"เปลี่ยนวัดให้เป็นซ่องโจร" ขอถามมหาเถรสมาคม ? ต้องช่วยแชร์เพื่อปกป้องพระศาสนา


นโยบายใช้กำลังปกครองของเจ้าคุณเอื้อนได้ผล !
นครบาลส่งกำลังปิดล้อมวัดวิจิตรการนิมิต
ลุยดะ จับพระ-เณรตรวจฉี่ทั้งวัด


อ้า..ไหนล่ะว่า สำนักพุทธฯ ได้ดูแลพระสงฆ์องค์เณรทั่วราชอาณาจักรไทยให้อยู่ในระเบียบวินัยได้หมดแล้ว ถึงกับออกข่าวเอาหน้าเมื่อปีก่อน แต่แล้วทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ช่วยอธิบายหน่อยสิ

และที่น่าแปลกใจก็คือว่า พระวินยาธิการหรือตำรวจพระ ซึ่งสังกัดเจ้าคณะ กทม. นั้น ไปมุดหัวอยู่ไหนหมด ทำไมไม่เห็นมีบทบาทอะไรในเรื่องนี้เลย เลี้ยงไว้เปลืองข้าวสุกเสียเปล่า เพราะถ้าปล่อยให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมวัดได้ในวันนี้ ต่อไปก็จะทำกับวัดอื่นๆ ได้เรื่อยๆ และเมื่อนั้น วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดสามพระยาของเจ้าคุณเอื้อน ก็เตรียมตัวตรวจฉี่เอาไว้ให้ดี เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะโดนโทรแจ้งตำรวจวันไหน ?

การปล่อยให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมวัดได้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความบกพร่องอย่างร้ายแรงของเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในกรุงเทพมหานคร ผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงก็คือเจ้าคณะ กทม. อันได้แก่พระพรหมดิลกหรือเจ้าคุณเอื้อนนั่นเอง ปกป้องวัดวาอารามไม่ได้ก็นิมนต์ลาออกเสียเถิดขอรับ


ภาพเจ้าหน้าที่ปิดล้อมวัดวิจิตรการนิมิต

ภายใต้สโลแกน

"เปลี่ยนวัดให้เป็นซ่องโจร"
















 


เมื่อวันที่ 29 เม.ย. เวลา 15.15 น. พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส.บช.น.,พ.ต.ต.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.งานสืบสวนตรวจตรา กก.ดส.บช.น.,ร.ต.อ.ญาณพล พลเยี่ยม รอง สว.งานสืบสวนตรวจตรา กก.ดส.บช.น.นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กว่า 20 นาย เข้าประสานพระปลัดถวัลย์ ขนฺติสาโร เจ้าอาวาสวัดวิจิตรการนิมิต (วัดหนังบางแวก) ถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กทม. เพื่อขอตรวจปัสสาวะพระลูกวัดหลังมีประชาชนเป็นจำนวนมากเข้ามาร้องเรียนและแจ้งเบาะแสว่า พบพฤติกรรมพระสงฆ์มั่วสุมเสพยาบ้าภายในวัด ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

ที่เกิดเหตุบริเวณกุฎิหลังวัด กำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมทั่วอาณาบริเวณวัดเพื่อกันการหลบหนีไว้อยากแน่นหนา ก่อนนิมนต์พระสงฆ์ จำนวนทั้งสิ้น 36 รูป มาเข้าแถวตอนเรียงสอง เพื่อทำการรับขวดพลาสติกและพาไปตรวจปัสสาวะ พบว่า มีผลออกมาเป็นสีม่วง 2 ราย คือ พระเกรียงไกร ธมฺมธโร หรือ นายเกรียงไกร สายสุด หรือ พระหมึก อายุ 38 ปี และ พระวีรภัทร อินทวังโส อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพระทั้ง 2 รูปไปตรวจค้นภายในกุฏิ พบ อุปกรณ์เสพยาบ้า และดีวีดีภาพยนตร์ลามก รวม 10 แผ่น ภายในห้องของพระเกรียวไกร ส่วนห้องของ พระวีรภัทร ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำต่อหน้าเจ้าอาวาส

จากการสอบสวน พระเกรียงไกรให้การยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง โดยสั่งซื้อจากวัยรุ่นในละแวกวัดมาส่งให้ราคาเม็ดละ 200 บาท ส่วนดีวีดีหนังเอ็กซ์ที่พบภายในห้องนั้นเป็นของลูกศิษย์คนสนิทที่ได้นำมาฝากไว้ไม่ได้มีไว้ดูเอง

ด้านพระวีรภัทรให้การอ้างว่าไม่ได้เสพยาบ้า เพียงแต่แค่ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังทุกวัน เพราะต้องใช้แรงงานในการบูรณะวัดอย่างหนัก ประกอบกับเป็นนักเทศน์ด้วย ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาจำวัด จึงต้องใช้เครื่องดื่มชูกำลังช่วยให้รู้สึกสดชื่น

พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวพระทั้ง 2 รูป ไปตรวจร่างกายแยกสารยาเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ศรีวิชัย หากพบเป็นสารแอมเฟตามีนหรือมีการเสพสารเสพติดชนิดอื่น ก็จะนำตัวกลับมาสึกกับเจ้าอาวาสและแจ้งข้อหาเสพยาบ้า ก่อนมอบตัวให้พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากมีประชาชนให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับพฤติกรรมของพระสงฆ์ นักเรียน และนักศึกษาตามวัดหรือสถาบันต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปพัวพันกับยาเสพติด ก็จะส่งชุดสืบสวนเข้าไปหาข่าวและประสานตำรวจท้องที่บุกเข้าตรวจค้นเหมือนกรณีนี้เช่นกัน


ข่าว : ดลินิวส์
30 เมษายน 2556


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ