ข่าวประวัติศาสตร์ จริยธรรมของสื่อมวลชน
หลังจากที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สน.ห้วยขวางเมื่อปลายปี 2550 ให้ดำเนินคดีพนักงาน อสมท. 2 คนในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและกรรมการบริษัทไร่สัม รวมทั้งนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธิกรชื่อดังในฐานะผู้สนับสนุน ทำให้ อสมท ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาทและ สน.ห้วยขวางได้ส่งสำนวนทั้งหมดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ปรากฏว่า แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 4 ปี แต่คดีมีความคืบหน้าช้ามาก ทั้งๆที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ที พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานไว้เป็นจำนวนมาก
-ข้อมูลข่าว เพิ่มเติม http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=43183
-ข้อมูลข่าว เพิ่มเติม http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=43183
ล่าสุดนายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกและกรรมการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ว่า นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการไต่สวนคดีดังกล่าวได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า อนุกรรมการไต่สวนฯได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกกล่าวหลายคนแล้วทั้งในส่วนที่เป็นอดีตพนักงาน อสมท.และไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้น ผู้ที่ได้รับแจ้งข้อกล่าวหาต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.หรืออาจทำเป็นหนังสือชี้แจง จากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปความเห็นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่วินิจฉัยต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าว คณะกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีมติและคำสั่งลงวันที่ 21 ธันวาคม 2549 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ทีพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตสมาชิกวุฒิสภาเป็นประธานขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตหรือการบริหารงานบกพร่องกรณีรายการ’คุยคุ้ยข่าว’รวมทั้งธุรกิจอื่น ตลอดจนการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท อสมท
จากการสอบสวนของคณะกรรมการมีมติให้กล่าวหาพนักงาน บริษัท อสมท และบุคคลภายนอกทั้งทางวินัย อาญาและทางแพ่งกับบุคคลทั้ง 12 รายแตกต่างกันไปได้ แก่
1.นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายบริการลูกค้า 2.น.ส.อัญญา อู่ไทย หัวหน้าส่วนธุรการระดับ 6 ฝ่ายบริการลูกค้า
3.นายประทีป ศรีมณฑล พนักงานธุรกิจระดับ 7 งานคิวโฆษณา
4.นายธนะชัย วงศ์ทองศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายธุรกิจ และเลขานุการบริษัท
5.นางเบจมาศ นนท์วงศ์ พนักงานธุรกิจระดับ 5
6.นายวัลลพ ม่วงกล่ำ พนักงานตัดต่อระดับ 5
7.น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด 1
8.บริษัทไร่ส้ม จำกัด รวมทั้งกรรมการบริษัท คือ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา,น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม และน.ส.มณฑา ธีรเดช
อย่างไรก็ตามเมื่อฝ่ายบริหารพิจารณาสำนวนของคณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่า ให้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่พนักงานของบริษัท อสมท.จำนวน 2 คน โดยกล่าวหาว่าทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 คือ 1.นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาดซึ่งเป็นผู้แลเวลาโฆษณาของบริษัทไร่ส้ม ถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์ในการปลอมแปลงเอกสารและทำลายเอกสาร รวมทั้งรับสินบนจากบริษัทไร่ส้ม และ 2.นางเบจมาศ นนท์วงศ์ ซึ่งเป็นผู้ส่งโฆษณาให้แก่นางนางพิชชาภาและบริษัทไร่ส้มและกรรมการบริษัทไร่ส้ม ถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
ส่วนพนักงาน อสมท. ที่เหลือ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป ยกเว้นพนักงานบางคนที่ลาออกไปแล้ว เช่น น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน และบางคนถูกไล่ออก เช่น นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด
สำหรับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐฯเป็นโทษที่หนักมากมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี 5-20 ปีหรือตลอดชีวิต แล้วแต่เป็นความผิดในฐานไหนหรือประหารชีวิตในกรณีเรียกรับสินบน นอกจากนั้นยังเป็นความผิดอาญาแผ่นดินซึ่งไม่สามารถยอมความได้ แม้จะมีการคืนเงินค่าโฆษณาที่บริษัทไร่ส้มได้รับเกินไปกว่าสัญญาหรือรับไปโดยมิชอบแล้วก็ตาม
สำหรับบริษัท บริษัทไร่ส้มขณะที่ถูกกล่าวนั้น มี นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธิกรชื่อดังและ น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัท
กรรมการประกอบด้วย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา น.ส.อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม
จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547 ประกอบธุรกิจ ผลิตและสร้างสรรค์งานภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ในทุก ๆ รูปแบบ
ส่วนรายได้ของบริษัทไร่ส้มนั่น จากการตรวจสอบงบการเงินในปี 2548 และ ปี 2549 พบว่า มีรายได้ 251,801,969 บาทและ 323,062,245บาทและ มีกำไร132,702,177 บาทและ 86,023,228 บาท ตามลำดับ
SIU วิเคราะห์ว่าประเด็นนี้น่าสนใจเมื่อวิเคราะห์ไปที่ตัวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา เองถือว่าเป็นคนมี “ต้นทุนทางสังคม” ที่สูงมากทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือ การสร้างกระแสสังคม และการจับอารมณ์ของสังคม และเขามี “มูลค่า”ในตัวเองสูงมาก (สูงชนิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องรับงานพรีเซนเตอร์ของโฆษณาใดๆทั้งสิ้น เพราะมูลค่าของเขาสูงกว่าแบรนด์)
โดยก่อนหน้านี้สรยุทธ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองผ่านรายการ “คมชัดลึก” ทางเนชั่น แชนเนล ตั้งแต่ปี 2543 – 2546 ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกกับรายการสไตล์ Hard Talk “ถึงลูกถึงคน” ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. และทวีความดังกับรายการคุยข่าวแบบสนุกสนาน กับ พิธีกรคู่หู กนก รักวงศ์สกุล ในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” จนเกิดกรณีแตกหัก จนกนก เคยเปรยๆว่า “ผมไม่สามารถทำงานกับคนขี้โม้ ขี้โอ่ ขี้โกงได้” หลายๆคนตั้งคำถามว่ากนกหมายถึงใคร? (อ่านรายละเอียดคร่าวๆได้ ที่นี่ ) น่าจับตาว่าในครั้งนี้เขาจะแก้ต่างกับสังคมอย่างไร?
โครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาจริยธรรมของชาติ ที่ สื่อต้องศึกษา https://docs.google.com/viewer?a=v&pid=explorer&chrome=true&srcid=0B_nOh0gPsWNSY2Y0ZDJmZjYtYjViZC00N2NhLTljMDUtYjBjNmUwZGNiMWEx&hl=en_US&pli=1
ข่าวจริยธรรม http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2011/09/blog-post_7026.html
โครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาจริยธรรมของชาติ ที่ สื่อต้องศึกษา https://docs.google.com/viewer?a=v&pid=explorer&chrome=true&srcid=0B_nOh0gPsWNSY2Y0ZDJmZjYtYjViZC00N2NhLTljMDUtYjBjNmUwZGNiMWEx&hl=en_US&pli=1
ข่าวจริยธรรม http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2011/09/blog-post_7026.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ