เข้าตาสมเด็จพระพุทธชินวงศ์และกรรมการมหาเถรสมาคม ที่สามารถขัดขวางการตั้งองค์กรแข่งขันกับมหาเถรสมาคมได้


ตามข่าว (ลือ) !

เจ้าคุณเอื้อนโยนทิ้งเก้าอี้เจ้าคณะภาค 14
ปรี่เข้ารับตำแหน่งเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

รอรับคำสั่งจากพระมหาสายชลลูกศิษย์ในฐานะเจ้าคณะภาค 1

ดีฮะ ทำงานเพื่อพระศาสนาอย่างแสวงหาอามิส อย่าสนใจเรื่องต่ำเรื่องสูง เรื่องศักดิ์เรื่องศรีเพราะไม่มีประโยชน์  เดี๋ยวนี้วงการสงฆ์ไทยเขาไม่มีลูกศิษย์ไม่มีอาจารย์ไม่มีเด็กไม่มีผู้ใหญ่กันแล้ว มีแต่ยศถาบรรดาศักดิ์เป็นหลักฐาน ต่อให้เคยคลานเช็ดกระโถนในกุฏิมาก่อน แต่ถ้ามียศศักดิ์สูงส่ง ครูบาอาจารย์ก็สามารถกราบกรานได้ไม่ตะขิดตะขวางใจ เพราะผู้ใหญ่ในทางธรรมวันนี้ก็คือ "ผู้มีอำนาจ" นั่นเอง อาปัตติโถ !




พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.9)
เจ้าอาวาสวัดสามพระยา  เจ้าคณะภาค 
14 และกรรมการ มส.
กับตำแหน่งใหม่ "เจ้าคณะ กทม." ใหญ่บะเริ่มเทิ่ม

ผลงานล่าสุดก็คือ ออกมาชนโครงการพุทธสภาของกรมการศาสนาจนพังยับ เข้าตาสมเด็จพระพุทธชินวงศ์และกรรมการมหาเถรสมาคม ที่สามารถขัดขวางการตั้งองค์กรแข่งขันกับมหาเถรสมาคมได้ ก็เลยได้รับการปูนบำเหน็จด้วยตำแหน่งเจ้าคณะ กทม. อันเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจหมายเลข 4 ในประเทศไทย แหมถ้ารู้แบบนี้ก็ออกมาชนดะตั้งแต่ตอนที่เจ้าคณะภาค 1 ว่างแล้ว แต่ก็เอาเถอะ บุญวาสนานั้นมันแข่งกันไม่ได้ เป็นถึงรองสมเด็จพระราชาคณะและกรรมการมหาเถรสมาคมแล้ว ยังมีวาสนาได้เป็นถึง "ลูกน้อง" ของ"พระมหาสายชล" ซึ่งเป็นแค่ชั้นราช ชาตินี้คงไม่มีใครโชคดีเหมือนท่านเจ้าคุณเอื้อนอีกแล้ว บันไดขั้นต่อไปก็คือ ขยันไปถวายสักการะพระมหาสายชลซักหน่อย เรียก "พระเดชพระคุณ" บ่อยๆ เหมือนเรียกธัมชโย อาจจะได้รับโปรดปรานให้เลื่อนเป็นรองภาค ก็เป็นได้ ขอถวายมุทิตามา ณ โอกาสนี้ด้วย


วันนี้ (29 มี.ค.) สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคมที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่ประชุมได้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ฝ่ายมหานิกาย แทนพระธรรมสิทธินายก (เฉลิม พนฺธุรํสี) อายุ 80 พรรษา 58 วิทยฐานะ น.ธ.เอก, ป.ธ. 5 เจ้าอาวาสวัดจันทาราม แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ที่มีอายุ 80 ปี บริบูรณ์ และได้รับการยกย่องเชิดชูให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานครไปแล้ว โดยในฐานะเจ้าคณะใหญ่หนกลางได้เสนอให้มีการแต่งตั้ง พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เจ้าคณะภาค 14 เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานครรูปใหม่แทนพระธรรมสิทธินายก ซึ่งที่ประชุมก็มีมติเห็นชอบ โดยเห็นว่าพระพรหมดิลก เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพื่อให้การปกครองคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพมหานครเกิดความเรียบร้อยได้

สำหรับประวัติ พระพรหมดิลก มีนามเดิม เอื้อน นามสกุล กลิ่นสาลี เกิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ณ บ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 6 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุปสมบทเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ณ วัดมหาพล ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเจ้าอธิการพัฒน์ ติสฺสสุวณฺโณ วัดปรีดาราม ตำบลแม่ลา อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคต โฆสิโต วัดมหาพล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูอุดมนครกิจ (วาส สุนฺทโร) วัดตะโหนด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในปี 2523 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 9 ประโยค  ปี 2526 เรียนจบปริญญาโท (สาขาบาลีและการศึกษาทางพระพุทธศาสนา) ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี สาธารณรัฐอินเดีย ปี 2529 เรียนจบปริญญาเอก (สาขาบาลีและการศึกษาทางพระพุทธศาสนา) ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี สาธารณรัฐอินเดีย

ปี 2530 รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระศรีปริยัติบดี  ปี 2537 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชปริยัติบดี ปี 2542 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสุธี ปี 2547 รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมคุณาภรณ์ และปี 2553 รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ในราชทินนามที่ พระพรหมดิลก

 


ข่าว : เดลินิวส์29 มีนาคม 2556


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ