คสช. สอบเงินสหกรณ์คลองจั่น พัวพันวัดพระธรรมกาย
ร้อง คสช. สอบเงินสหกรณ์คลองจั่น
พัวพันวัดพระธรรมกาย


อา..หรือว่า หลวงพ่อธัมมชโย ผู้นำพุทธโลก พระอริยะผู้หยั่งรู้ดินฟ้า เห็นแม้กระทั่งสวรรค์ นรก ในไตรภูมิ สามารถทำนายผู้วายชนม์ เช่น สตีฟ จ็อปส์ ว่าตายแล้วไปไหน เกิดเป็นอะไร ด้วยผลบุญผลกรรมอะไร ฯลฯ ในวันนี้ พ่อใหญ่ธัมมชโยจะต้องมรสุมชีวิตว่าด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกครั้งหรือไม่ หลังจากต้องกลายเป็นเสือติดจั่นไปร่วมๆ 10 ปี ในทศวรรษก่อน ถามหมอดูคงบอกว่า "ราหูเข้า" อีกแล้วครับท่าน

หลักฐานสำคัญในคดีคลองจั่น
สืบเนื่องจากกรณีวิกฤติขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอดีตคณะกรรมการผู้บริหารซึ่งมาจากการเลือกตั้งซึ่งนำโดย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ หลายสมัย ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ายักยอกทรัพย์สินสหกรณ์กว่า 15,000 ล้านบาท และต่อมาถูกกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนปลดจากตำแหน่ง จนกระทั่งมีการเลือกตั้งได้คณะกรรมการชุดใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหา นำโดยนายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานคณะกรรมการดำเนินการ ซึ่งเข้ามาบริหารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 (อ่านเพิ่มเติม)
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการชุดใหม่ได้ดำเนินการในหลายๆ เรื่อง อาทิ จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการยื่นให้ศาลล้มละลายกลางมีคำวินิจฉัยบังคับแผน ล่าสุดยื่นแผนต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ดำเนินการเร่งรัดติดตามหนี้ในส่วนของลูกหนี้ที่มีปัญหา พบปะชี้แจงและทำความเข้าใจกับกับเจ้าหนี้ทุกประเภท
ผลจากความเดือดร้อนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณห้าสิบคน ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าหลังร้องเรียนขอความอนุเคราะห์ทางการเงินเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) และส่งหนังสือต่อให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อ
นายชรินทร์ ล้วนเครือ แกนนำสมาชิกกลุ่มที่เดือดร้อนจากปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า พวกตนได้มายื่นหนังสือเพื่อแจ้งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทราบถึงเหตุการณ์ทุจริตครั้งใหญ่ในวงการสหกรณ์ สร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัสให้กับสมาชิกสหกรณ์กว่า 5 หมื่นคน โดยมีสาเหตุจากอดีตคณะกรรมการที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ อนุมัติให้สหกรณ์ปล่อยกู้แก่บริษัทที่ไม่มีการดำเนินกิจการจริงหลายแห่ง อีกทั้งแสดงบัญชีสหกรณ์ว่ามีกำไรติดต่อกันหลายปีทั้งที่ขาดทุน ประกอบกับสาเหตุคือหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการยับยั้งการทุจริตทั้งที่พบความผิดปกติก่อนหน้าหลายปี
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ คลองจั่นแสดงผลกำไรในรายงานประจำปีมาตลอด อีกทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ยังมอบรางวัลสหกรณ์ดีเลิศประจำปี 2554 และนายศุภชัย อดีตประธาน ถึงกับได้รับรางวัลนักสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2550 ทั้งหมดนี้เหมือนสร้างภาพลักษณ์ลวงตา สมาชิกจึงชักชวนกันนำเงินมาฝากโดยไม่เคยรับรู้สถานะที่แท้จริงของสหกรณ์มาโดยตลอด ซึ่งกว่าจะรู้ความจริงจากสื่อต่างๆ ก็สายเกินกว่าจะถอนเงินตัวเองแล้ว” นายชรินทร์กล่าว
นายชรินทร์กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการที่คณะกรรมการชุดปัจจุบันและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันทำอยู่ แต่แผนดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาแก้ปัญหายาวนานไม่ต่ำกว่า 4-8 ปี ระหว่างนี้สมาชิกจะถอนเงินได้เพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกจำนวนมากเป็นผู้เกษียณอายุ ไม่มีรายได้ เงินก้อนใหญ่ก็นำมาฝากที่นี่ ที่ผ่านมา 1 ปีตั้งแต่ถอนเงินไม่ได้ทำให้สมาชิกหลายคนเสียชีวิตเพราะไม่มีเงินรักษาพยาบาล และเมื่อสิ้นสุดแผนสมาชิกก็อาจไม่ได้เงินตนเองครบทั้งจำนวน
ทางสมาชิกที่ยื่นหนังสือ ได้ร้องขอความธรรมจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินเป็นการด่วน 3 ข้อ
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการชุดใหม่ได้ดำเนินการในหลายๆ เรื่อง อาทิ จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการยื่นให้ศาลล้มละลายกลางมีคำวินิจฉัยบังคับแผน ล่าสุดยื่นแผนต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ดำเนินการเร่งรัดติดตามหนี้ในส่วนของลูกหนี้ที่มีปัญหา พบปะชี้แจงและทำความเข้าใจกับกับเจ้าหนี้ทุกประเภท
ผลจากความเดือดร้อนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณห้าสิบคน ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าหลังร้องเรียนขอความอนุเคราะห์ทางการเงินเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) และส่งหนังสือต่อให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อ
นายชรินทร์ ล้วนเครือ แกนนำสมาชิกกลุ่มที่เดือดร้อนจากปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า พวกตนได้มายื่นหนังสือเพื่อแจ้งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทราบถึงเหตุการณ์ทุจริตครั้งใหญ่ในวงการสหกรณ์ สร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัสให้กับสมาชิกสหกรณ์กว่า 5 หมื่นคน โดยมีสาเหตุจากอดีตคณะกรรมการที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ อนุมัติให้สหกรณ์ปล่อยกู้แก่บริษัทที่ไม่มีการดำเนินกิจการจริงหลายแห่ง อีกทั้งแสดงบัญชีสหกรณ์ว่ามีกำไรติดต่อกันหลายปีทั้งที่ขาดทุน ประกอบกับสาเหตุคือหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่รับผิดชอบละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการยับยั้งการทุจริตทั้งที่พบความผิดปกติก่อนหน้าหลายปี
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา สหกรณ์ฯ คลองจั่นแสดงผลกำไรในรายงานประจำปีมาตลอด อีกทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ยังมอบรางวัลสหกรณ์ดีเลิศประจำปี 2554 และนายศุภชัย อดีตประธาน ถึงกับได้รับรางวัลนักสหกรณ์แห่งชาติประจำปี 2550 ทั้งหมดนี้เหมือนสร้างภาพลักษณ์ลวงตา สมาชิกจึงชักชวนกันนำเงินมาฝากโดยไม่เคยรับรู้สถานะที่แท้จริงของสหกรณ์มาโดยตลอด ซึ่งกว่าจะรู้ความจริงจากสื่อต่างๆ ก็สายเกินกว่าจะถอนเงินตัวเองแล้ว” นายชรินทร์กล่าว
นายชรินทร์กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการที่คณะกรรมการชุดปัจจุบันและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันทำอยู่ แต่แผนดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาแก้ปัญหายาวนานไม่ต่ำกว่า 4-8 ปี ระหว่างนี้สมาชิกจะถอนเงินได้เพียงเล็กน้อย ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกจำนวนมากเป็นผู้เกษียณอายุ ไม่มีรายได้ เงินก้อนใหญ่ก็นำมาฝากที่นี่ ที่ผ่านมา 1 ปีตั้งแต่ถอนเงินไม่ได้ทำให้สมาชิกหลายคนเสียชีวิตเพราะไม่มีเงินรักษาพยาบาล และเมื่อสิ้นสุดแผนสมาชิกก็อาจไม่ได้เงินตนเองครบทั้งจำนวน
ทางสมาชิกที่ยื่นหนังสือ ได้ร้องขอความธรรมจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินเป็นการด่วน 3 ข้อ
1. จัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาสมาชิก ทั้งประเภทที่ออมกับสหกรณ์ในรูปแบบหุ้นมูลค่า 4,700 ล้าน และสมาชิกบุคคลที่ฝากเงินมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท โดยระดมเงินจากสหกรณ์ 8,000 แห่งทั่วประเทศรวมกับงบประมาณจากรัฐเสริม
2. ต้องการให้สอบสวนและลงโทษข้าราชการที่ร่วมทุจริตหรือละเลย เอื้อให้เกิดการฉ้อโกงต่อเนื่องหลายปี
3. ปฏิรูปโครงสร้างการควบคุมสถาบันการเงินประเภทสหกรณ์ ย้ายจากเดิมที่ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล ซึ่งขาดความรู้ทางการเงินการธนาคาร ให้กระทรวงการคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยควบคุมแทน
4. ดำเนินการเอาผิดนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพรรคพวก ประกอบด้วย ข้าราชการ นักการเมือง เจ้าอาวาสวัดชื่อดัง หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าคณะเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สอบถามความคืบหน้าและสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการแก้ปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ภายใน 1 เดือน เพราะปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงของสหกรณ์ฯ คลองจั่นส่งผลกระทบต่อสมาชิกผู้ฝากเงินมากกว่า 5 หมื่นราย
ปลัดกระทรวงเกษตรกล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวมีความล่าช้ามานานตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อีกทั้งกลุ่มสมาชิกเข้าร้องเรียนและยื่นหนังสือให้ คสช. ช่วยเร่งติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งด้านดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ที่ร่วมทุจริต และการติดตามเงินที่อดีตประธานใช้เงินสหกรณ์บริจาคกับวัดพระธรรมกาย
นายชวลิตกล่าวต่อว่า แนวทางการการแก้ไขปัญหาสหกรณ์ฯ คลองจั่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯ คลองจั่นทำแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนฟื้นฟูกิจการ หากทั้งสองหน่วยงานรับรอง กระทรวงเกษตรฯ จะประสานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้กิจการสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่สามารถบังคับใช้แผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางได้ จากเดิมมีระบุเพียงบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนเท่านั้น หากแผนฟื้นฟูมีการบังคับใช้ ภาคราชการสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือค้ำประกันเงินกู้ได้ ส่วนคดีแพ่งและอาญาอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมสืบสวนคดีพิเศษและอัยการ
ส่วนนายจุมพล สงวนศิลป์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าจำนวนเงินที่จะใช้สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งหากแผนฟื้นฟูผ่านการพิจารณาของ สศค. และ ธปท. แล้ว คาดว่าจะมีสถาบันการเงินของรัฐและสหกรณ์ต่างๆ ยินดีปล่อยกู้เพราะมั่นใจว่าเงินที่ปล่อยไปมีหลักประกัน
ทั้งนี้ ที่มาของเงิน 5 พันล้านนั้นคาดว่าจะมาจาก 1. ทรัพย์สินของสหกรณ์ เช่น อาคาร U-Tower ถ.ศรีนครินทร์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท และทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดคืนจากนายศุภชัยและพวกมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท 2. เงินกู้จากสหกรณ์อื่นๆ ที่มีทั่วประเทศกว่า 8,000 แห่ง ร่วมปล่อยสินเชื่อตามความสมัครใจ ภายใต้ชื่อโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ล่าสุดมีสหกรณ์แสดงเจตจำนงปล่อยกู้ให้สหกรณ์ฯ คลองจั่นแล้วประมาณ 116 ล้านบาท และ 3. การสนับสนุนของรัฐบาล โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ขอใช้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) วงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์ที่ยอมปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่น หากเป็นไปตามแผนจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-8 ปี น่าจะคืนเงินให้สมาชิกได้หมด
ปลัดกระทรวงเกษตรกล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวมีความล่าช้ามานานตั้งแต่กลางปีที่แล้ว อีกทั้งกลุ่มสมาชิกเข้าร้องเรียนและยื่นหนังสือให้ คสช. ช่วยเร่งติดตามการดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งด้านดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ที่ร่วมทุจริต และการติดตามเงินที่อดีตประธานใช้เงินสหกรณ์บริจาคกับวัดพระธรรมกาย
นายชวลิตกล่าวต่อว่า แนวทางการการแก้ไขปัญหาสหกรณ์ฯ คลองจั่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯ คลองจั่นทำแผนฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตรวจสอบความเป็นไปได้ของแผนฟื้นฟูกิจการ หากทั้งสองหน่วยงานรับรอง กระทรวงเกษตรฯ จะประสานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้กิจการสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่สามารถบังคับใช้แผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางได้ จากเดิมมีระบุเพียงบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนเท่านั้น หากแผนฟื้นฟูมีการบังคับใช้ ภาคราชการสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือหรือค้ำประกันเงินกู้ได้ ส่วนคดีแพ่งและอาญาอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมสืบสวนคดีพิเศษและอัยการ
ส่วนนายจุมพล สงวนศิลป์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าจำนวนเงินที่จะใช้สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่นประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งหากแผนฟื้นฟูผ่านการพิจารณาของ สศค. และ ธปท. แล้ว คาดว่าจะมีสถาบันการเงินของรัฐและสหกรณ์ต่างๆ ยินดีปล่อยกู้เพราะมั่นใจว่าเงินที่ปล่อยไปมีหลักประกัน
ทั้งนี้ ที่มาของเงิน 5 พันล้านนั้นคาดว่าจะมาจาก 1. ทรัพย์สินของสหกรณ์ เช่น อาคาร U-Tower ถ.ศรีนครินทร์ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านบาท และทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดคืนจากนายศุภชัยและพวกมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท 2. เงินกู้จากสหกรณ์อื่นๆ ที่มีทั่วประเทศกว่า 8,000 แห่ง ร่วมปล่อยสินเชื่อตามความสมัครใจ ภายใต้ชื่อโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ล่าสุดมีสหกรณ์แสดงเจตจำนงปล่อยกู้ให้สหกรณ์ฯ คลองจั่นแล้วประมาณ 116 ล้านบาท และ 3. การสนับสนุนของรัฐบาล โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ขอใช้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) วงเงิน 1 พันล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้สหกรณ์ที่ยอมปล่อยกู้ให้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่น หากเป็นไปตามแผนจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-8 ปี น่าจะคืนเงินให้สมาชิกได้หมด
ที่มา : ไทยพับลิกา3 กรกฎาคม 2557
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ