วิเคราะห์ สัญญาณเข้ม รัฐบาลบิ๊กตู่ อยู่ต่อ 2 ปี

วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 17:44:47 น.
วิเคราะห์ สัญญาณเข้ม รัฐบาลบิ๊กตู่ อยู่ต่อ 2 ปี
 

ไม่ได้เกินไปกว่าความคาดหมาย เมื่อเริ่มมีกระแสตอบรับให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รวมทั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่บริหารประเทศต่ออีก 2 ปี

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรม นั่นคือ ความเคลื่อนไหวของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ประกาศล่าชื่อ

ล่าชื่อเพื่อทำประชามติให้ต่ออายุรัฐบาลไปอีก2 ปี โดยอ้างเหตุปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเหมือนเดิม

http://www.matichon.co.th/online/2015/06/14336739001433673912l.jpg
กลุ่มผู้เคลื่อนไหวยังคงเป็นกลุ่มอดีต 40 ส.ว. โดยมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นผู้เปิดประเด็นออกมาอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงความเห็นเช่นนี้ออกมาแล้ว

นายไพบูลย์เสนอว่าประชาชนอยากเห็นรัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไป เพราะการปฏิรูปยังไม่สำเร็จ ควรจะมีการปฏิรูปก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง

ตอนที่นายไพบูลย์นำเสนอครั้งแรกนั้น กระแสต้านมีเยอะกระแสตอบรับยังไม่ดังพอเรื่องจึงเงียบ

ผิดกับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีรูปแบบการผลักดันชัดเจนขึ้น

และที่สำคัญคือ ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ปฏิเสธ

พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า หากทุกคนต้องการให้อยู่ต่อก็พร้อมจะทำงานให้

แต่ขอให้ไปหาทางมา

กระแสข่าวที่ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะต้องบริหารประเทศต่อไปนั้นเกิดขึ้นเนืองๆ เพียงแต่รูปแบบการอยู่ต่อยังไม่แน่ชัด

ก่อนหน้านั้นมีกระแสว่า รัฐบาลจะอยู่ต่อโดยไม่มีการเลือกตั้ง แต่นายกรัฐมนตรีอาจจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์คนเดิม หรือเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น ยังต้องลุ้น

อีกกระแสระบุว่า คสช.จะผลักดันให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง แต่ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไร คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นบุคคลที่ฝ่ายทหารยอมรับ

ไม่ว่าจะเป็นกระแสใดก็ยังคงเป้าหมายที่เปิดทางให้ฝ่ายทหารคุมการบริหารประเทศเอาไว้ก่อน

อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระแสข่าวดังกล่าวจะกระพือแรงเท่าใดก็ยังไม่แจ่มชัด เพราะท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ยังแบ่งรับแบ่งสู้ และกลุ่มพลังแวดล้อมยังไม่ฟันธง

กระทั่งกาลเวลาผ่านมา 1 ปี คสช.โดยคณะรัฐมนตรีนัด สปช. และ สนช. พูดคุยเพื่อแถลงผลการทำงานให้ฟัง

วันเดียวกันนั้นก็เกิดการจุดชนวนผลักดันให้รัฐบาลอยู่ต่ออีก 2 ปีขึ้นมา พร้อมกับการขานรับ...เห็นด้วย

ส่งเป็นสัญญาณว่า แนวโน้มอนาคตคือยังไม่มีเลือกตั้ง ขณะเดียวกันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารต่อ

ต่อจากโรดแมปที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศไว้หลังยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

อยู่ต่อไปอีก 2 ปี

ความเป็นไปได้ที่ คสช.จะเห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าวก็เพราะเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบันสิ่งที่ปรากฏขึ้นยังคงเหมือนกับเมื่อปี2557

วันนี้ความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะไม่คมชัดเช่นก่อน แต่ความนิยมในตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นสัมผัสได้ว่ายังแรง

การเดินทางไปศาลเพื่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ยอมยับยั้งนโยบายรับจำนำข้าวตันละ15,000 บาท จนทำให้ประเทศชาติเสียหายนั้น ได้ปรากฏมวลชนไปให้กำลังใจจำนวนมาก

มวลชนยังคงให้ความนิยมในตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ แม้ว่าจะถูก สนช.ถอดถอนและถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีแล้วก็ตาม

หากเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใครจะรับประกันว่าพรรคที่ พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุน หรือพรรคที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ได้รับเลือกมาเป็นรัฐบาลอีก

ดังนั้น จึงมีการมองกันว่าหากปล่อยให้มีการเลือกตั้งขึ้นโอกาสที่จะ เสียของŽ เหมือนกับที่เคยเสียมาแล้วตอน

เลือกตั้งปี 2550 และเลือกตั้งปี 2554 จะมีสูงยิ่ง

ทางที่ดีที่สุดที่จะกุมอำนาจบริหารประเทศได้

นั่นก็คือ ยังไม่เลือกตั้ง
ขณะที่กลุ่มนักธุรกิจเองก็มองว่าการบริหารประเทศของ คสช. ทำให้บ้านเมืองสงบ แม้ประเทศจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจแต่การรักษาความสงบเอาไว้ได้ ย่อมดีกว่าการปล่อยให้ประเทศวุ่นวายเหมือนอย่างที่เกิดเหตุการณ์ชัตดาวน์เมื่อปี 2556-2557

อย่างน้อยกลุ่มธุรกิจที่อยู่ตรงข้ามกับกลุ่มทุนฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังมีที่ยืนในตำแหน่งหลากหลาย อีกทั้งมีสายสัมพันธ์อันเป็นบวกต่อธุรกิจตัวเองมากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแบงก์ กลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หรือกลุ่มอุตสาหกรรม ยังมีสถานะเป็นผู้กำหนดได้มากกว่าเก่า

ดังนั้น หากเปรียบเทียบกับปี 2554 หลังเลือกตั้ง 3 กรกฎาคมแล้ว ความได้เปรียบและความสามารถในการต่อรองของนักธุรกิจกลุ่มนี้ในขณะนี้ย่อมมีมากกว่า

หากการเลือกตั้งครั้งหน้ามีแนวโน้มว่าอำนาจจะคืนไปสู่กลุ่มพ.ต.ท.ทักษิณเหมือนเดิม

การมอบให้ คสช.ดูแลประเทศต่อไปย่อมดีกว่า

ดังนั้น สถานการณ์การเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์แสดงท่าทีต่อข้อเสนอให้ยืดอายุรัฐบาลไปอีก 2 ปี และการออกมาสนับสนุนจากกลุ่ม สปช. รวมทั้ง สนช. จึงทำให้เกิดสัญญาณเข้มข้นว่า โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องบริหารต่อไปอีก 2 ปีมีสูง

คำกล่าวที่ว่า ให้ไปหาทางมาŽ รวมไปถึงคำกล่าวที่ให้คนในประเทศช่วยทำความเข้าใจกับต่างประเทศนั้น ทำให้เผลอคิดไปว่า พล.อ.ประยุทธ์เองก็ตัดสินใจอนาคตของรัฐบาลแล้ว

และทำให้คิดไปเองว่า การเมืองไทยต่อไปคือกระบวนการแสวงหาเหตุให้สนองต่อการตัดสินใจนั้น

การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งซึ่งเป็นข้อเสนอเดิมของกปปส. กำลังถูกนำมาจุดประเด็นอีกครั้ง โดยแม่น้ำ 5 สาย

การประชามติที่เดิมเป็นข้อเสนอให้ประชาชนได้ออกเสียงรับรองหรือไม่รับรองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯพิจารณา ได้ถูกขยายผลให้เป็นการประชามติขอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อไปอีก 2 ปีด้วย

ขณะที่การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดำเนินต่อไปตามโรดแมป นั่นคือ ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคมถึง 23 กรกฎาคม กรรมาธิการยกร่างฯต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ

วันที่ 6 สิงหาคม สปช.จะโหวตว่ารับหรือไม่รับ

ขณะเดียวกันกระบวนการสานต่ออายุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้ดำรงอยู่ต่อไปก็ดำเนินไปเป็นคู่ขนาน

พล.อ.ประยุทธ์ที่เพิ่งพูดเรื่องลงจากหลังเสือไปเมื่อวันก่อน

เห็นทีวันนี้อาจจะเปลี่ยนใจ...

อาจจะต้องนั่งขี่เสือต่อไปหากประชาชนต้องการ




ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน 2558

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ