#การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านศาสนาและด้านพระพุทธศาสนา








"อนุฯกมธ.ศาสนา" ชี้ ขั้นตอนปฏิรูปประเทศให้สำเร็จต้องปฏิรูปประชาชน ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นพลเมืองดี
นายสมพร เทพสิทธา ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา กล่าวในการการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ด้านศาสนา และด้านพระพุทธศาสนาว่า การจะปฏิรูปประเทศ ในทุกด้าน ให้เกิดผลสำเร็จสูงสุด หัวใจหลักสำคัญต้องปฏิรูปประชาชน ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ตระหนักถึงการเป็นพลเมืองดี จึงจะส่งผลให้การเดินหน้าปฏิรูป เป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อย ขนาดเดียวกัน การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านศาสนา จะเป็นกลไกในการ สร้างความสงบสุขความเป็นธรรมและขจัดความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้นได้ในสังคมเนื่องจากศาสนาเป็นบ่อเกิดของการสร้างคนดี หาก ยุทธศาสตร์ด้านศาสนา มีผลบังคับใช้ จะเป็นกลไกสำคัญ ในการให้ทุกศาสนา จับมือกัน เดินหน้าสู่ประเทศได้
#การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านศาสนาและด้านพระพุทธศาสนา


#เพื่อความมั่นคงพระศาสนาในประวัติศาสตร์ไทยโปรดช่วยอ่านและแชร์ครับ
อนุกรรมาธิการด้านศาสนา จัดงานสัมมนาพัฒนาจิตใจและการพัฒนาปัญญา เตรียมนำข้อสรุปเสนอรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายสมพร เทพสิทธา ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศาสนา กล่าวเปิดงานสมัมนา เรื่องการพัฒนาจิตใจและการพัฒนาปัญญา จัดโดยคณะอนุกรรมาธิการด้านศาสนา ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ อาคารรัฐสภา โดยการจัดงานดังกล่าว มีหลักการและวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคนที่สมบูรณ์ตามหลักพระพุทธศาสนาทั้ง 3 ด้าน คือ การพัฒนาทางกาย การพัฒนาทางจิตใจ และการพัฒนาทางปัญญา โดยรัฐมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ มาตรา 67 บัญญัติไว้ว่ารัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นเจตจำนงของกฎหมายที่มีความต้องการให้พุทธศาสนิกชนมีการพัฒนาจิตใจและการพัฒนาปัญญา ควบคู่ไปกับความรู้ทางวิชาการเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการยังเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณสูงสุด ซึ่งข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาในวันนี้ จะนำเสนอต่อรัฐบาลหน่วยงานราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยการสัมมนาการ พัฒนาจิตใจและการพัฒนาปัญญา ในวันนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิและความเชี่ยวชาญเข้าร่วมในการอภิปราย อย่าง พระเมธาวินัยรส รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลับมหามงกุฏราชวิทยาลัย นายสมพร เทพสิทรา ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา นายชยพล พงษ์สีดา ที่ปรึกษาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมี พล.ต.หญิง อุษณีย์เกษมสันต์ ณ อยุธยา อนุกรรมาธิการด้านการศาสนา เป็นผู้ดำเนินรายการ
นอกจากนี้ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านศาสนา ยังกล่าวว่า ศาสนาเป็นองค์ประกอบสำคัญของสังคม ซึ่งความคาดหวังตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่มุ่งหวังให้สังคมมีคุณธรรมได้นั้น ศาสนามีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก

พระแนะพัฒนากายสมาร์ทให้ควบคู่จิตปัญญาสมาร์ท

พระผอ.หลักสูตรสันติศึกษา "มจร" แนะพัฒนากายสมาร์ทควบคู่จิตปัญญาสมาร์ท เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐแน่  พร้อมตั้งคำถามรัฐจะส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างไร
เมื่อเวลา 09 :00น.  ที่อาคารรัฐสภา 2 คณะอนุกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จัดการอภิปราย เรื่อง "การพัฒนาจิตใจและพัฒนาปัญญา"  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำทางศาสนา นักวิชาการ และนักปฏิบัติได้ร่วมกันหาแนวทางและเครื่องมือในการดำเนินตามแนวนโยบายแห่งรัฐ โดยมีพระมหาหรรษา ธัมมหาโส ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ ร่วมด้วย

พระมหาหรรษา กล่าวว่า ตามที่กฏหมายรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ มาตรา 67 ได้บัญญัติว่า "รัฐพึงอุปถัมภ์ และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่น.... รัฐพึงส่งเสริม และสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา..." นั้น คำถามที่สำคัญคือ รัฐจะส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างไร จึงจะทำให้การพัฒนาจิตใจและปัญญาอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ และนี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้คณะอนุกรรมการด้านศาสนาฯ  ซึ่งมีอาจารย์สมพร เทพสิทธา  ประธานคณะอนุกรรมาธิการศาสนาฯ จัดสัมมนา เรื่อง "การพัฒนาจิตใจ และการพัฒนาปัญญา" เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว

จิตใจและปัญญาของคนไทยมีปัญหาอะไร?!? จึงต้องใช้หลักธรรมพระพุทธศาสนาเถรวาทมาช่วยเติมเต็ม เมื่อมองมิติด้านจิตใจ คนไทย (บางคน) ใจแคบ ใจทุกข์ และใจแล้งพรหมวิหาร ในขณะที่มิติทางปัญญา คนไทย (บางคน) ปัญญาอ่อน ปัญญามือบอด ปัญญาเสพมากกว่าปัญญาสร้าง ปัญญาที่มุ่งแสวงหาช่องมุจริตคิดคด เพื่อประโยชน์ส่วนตนไม่สนใจความอยู่รอดของคนอื่นๆ ในสังคมและชุมชน จิตใจและปัญญาฉาบทาด้วยลักษณะบางอย่างดังกล่าวแล้ว จึงทำให้รัฐ จึงทำให้รัฐจึงมุ่งออกแบบรัฐธรรมที่มีลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า "รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง" โดยมุ่งหวังให้นำกลักธรรมมาปลูก ปลุก ปรับ และเปลี่ยน

หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาทที่จะนำมาเสริมปัญญาและพัฒนาจิตนั้น ชัดในตัวเองอยู่แล้ว การสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา จึงหมายถึงการนำไตรสิกขา อันได้แก่ ศีล สาธิ และปัญญาเข้ามาช่วยส่งเสริมแล้วพัฒนา ซึ่งเป็นการสรุปรวบรอดจากมรรค 8 ตามแนวทางทาง "ปรับความคิด เปลี่ยนพฤติกรรม และปล่อยวางจิตใจ" อันเป็นการใช้สัมมาทิฐิ และสัมมาสังกัปปะ มาปรับความคิด การนำสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะมาเปลี่ยนพฤติกรรม และการนำสัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิมาปล่องวางจิตใจ

ข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการเชิงนโยบายที่รัฐน่าจะต้องนำมาช่วยพัฒนาจิตใจและปัญญานั้น คือ การเน้นพัฒนาโรงเรียนสติ และสมาธิ (Mindful School) โรงเรียนสันติสุข (Peaceful School) หลักสูตรสติ และวิชาสมาธิในสถานศึกษา และที่ทำงาน (Peaceful Subject&Curriculum) การพัฒนาวันสติ หรือชั่วโมงสติในที่ทำงาน รวมไปถึงการพัฒนาจิตดิจิทัลควบคู่ไปกับเทคโนโลยีและการสื่อสารทางดิจิตัล พร้อมๆ กับการพัฒนานวัตกรรมทางสติเพื่อให้เกิดการใช้ปัญญาแบบนวัตกรรมประดิษฐ์คิดค้นความสุขควบคู่ไปกับสร้างความสะดวกสบายทางกายตามแนวทางของ Smart City ดังนั้น Smart City จึงไม่ได้เน้นเฉพาะความสะดวกสบายทางกายเท่านั้น แต่สร้างสร้างพื้นที่ให้คนสามารถมี Smart Mind คือมีจิตใจที่มีความสุข มีปัญญาในการที่คิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และสร้างโลกใบนี้ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขด้วย
...............................
(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Hansa Dhammahaso)




#สัจจะบารมีสำคัญในแผ่นดินของพระราชา
พวกเรายังมีความหวังว่าท่านนายกจะทำได้อย่างที่พูด และโปรดอย่าไปเกรงกลัวต่ออำนาจของพวกโจรปล้นพระพุทธศาสนาเลย มันจะไม่เป็นผลดีต่อชาติและประชาชนเลย
พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา พูดถึงประเด็นทางศาสนา  "...ในเรื่องของศาสนานั้นทุกคนต้องช่วยกัน เราก็จะ ใช้กลไก ทุกกลไก ได้ช่วยกันเร่งรัดตรวจสอบ ขจัดมารศาสนา ออกไป ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และทุกศาสนา ให้เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  ตลอดไป ด้วยความเชื่อมั่น และศรัทธาอย่างแท้จริง...")

 วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 20.30 น. ให้บังเอิญ ได้ยินพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย  ในช่วงนาทีท้าย ๆ ได้พูดถึงประเด็นศาสนาไว้ว่า "...ในเรื่องของศาสนานั้นทุกคนต้องช่วยกัน เราก็จะ ใช้กลไก ทุกกลไก ได้ช่วยกันเร่งรัดตรวจสอบ ขจัดมารศาสนา ออกไป ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และทุกศาสนา ให้เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  ตลอดไป ด้วยความเชื่อมั่น และศรัทธาอย่างแท้จริง..." 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ