จารึกประวัติศาสตร์ ด้านจริยธรรมของนักร้องสาว กิ๊ฟท์ซ่า
วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๕ ข้าพเจ้า สมเกียรติ กาญจนชาติ ได้เข้ากราบนมัสการ ท่านเจ้าคุณ พระเทพสารเวที และได้สนทนาธรรม ในเรื่องหลักธรรมและพระเกียรติคุณของ สมเด็จพระสังฆราช ท่านได้ขอให้นำเรื่องของนักร้องท่านนี้ จารึกไว้เพื่อแสดงความชื่นชมในการยอมรับผิดและมีจิตสำนึกที่เป็นธรรม จึงขอให้บันทึกไว้เพื่อเป็นแบบอย่างแก่คนในชาติ และขอให้มหาเถรและประชาชนตลอดถึง ข้าราชการควรนำไปศึกษาและปฎิบัติเป็นแบบอย่าง ซึ่งขอนำข้อมูลมาให้ศึกษา
ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 6 พันบาท “กิ๊ฟท์ซ่า-เกิร์ลลี่ เบอร์รี่” เมาแล้วขับ เจ้าตัวสารภาพลดโทษเหลือ กึ่งหนึ่ง ทว่าไม่เคยมีประวัติกระทำผิดโทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปีทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อีก 12 ชั่วโมง นักร้องสาวค่ายอาร์เอสถึงกับน้ำตาคลอสำนึกผิด ขอโทษทำตัวไม่เหมาะสม รับเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนสำคัญครั้งใหญ่ ส่งผลให้โดนลงโทษทางกฎหมายและทางสังคม
กรณีนักร้องสาว กิ๊ฟท์ซ่า-ปิยา พงศ์กุลภาอายุ 28 ปี สมาชิกวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ขับรถเก๋งฮอนด้า ฟรีด สีดำ ทะเบียน ฆก 2273 กรุงเทพมหานคร เข้าไปเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ บก.จร.บริเวณปากซอยพัฒนาการ37แขวงและเขตสวนหลวงกทม.แล้วพยายามบ่ายเบี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายนานนับชั่วโมง สุดท้ายยอมตกลงเป่าเครื่องวัดพบปริมาณแอลกอฮอล์ 82 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีข้อหา ขับรถขณะมึนเมาสุรา ก่อนใช้เงินสด 20,000บาทประกันตัวออกไป
ที่ห้องพิจารณาคดี 301 ศาลจังหวัดพระโขนง เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 12 ก.ย. พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้นัดกิ๊ฟท์ซ่า-ปิยา พงศ์กุลภา นักร้องชื่อดังค่ายอาร์เอส ไปฟังคำพิพากษา โดยเจ้าตัวเดินทางมาในชุดเสื้อสีขาว กระโปรงยาวสีดำ ท่าทางสำรวมนอบน้อมกว่าตอนที่โดนตำรวจขอตรวจวัดแอลกอฮอล์อย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องทั้ง 2 ข้อหา ส่งให้แก่พนักงานอัยการจังหวัดพระโขนง เพื่อยื่นฟ้องต่อศาล ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย.55 เวลากลางคืน จำเลยขับรถมุ่งหน้าไปแยกคลองตันบริเวณปากซอยพัฒนาการ 37 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายวัดได้ 82 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย นอกจากนี้จำเลยยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
ในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพ ขอให้ลงโทษในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฐานขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ศาลอธิบายคำฟ้องโจทก์ให้นักร้องสาวเกิร์ลลี่ เบอร์รี่เข้าใจ พร้อมสอบคำให้การว่า จะให้การรับสารภาพ หรือปฏิเสธ กิ๊ฟท์ซ่าแถลงต่อศาลขอให้การรับสารภาพ และไม่ต้องการทนายความ ศาลอธิบายว่า เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพและไม่ต้องการทนายความ ตามกฎหมายแล้วศาลสามารถมีคำพิพากษาได้ทันที
ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ฐานขับรถในขณะเมาสุรา ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตปรับ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานขับรถในขณะเมาสุรา ลงโทษจำคุก1เดือน ปรับ 3,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตปรับ 500 บาท รวมโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,500บาท จำเลยไม่เคยได้รับโทษทางอาญามาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี แต่เพื่อป้องกันไม่ให้จำเลยกลับไปกระทำความผิดอีก ให้คุมประพฤติและไปรายงานตัวกับเจ้าพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง เป็นเวลา1ปี ทำกิจกรรมบริการสังคมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ศาลยังกำชับว่า จำเลยเป็นดาราหรือนักร้องถือเป็นบุคคลตัวอย่างในสังคม เยาวชน
และเด็กๆ
ถ้าหากทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กเยาวชนถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าทำตัวบกพร่องจะมีเด็กและเยาวชนเห็นตัวอย่างอาจนำไปสู่ปัญหาตามมาให้แก้ไข
ศาลจึงเห็นควรให้คุมประพฤติจำเลย
ในการคุมประพฤตินั้นขอให้จำเลยปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
หากได้ผลดีเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะรายงานมาที่ศาล อาจจะมีผลให้งด
หรือลดการคุมประพฤติได้ แต่หากเจ้าพนักงานคุมประพฤติรายงานว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตาม
อาจจะทำให้ศาลต้องเพิ่มมาตรการในการคุมประพฤติจำเลยก็ได้
ส่วนเรื่องการขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตเป็นเรื่องสำคัญที่จำเลยจะต้องตระหนักในการขับรถ
เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันเหตุ และตรวจสอบจากอุบัติเหตุตามท้องถนน
ต่อมากิ๊ฟท์ซ่า-ปิยา ให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบดีว่าสิ่งที่กระทำไปเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ขอโทษเมื่อภาพข่าวที่ออกไปดูไม่เหมาะสมอย่างมาก เรื่องคดีความนั้นขอยอมรับผิด และยอมรับสารภาพ พร้อมยอมรับต่อคำพิพากษาของศาลทั้งหมด ขณะนี้ต้องได้รับบทลงโทษจาก 2 ทาง ทั้งบทลงโทษทางกฎหมาย และบทลงโทษทางสังคม ทำให้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ที่ผ่านมาได้รับทั้งกำลังใจและคำด่า ขอน้อมรับไว้ทั้งหมด ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของชีวิต ในฐานะผู้หญิงไม่เคยคิดว่าจะต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาล ต้องถูกดำเนินคดีอาญา เหตุการณ์นี้ทำให้ต้องก้าวต่อไปอย่างมีสติมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องงานทราบว่าถูกลงโทษให้พักงานเป็นเวลา 3-6 เดือน แต่รายละเอียดจะต้องไปประชุมกับบริษัทต้นสังกัดอีกครั้ง
ต่อมากิ๊ฟท์ซ่า-ปิยา ให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทราบดีว่าสิ่งที่กระทำไปเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ขอโทษเมื่อภาพข่าวที่ออกไปดูไม่เหมาะสมอย่างมาก เรื่องคดีความนั้นขอยอมรับผิด และยอมรับสารภาพ พร้อมยอมรับต่อคำพิพากษาของศาลทั้งหมด ขณะนี้ต้องได้รับบทลงโทษจาก 2 ทาง ทั้งบทลงโทษทางกฎหมาย และบทลงโทษทางสังคม ทำให้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ที่ผ่านมาได้รับทั้งกำลังใจและคำด่า ขอน้อมรับไว้ทั้งหมด ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของชีวิต ในฐานะผู้หญิงไม่เคยคิดว่าจะต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาล ต้องถูกดำเนินคดีอาญา เหตุการณ์นี้ทำให้ต้องก้าวต่อไปอย่างมีสติมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องงานทราบว่าถูกลงโทษให้พักงานเป็นเวลา 3-6 เดือน แต่รายละเอียดจะต้องไปประชุมกับบริษัทต้นสังกัดอีกครั้ง
http://
ศึกษาข้อมูล วิทยานิพนธ์ด้านความมั่นคงส
ช่วยแบ่งปันได้เพื่อสร้างบุ
โครงการหาทุนในการปกป้องและ
http://www.facebook.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ