"จีวรแดงแห่ง มจร."
ต่างคนต่างเดิน
!
เจ้าคุณประสาน "คำราม"
ใส่รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ถ้า..ไม่ผ่านธนาคารพุทธ ก็หยุดความสัมพันธ์
หุหุ รู้จัก
"จีวรแดงแห่ง มจร."
น้อยไปซะแย้ว
ประเดี๋ยวก็แตะมือกับจตุพรซะหรอก บอกให้
พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) วัดมหาธาตุฯ
ระบุว่า "ถ้ารัฐบาลไม่ยอมผ่านร่าง พรบ.ธนาคารพระพุทธศาสนา ก็จะต้อง
"ต่างคนต่างเดิน" แสดงว่าในการต่อสู้ทางการเมืองที่ผ่านมา มจร. ได้เข้าเป็นแนวร่วมของ
นปช. ด้วย ตอนที่พระมหาประสารได้เป็นเจ้าคุณในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
เขาก็ว่าท่านได้ในนามโควต้า "ผ้าแดง" แล้ว
ยิ่งท่านออกมาพูดแบบนี้ ก็ยิ่งแจ่มแจ้งแดงแจ๋เข้าไปใหญ่ ดูสิ
ขนาดมหาโชว์ยังงดโชว์เลย เพราะน้อยใจที่ออกอยู่ด้านหน้าเวทีด่าป๋าเปรม
แต่ไม่ได้เครดิตติดโผเจ้าคุณกับเขาเลย ถ้าวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
ไม่มีชื่อมหาโชว์เป็นเจ้าคุณ มหาโชว์ก็อาจจะไปตั้งชมรม "แดงอกหัก"
ร่วมกับจตุพรด้วยก็เป็นได้
วิรุฬ เตชะไพบูลย์
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ร่วมงานพุทธชยันตีที่วัดสระเกศ
มจร. มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ประกาศตนเป็นสาวกธรรมกาย
ประชุมตั้งธนาคารพุทธฯ ร่วมกับ มมร. (ไม่ใช่
มจร.)
เจ้าคุณประสาร ยอมรับว่า
"อกหัก"
หลังจากวิรุฬหลุดโผรัฐมนตรี
ธนาคารพุทธซึ่งทำท่าว่าจะไปได้สวยก็ส่อแววแท๊งค์ตั้งแต่ในท้อง
อยากให้ตั้งธนาคารพุทธสำเร็จก็เห็นจะมีทางเดียว คือ ไปขอ
พณฯท่านธัมมชโยช่วย รับรองว่า ชิตํ เม
พระฮึ่ม ! จี้ รบ.คลอด ธ.พุทธศาสนา
พระฮึ่ม !
จี้รัฐบาลคลอดธนาคารพระพุทธศาสนา ไม่สนองต่างคนต่างเดินแน่
แจงความจำเป็นหวังนำเงินที่กองอยู่ไปใช้สาธารณประโยชน์ กก.มส. มอบ มจร
ทำวิจัยรองรับ
1
พ.ย. 2555 พระธรรมโกศาจารย์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร)
กล่าวในการเปิดการสัมมนาจัดทำยุทธศาสตร์การบริการวิชาการแก่สังคมที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงการผลักดันตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาว่า
เป็นที่น่าเสียดายที่นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ที่รับผิดชอบในการเสนอร่าง
พ.ร.บ.การตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาได้พ้นจากตำแหน่งไปเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม
ที่ผ่านมาอาตมาในฐานะที่เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะต้องมีธนาคารพระพุทธศาสนา ในการพิจารณาระดับคณะอนุกรรมการ มส. เนื่องจากตามหลักพระวินัยแล้ว
การที่จะนำเงินบริจาคจากวัดหนึ่งไปใช้หรือช่วยเหลือวัดหนึ่งไม่ได้
เพราะถือว่าเป็นการผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ซึ่งตามหลักพระวินัยเรียกว่า
เป็นการน้อมลาภไปที่อื่น
ดังนั้น
จึงมีความจำเป็นจะต้องมีธนาคารพระพุทธศาสนา
เพื่อที่จะได้นำเงินที่วัดนำมาฝากไปช่วยเหลือวัดต่างๆ หรือช่วยสังคมด้านอื่นๆ ได้
อย่างเช่นธนาคารคริสต์และอิสลาม
ในส่วนของ มจร มีหน้าที่หลักประการหนึ่งก็คือ ให้บริการแก่คณะสงฆ์
ดังนั้น มจร จะต้องเป็นมันสมองให้กับ มส. ในเรื่องนี้ได้
โดยการทำเป็นวิจัยรองรับเพื่อเป็นหลักฐานชี้แจงให้กับธนาคารและสังคมได้เข้าใจ
เพราะว่าปัจจุบันนี้ธนาคารมองว่า พระหรือมหาวิทยาลัยสงฆ์ไม่มีเครดิส
จะขอกู้เงินก็ไม่ได้รับการอนุมัติ
หรือแม้แต่พระจะขอมีบัตรเครดิตธนาคารยังไม่อนุมัติให้เลย
พระเมธีธรรมาจารย์
รองอธิการบดี มจร ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่
ที่ทำหน้าที่ประสานกับทางรัฐบาลเรื่องตั้งธนาคารพระพุทธศาสนากล่าวว่า
รู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อทราบว่านายวิรุฬพ้นจากตำแหน่ง
ก็มองไม่ออกว่าจะผลักดันต่อไปอย่างไร ทั้งนี้
อาตมามองว่าเรื่องธนาคารพระพุทธศาสนานี้จะเกิดหรือไม่เกิดเป็นเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ
"ก็ได้แต่แจ้งไปยังรัฐบาลว่า จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้
หากไม่ผลักดันให้เกิดแล้วต่อไปก็ต้องต่างคนต่างเดินก็แล้วกัน" พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวและว่า
ดังนั้น
เบื้องต้นนี้ในวันที่ 5
ธันวาคมที่จะถึงนี้
รัฐบาลจะต้องผลักดันให้ธนาคารออมสินเปิดหน้าต่างธนาคารพระพุทธศาสนา
ให้มีการทำธุรกรรมได้เหมือนกับธนาคารอิสลามได้
ข่าว
: คมชัดลึก
http://www.alittlebuddha.com/1 พฤศจิกายน
2555
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ