ข่าวสถาบันพระศาสนา ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์


มอบ 2 ต่อ !

ต่อแรก "นายกฯยิ่งลักษณ์มอบให้ยงยุทธ รองนายกฯ กำกับดูแลสำนักพุทธ"
ต่อมา "รองนายกฯยงยุทธมอบให้ นพ.สุรวิทย์ รมต.สำนักนายก กำกับสำนักพุทธฯ"

งานพระศาสนาดูไร้ค่าลงไปทุกที เฮ้อ !




นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้รับมอบหมายให้กำกับการบริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ



ดัน "แบงค์พุทธ" แหล่งเงินทุนอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา


"นพ.สุรวิทย์” เอาแน่ ตั้ง แบ๊งค์พุทธ” สั่งสำนักพุทธฯ เร่งนำร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนามาเสนอ รองอธิการบดีมจร. คาด ใช้งบจัดตั้ง พันล้านบาท หวังเป็นแหล่งเงินทุนอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ ก.ย. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตามที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตนวางแผนที่จะดำเนินการงานด้านพระพุทธศาสนาใน เรื่องสำคัญ คือ

1. จากการที่ไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกแต่ที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ตนจึงได้หารือกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และเห็นว่า จะต้องมีการตั้งสำนักงานกลางพระพุทธศาสนาโลกขึ้นที่ประเทศไทย ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และต้องการให้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสำนักงานนี้ในวันที่ ธ.ค.เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา

2. การใช้สื่อในการเผยแพร่เรื่องราวในด้านต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งในปัจจุบันมีสื่อในลักษณะนี้อยู่มากพอสมควร โดยมีทั้งโทรทัศน์ และวิทยุ ดังนั้นจะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลให้กับสื่อต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศด้วย

3. การจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ซึ่งทราบมาว่าขณะนี้มีการร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯนำร่าง พ.ร.บ.นี้มานำเสนอตน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและให้สามารถจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาได้สำเร็จ

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนามีอยู่เพียง ฉบับ โดยเป็นร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา ที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นมีนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เป็นประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ นำเสนอไปยัง นพ.สุรวิทย์

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงจำเป็นที่จะต้องนำร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน เพื่อขอความเห็นชอบก่อน

ด้านพระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานกองทุนพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา กล่าวว่า หลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต้องถูกพับเก็บไปก่อนเนื่องจากมีการยุบสภาไป แต่ขณะนี้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้วจึงจะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้อีกครั้ง โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย 20 คน ลงนามที่จะเสนอร่าง  พ.ร.บ. นี้แล้ว ซึ่งตามหลักกฎหมาย เมื่อมี ส.ส.ลงนาม 20 คน จะทำให้สามารถเสนอออกกฎหมายได้

สำหรับร่าง พ.ร.บ. นี้จะมีทั้งหมด 63 มาตรา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้เป็นแหล่งทุนในการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นหลัก ไม่มุ่งเน้นในเชิงธุรกิจเท่ากับธนาคารทั่วไป ทั้งยังจะมีการพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้ผู้ที่มีคุณธรรมศีลธรรม ซึ่งจะมีการใช้ทุนประเดิมในการจัดตั้ง 2,000 ล้านบาท แยกเป็นทุนจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาท จะมาจากการกระจายหุ้นของธนาคาร ทั้งนี้ การดำเนินงานของธนาคารพระพุทธศาสนาจะเน้นช่วยเหลือคนรากหญ้า ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ รวมทั้งต้องการให้พระสงฆ์พุทธศาสนิกชนมีแหล่งเงินทุนในการนำไปอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง หากวัดบางแห่งไม่มีงบประมาณในการบูรณะ พัฒนาวัดก็จะได้มีแหล่งเงินทุนสนับสนุนอย่างชัดเจน แต่จะไม่แย่งลูกค้าของธนาคารแห่งอื่นๆ อย่างแน่นอน



ข่าว คมชัดลึก
05 กันยายน 2554



'จารย์บำรุงฟันธง !

"ยิ่งลักษณ์อยู่ไม่ถึงสิ้นปี"

แนะอภิสิทธิ์ "คิดรีเทิร์นต้องกล้าเสี่ยง"

อา..เมื่อผ้าเหลืองแบ่งค่ายการเมือง จะเกิดอะไรขึ้น ?





พระครูวิจิตรสุธาการ หรือพระอาจารย์อำนวย วัดวังค้างคาว ลพบุรี หมอดูประจำตระกูลชินวัตร ทั้งดูดวงทั้งเชียร์ดวง ก่อนจะฟันธงว่า "หนูปูจะอยู่นานจนอายุ 60"



พระธรรมเสนานุวัตร (บำรุง ฐานุตฺตโม ป.ธ.7) เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดใหญ่-วัดพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลกสองแคว รองเจ้าคณะภาค 5 ซึ่งเคยสร้างวีรกรรม "เทศน์ไล่คนเสื้อแดงพ้นวัดใหญ่" ในปี 2552 ที่ผ่านมา วันนี้ เจ้าคุณบำรุงสวมบทกุนซือพรรคประชาธิปัตย์ สั่งสอนอภิสิทธิ์"ถ้าคิดการใหญ่ต้องใจถึง" พร้อมกับบอกใบ้ "ยิ่งลักษณ์ไปได้ไม่กี่น้ำ" ที่น่าสนใจก็คือท่านพูดว่า "ถ้าอภิสิทธิ์ได้กลับมาเป็นนายกฯ ก็ขอให้ ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วย"

อืม..มันแปลกดีนะ ก็ยิ่งลักษณ์เขาเพิ่งเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ๆ จะขออะไรก็ควรขอกับรัฐบาลสิ แต่นี่ไปขอกับฝ่ายค้านมันจะสำเร็จไปได้อย่างไร ? จะรักใครชอบใครก็ไม่น่าจะเลยเถิดจนปานนั้น เป็นถึงรองเจ้าคณะภาค พูดออกมาอย่างนี้ก็เสียรังวัดหมดซีฮะ หรือว่าไหนๆ ก็เคยเทหน้าตัก "ไล่แดงพ้นวัด" มาแล้ว วันนี้จะขอคืนดีกับพรรคเพื่อไทยคงไม่ง่าย จารย์บำรุงเลยขีดเส้นเป็นพระจีวรเหลืองให้รู้เหลืองรู้แดงกันไปเลย

แต่..แต่ท่านอาจจะมีตาทิพย์จริงๆ ก็ได้ เพราะท่านบอกแล้วไงว่ายิ่งลักษณ์อยู่ได้ไม่เกินสิ้นปี หรืออย่างช้าก็ต้นปีหน้า ดังนั้น ที่ท่านขอกับพรรคประชาธิปัตย์ไว้น่ะคงเห็นว่าไม่ไกลเกินฝัน ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ระหว่างหมอดูวังค้างคาว (ลพบุรี) กับวังจันทร์ (พิษณุโลก) ใครจะแน่กว่าใคร ?

ว่าแต่ท่านพระธรรมปัญญาภรณ์ เจ้าคณะภาค 5 ว่ายังไงฮะ ? ไหนเห็นโฆษกมหาเถรสมาคมประกาศว่า "ห้ามพระสงฆ์ฝักใฝ่ในทางการเมือง" น่ะ หรือว่าห้ามเฉพาะพระเด็กๆ เท่านั้น พอพวกผู้ใหญ่เป็นเสียเองก็เป่าสาก มิน่า "พระผู้ใหญ่ปากพล่อยๆ" จึงมากขึ้นทุกวัน






เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก แนะ มาร์ค หากได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกล้าเสี่ยงและทำงานช่วยเหลือประชาชนให้รวดเร็ว...  

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และ ส.ส.ของพรรค กว่า 30 คนได้เดินเท้าไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อกราบนมัสการ พระพุทธชินราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งระหว่างทางที่เดินเท้าไปนั้น มีประชาชนให้การต้อนรับ รุมขอถ่ายรูปตลอดทางที่ก่อนถึงวัด

โดยหลังจากที่กราบนมัสการ นายอภิสิทธิ์ และคณะได้พากันออกมาถ่ายรูปร่วมกันที่บริเวณหน้าพระอุโบสถ จากนั้นได้เดินทางไปกราบนมัสการ พระธรรมเสนานุวัตร พิพัฒน์กิจจานุยุต เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร รองเจ้าคณะภาค 5 นานประมาณ 20 นาที ซึ่งในการเข้ากราบนมัสการครั้งนี้ พระธรรมเสนานุวัตร ได้กล่าวกับ นายอภิสิทธิ์ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก สุโขทัย และพิจิตร ว่า หากได้กลับมาอีก ขอให้ทำในเรื่องการขุดลอกแม่น้ำยม และขุดสร้างแม่น้ำสายใหม่ที่สามารถไปเชื่อมแม่น้ำยมให้ได้ เพราะจะช่วยระบายน้ำในพื้นที่ของภาคเหนือทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าว โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างเขื่อนใดๆ ขึ้นมาอีก และตรวจตรารักษาระบบการระบายน้ำให้ดี พร้อมกันนี้ ยังได้แนะนำว่า หากได้กลับมาเป็นนายกฯต้องกล้าทำ

พระธรรมเสนานุวัตร ยังกล่าวต่อว่า เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ จะอยู่ถึงเดือนธันวาคมหรือไม่ ก็ไม่รู้ หรืออย่างช้าก็เดือนเมษายน เป็นเพราะนโยบายที่รัฐบาลทำไว้ ผลจะออกมาให้ประชาชนได้เห็น เช่น กองทุนน้ำมันที่คาดว่าจะเกิดปัญหาแน่นอน จึงขอฝากนายอภิสิทธิ์ว่า หากได้กลับมาเป็นนายกฯอีก ต้องเป็นคนกล้า ต้องเสี่ยง หมดแล้วหมดไปไม่ต้องห่วง ต้องทำทันที อย่างรวดเร็ว ต้องเป็นคนต้องรู้จักหน้าที่ ต้องเข้าใจประชาชน คอยดูแลและต้องมีบริวารที่สำคัญ ต้องใช้ปัญญา

โดยจะฝาก 3 ข้อไว้ให้คิด คือ 1.เป็นคนเก่ง 2. เป็นคนดี 3. ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข โดยการเป็นคนดีจะต้องมี จริยธรรมและคุณธรรม เมื่อเป็นคนดีและมีคุณธรรมก็จะทำให้ประชาชนมีความสุข คนที่เป็นนายกฯต้องคิด ต้องปรับปรุง หากเป็นคนเก่งด้วยมีคุณธรรมด้วยจะเป็นสิ่งที่ดี นอกจากตัวเองจะมีความสุข ประชาชนก็มีความสุขด้วยเหมือนกัน ควรเอาธรรมะของพระพุทธเจ้า มาช่วยในการทำงาน โดยจะต้องตีธรรมะให้แตก

และก่อนที่ นายอภิสิทธิ์ จะลากลับ พระธรรมเสนานุวัตร ได้มอบพระพุทธชินราช(ใบเสมา) องค์สีน้ำตาลแดงให้นายอภิสิทธิ์ด้วย 1 องค์ โดยภายหลังนายอภิสิทธิ์ ได้สั่งให้คนสนิท นำพระองค์ดังกล่าวกลับไปคืน เพราะเกรงว่าจะมีราคาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด


การเมืองไทยๆ ที่อ็อกซ์ฟอร์ดไม่มีสอน
อดีตนายกฯต้องตะลอนไปขอเรียนตามศาลาวัด

เจ้าอาวาสวัดใหญ่บอก รบ.อยู่ไม่ถึง ธ.ค.-เม.ย.นี้ แนะ "มาร์ค" ต้องกล้าทำงานกล้าเสี่ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ กันยายน ระหว่างการสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยบรรดาผู้บริหารและ ส.ส.พรรค จำนวนหนึ่งได้เดินเท้าจากโรงแรมท็อปแลนด์ไปยังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อกราบนมัสการพระพุทธชินราช

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการเข้ากราบนมัสการครั้งนี้พระธรรมเสนานุวัตร ได้กล่าวกับนายอภิสิทธิ์ ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก สุโขทัย และพิจิตร ว่า หากได้กลับมาอีกขอให้ทำในเรื่องการขุดลอกแม่น้ำยม และขุดสร้างแม่น้ำสายใหม่ที่สามารถไปเชื่อมแม่น้ำยมให้ได้เพราะจะช่วยระบายน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดที่กล่าวมา และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างเขื่อนขึ้นมาใหม่ดูพระธรรมเสนานุวัตรแลการระบายน้ำให้ดี

นอกจากนี้ พระธรรมเสนานุวัตร ยังได้กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ถึงเดือนธันวาคมหรือไม่ ก็ไม่รู้ หรืออย่างช้าก็เดือนเมษายน เป็นเพราะนโยบายที่รัฐบาลทำไว้ ผลจะออกมาให้ประชาชนได้เห็น เช่นกองทุนน้ำมันที่คาดว่าจะเกิดปัญหาแน่นอน จึงขอฝากนายอภิสิทธิ์ว่า หากได้กลับมาเป็นนายกฯอีก ต้องเป็นคนกล้า ต้องเสี่ยง หมดแล้วหมดไปไม่ต้องห่วง ต้องทำทันที อย่างรวดเร็ว ต้องเป็นคนรู้จักหน้าที่ ต้องเข้าใจประชาชน คอยดูแล และต้องมีบริวาร ที่สำคัญต้องใช้ปัญญา โดยจะฝาก ข้อไว้ให้คิด คือ 1.เป็นคนเก่ง 2.เป็นคนดี 3.ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข

ทั้งนี้ ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะลากลับ พระธรรมเสนานุวัตรได้มอบพระพุทธชินราช (ใบเสมา) องค์สีน้ำตาลให้นายอภิสิทธิ์ด้วย 1องค์ แต่หลังจากทราบว่าราคาพระมีมูลค่าเกิน พันบาท ก็ได้ให้คนสนิทนำไปมอบคืนให้กับเจ้าอาวาส

ข้อมูล http://www.alittlebuddha.com/

ข่าว ไทยรัฐ-มติชน
04 กันยายน 2554

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ