ขอเพียงยื่นเรื่องถูกต้องตามช่ องทาง มีเอกสารประกอบครบถ้วน พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะรีบรั บจดทะเบียนให้แล้วเสร็ จในเวลาเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั ้น ไม่ต้องข้ามเช้า ข้ามบ่าย ข้ามคืนเหมือนอดีตอีกแล้ว
บรรดาประชาชนที่ไปติดต่อก็มี ความพอใจ มีความขอบอกขอบใจ มีความชื่นใจ และก็เป็นวิสัยคนไทย เมื่อชื่นอกชื่นใจแล้วก็คิดเห็ นเป็นบุญคุณ จึงมีการมอบค่าตอบแทนเป็นสินน้ ำใจตามมากตามน้อย ซึ่งเป็นที่น่ายินดีด้วยกัน
นี่เป็นวัฒนธรรมในการรับใช้ ประชาชนที่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ วในบ้านเมืองของเรา ซึ่งถ้าหากได้แพร่ขยายไปในทุกส่ วนราชการ บ้านเมืองเราย่อมดีกว่านี้แน่
เรื่องที่สอง เรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งนิติ บุคคลต่างๆ เพื่อทำธุรกิ จในประเทศไทย และเพื่อให้มีฐานะสัญชาติเป็ นบริษัทไทย เพื่อสิทธิประโยชน์ในการทำธุรกิ จในกลุ่มประเทศอาเซียนต่อไป ซึ่งในอดีตก็ต้องใช้เวลาและยุ่ งยากมาก
แต่ปัจจุบันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับปรุงขั้นตอนมาตรการและวิ ธีการจนหมดจดงดงามอย่างยิ่ง การยื่นจดทะเบียนนิติบุคคลง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ ประเทศชาติและประชาชน
คงจำกันได้ว่าเมื่อวันก่อนก็ได้ นำเรื่องรัฐบาลจีนได้จัดตั้งบริ ษัทสร้างมหาเศรษฐีให้กั บประเทศจีน โดยมีหลักคิดที่สำคัญว่า การสร้างเศรษฐีหรือธุรกิ จขนาดใหญ่ให้กับประเทศจีนแต่ ละแห่งนั้น แท้จริงแล้วก็คือการสร้างรายได้ ให้กับประเทศจีนและรัฐบาลจีน
เพราะเมื่อมีธุรกิจเกิดขึ้น รัฐบาลก็จะจัดเก็บภาษีจากธุรกิ จนั้นมากมายหลายสถาน ตั้งแต่ภาษีเงินได้บุ คคลธรรมดาภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่มและสารพัดภาษีท้ องถิ่นดังนั้นยิ่งมีการทำธุรกิ จมากเท่าใด รัฐบาลก็ยิ่งมีรายได้มากเท่านั้ น รัฐบาลมีรายได้มากเท่าใด ก็มีเงินมาเพิ่มเงินเดือนข้ าราชการและพัฒนาประเทศได้มากขึ้ นเท่านั้น ผลประโยชน์ก็จะตกได้ทั้งแก่ ประเทศและประชาชนไปพร้อมๆ กัน
ดังนั้นในประเทศจีนวันนี้ บริษัทประเภทที่รั ฐบาลมอบหมายภารกิจให้สร้ างมหาเศรษฐีและธุรกิจให้กั บประเทศจีนจึงขยายตัวเติบใหญ่
ประเทศไทยของเราก็ทำนองเดียวกัน วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มต้ นแล้ว ยิ่งมีกิจการเกิดขึ้นมากขยายตั วเติบใหญ่มาก รัฐบาลก็จะมีรายได้มาก ข้าราชการก็จะได้รับการปรับเงิ นเดือนมาก ประเทศไทยก็จะมีการพัฒนาได้มาก ราษฎรทั้งปวงก็จะมีความสุขเป็ นอันมาก
ดังนั้นจงมาร่วมกันสร้างวั ฒนธรรมใหม่ในวงราชการให้มุ่งเน้ นในการรับใช้ประชาชน ถือเอาประชาชนเป็นใหญ่ ถือเอาประชาชนเป็นที่พึ่ง เป็นสรณะ และทำให้การพัฒนาทั้งปวงเป็ นไปเพื่อประโยชน์สุ ขของมหาชนชาวไทยสืบไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ