เทศน์มหาชาติ เพื่อ พระเจ้าอยู่หัว
ในหลวง-พระราชินีทรงสดับพระธรรมเทศนา
วันพุธ ที่ 20 กรกฎาคม 2554 เวลา 19:32 น
เนื้อหาข่าว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว-สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสดับพระธรรมเทศนามหาชาติเวสสันดร “กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถา” ในงานเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาฯ พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จแน่นสองฟากฝั่งถนน
เมื่อเวลา 17.37 น. วันที่ 20 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีนิน หัวหน้าสำนักงานศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อมคณะแพทย์ พยาบาล โดยเสด็จด้วยรถยนต์พระที่นั่งผ่านตึกอานันทราช ไปยังหอประชุมราชแพทยาลัย ในขณะเสด็จฯ พระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพักตร์ที่สดใส แย้มพระสรวลให้แก่พสกนิกร ประชาชนต่างกู่ร้องทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วทั้งโรงพยาบาลศิริราช ประชาชนต่างพร้อมใจกัน เพื่อมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ และชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ตามสองฟากฝั่งถนน ทั้งใน และด้านนอกของโรงพยาบาลศิริราชอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางสายฝน
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่ในฉลองพระองค์สูทสีเทา ทับฉลองพระองค์เชิ้ตสีขาว เนคไทสีน้ำเงิน สนับเพลาสีเทา ฉลองพระบาทสีดำ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์ผ้าลูกไม้สีทอง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “เทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระเกียรติ 79 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล” และทรงสดับพระธรรมเทศนามหาชาติเวสสันดร “กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถา” ณ หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิริราช ในการนี้ ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานคณะกรรมการจัดงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงหอประชุมราชแพทยาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงคม และ ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน กราบบังคมทูลรายงาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดเทียนที่โคมเวียน แล้วพระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่โต๊ะหมู่ข้างพานแว่นฟ้า ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชายิ่ง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงคม พระราชธรรมวาทีขึ้นนั่งยังธรรมาสน์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชธรรมวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา “กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถา” จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
จากนั้น ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ รองศาสตราจารย์อนุพันธ์ ตันติวงศ์ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อได้เวลาอันสมควรจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ เทศน์มหาชาติจะมีทั้งหมด 13 กัณฑ์ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสดับพระธรรมเทศนามหาชาติเวสสันดร “กัณฑ์ทศพร 19 พระคาถา” โดยเป็นกัณฑ์ที่ 1 ทศพร 19 พระคาถา อันว่าด้วยพรสิบประการ ที่พระอินทร์ทรงประทานแก่นางเทพธิดาชื่อว่า ผุสดี ผู้เป็นมเหสี ซึ่งทูลขอไว้ในวันจะจุติจากสวรรค์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ลักษณะพร 10 ประการ ที่พระนางทูลขอ เช่น “ขอเกิดในสีวีปราสาท ขอให้จักษุชาติคมขำ ขอให้คิ้วโก่งโขนงดำ ขอให้มีนามว่า ผุสดี ขอให้ได้พระโอรสผู้มีบุญ ขอให้ท้องไม่นูนเมื่อครรภ์มี” เป็นต้น อานิสงส์ที่ได้จากการฟัง และการบูชากัณฑ์ทศพร คือ จะได้รู้จักเป้าหมายในการอธิษฐานใจในการทำบุญทำกุศลว่า หวังจะให้ตนได้ประสบสุขอย่างไรบ้าง
งานเทศน์มหาชาตินี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ก.ค. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระเกียรติ 79 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อีกทั้ง เพื่อรวบรวมจตุปัจจัยจากการจัดเทศน์มหาชาติ นำไปสมทบทุนสร้างสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช เพื่อผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ ประเทศไทยจะมีสถาบันการแพทย์ที่มีศักยภาพแข่งขันกับนานาชาติ ทั้งด้านวิจัย การศึกษา การบริการ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการวิจัย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับสถาบันอื่น ๆ ทั้งใน และต่างประเทศ ทั้งนี้ มี สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดหาทุน และประธานคณะกรรมการฝ่ายหารายได้ และ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ ยังมีการแสดงประกอบเทศน์มหาชาติแต่ละกัณฑ์จากคณะศรราม น้ำเพชร และนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นอกจากนี้ ยังมีสาธิตการทำเครื่องบูชาสด และการฝึกอาชีพ 108 อาชีพ ของนักเรียนอาชีวศึกษา มาบริการแก่ประชาชนตลอดงาน ณ หอประชุมราชแพทยาลัย รพ.ศิริราช สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ รพ.ศิริราช โทร. 0 2419 7646-56
การเทศน์มหาชาติ เป็นการถ่ายทอดบทบาทชีวิตพระเวสสันดร ผู้มีความโอบอ้อมอารี บำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่ในฐานะพระโพธิสัตว์ จัดเป็นเรื่องราวที่มีคุณค่าแก่การศึกษา เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาแก่สังคมในยุคปัจจุบัน การเทศน์มหาชาตินี้ เป็นประเพณีโบราณที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน ไม่ล้าสมัย เพราะเป็นคติสอนใจคนในสังคมได้ทั้งในวันนี้ และวันหน้า จนกล่าวกันว่า เป็นคัมภีร์เล่มใหญ่ที่จะช่วยให้สังคมไทยมีทางออกในยุควิกฤต นอกจากนั้น ในทางพุทธศาสนายังเชื่อกันว่า ถ้าได้ฟังเทศน์มหาชาติครบ 13 กัณฑ์ และดำเนินชีวิตตามหลักธรรมะที่ประมวลไว้ในคัมภีร์ จะได้รับผลดีถึง 3 ขั้น คือ 1.ชาตินี้ ชีวิตจะสุขเย็นดังเช่นอริยชน เพราะมีธรรมะรักษา 2.ครั้นแตกกายทำลายขันธ์ จะมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า 3.จะได้พบพระศาสนาของพระศรีอริยเมตตรัยในอนาคต.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ