ด่วนธรรมกายบิดเบือนพระไตรปิฎก ภัยต่อความมั่นคงของชาติ?
8 ก.พ. 58 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มสภาปฏิรูปพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (สปพช.) ได้มีการจัดงานเสวนาเรื่อง "กึ่งพุทธกาลกับมารศาสนา" โดยมี พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส เลขานุการเครือข่ายพุทธชยันตี-สังฆะเพื่อสังคม นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมาดา และ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ เป็นวิทยากรประกอบ แต่ทั้งนี้ ดร.เสรี ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาร่วมวงเสวนา จึงใช้การโฟนอินเข้าแทน โดยมีกลุ่มสภาปฏิรูปพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (สปพช.) และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน
สำหรับในวงเสวนามีการพูดคุยถึงหลักปฏิบัติของวัดธรรมกาย ที่ขณะนี้กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดย นายแทนคุณ ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า ข้อดีของการมีกรณีธรรมกาย คือทำให้เรารวมตัวกันเหนียวแน่นขึ้นว่าเราจะทำอย่างไรกับเรื่องศาสนา ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของสังคม เรื่องอื่นเราสามารถโจมตีกันได้เฉียบขาด แต่เรื่องศาสนาควรวิจารณ์กันในฐานะกัลยาณมิตร เราไม่สามารถไปจัดการคนที่นับถือศรัทธาได้ สิ่งที่ทำได้คือการเข้าใจเขาและอยู่ร่วมกันได้ เพราะถ้าเราโจมตีเขาอย่างเดียวแล้วเราไม่มีอะไรดีก็ตอบเขาไม่ได้
"ผมคิดว่าอีกไม่เกิน 5 ปี เราจะเห็นปรากฏการณ์พระสงฆ์รวมตัวกันปฏิรูปวงการพระพุทธศาสนา กรณีธรรมกายตั้งเป็นนิกายใหม่ไปเลยก็ได้ อย่างมหายานเขาให้กันอย่างสุดหัวจิตหัวใจ แต่นี่มีการกอบโกยเข้ามา ถ้าเราไม่ทำอะไรบ้างเลยเราจะเป็นชาวพุทธได้อย่างไร ผมเข้าใจว่าเรามีวิธีอธิบายที่จะไม่มุ่งเกลียดชัง" นายแทนคุณ คาดการณ์
ด้านพระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวว่า ความอ่อนของชาวพุทธเราคือไม่เข้าใจว่าพุทธเถรวาทของเรามีเอกลักษณ์อย่างไร ซึ่งเราต้องอ้างอิงว่าของเดิมเป็นอย่างไร แล้วบิดเบือนไปอย่างไร บางคนไปเปลี่ยนหลักการของเดิมให้มาครอบคลุมการปฏิบัติของตน ซึ่งมันเป็นผลร้ายระยะยาวที่ทำให้แก่นเดิมแท้หายไป หลายคนเข้าใจคำว่าธรรมกายคือวัดธรรมกายไปแล้ว ธรรมกายเป็นคำเดิมในพระไตรปิฎกแปลว่า กองแห่งธรรม แต่ธรรมกายเอาไปอธิบายความหมายใหม่ เป็นองค์นิมิตที่ไปปฏิบัติกรรมฐานกัน ความหมายมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"เป็นกรรมฐานที่เรียกว่าแต่งเป็นนิทานว่าเคยเกิดขึ้นแล้วหายไป แล้วก็ค้นพบใหม่โดยหลวงพ่อสด แต่ศิษย์สายหลวงพ่อสดโดยตรงยืนยันว่า สิ่งที่ธรรมกายสอนอยู่ไม่ใช่ เราไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเหมือนเขา เราไม่บอกว่าเหมือนหรือต่าง แต่สรุปว่าวิชชาธรรมกายเป็นศัพท์บัญญัติใหม่ วิชากรรมฐานแบบนี้มีหรือไม่ในพระไตรปิฎก ยืนยันว่าไม่มี" พระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวอธิบาย
พระมหาพงศ์นรินทร์ กล่าวต่อไปในเรื่องการปฏิบัติธรรมของธรรมกายว่า เวลานั่งกรรมฐานให้มองลูกแก้วให้เห็นจนชินตา เพื่อเอามาเป็นอารมณ์สมาธิตอนต้น กรรมฐานแนวนี้มีก่อนพุทธศาสนาเกิด ต่างจากกรรมฐานสี่สิบกองซึ่งไม่มีตัวตน เมื่อการปฏิบัติเป็นเช่นไรผลก็เป็นเช่นนั้น การเอาตัวตนเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นที่มาของการที่เขาอธิบายว่านิพพานเป็นอัตตา หรือการใช้คำประโลมโลกจำพวกรวยโคตรๆ นี่เป็นคำกระตุ้นกิเลสตลอดเวลา ทำไมเขาไม่รู้สึกอายที่จะเล่นกับความละโมบของตนเอง เราไม่ได้บอกว่าเขาถูกหรือผิด แต่ไม่ตรงตามหลักการเดิมของศาสนา
ในส่วนประเด็นการเดินธุดงค์ธรรมชัยนั้น พระมหาพงศ์นรินทร์กล่าวว่า คนไทยเข้าใจว่าธุดงค์คือการเดิน ธุดงค์ไม่ใช่การเดิน เดินคือจาริก แทนที่เขาจะใช้โอกาสอธิบายบาลีให้ถูกต้อง กลับทำให้คนเข้าใจผิดซ้ำว่าเป็นการเดิน เพราะเขาเข้าใจว่าคนอยากทำบุญกับพระธุดงค์ ก็เลยใช้คำนี้ ส่วนการอ้างว่าโปรยดอกไม้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลนั้น พระมหาพงศ์นรินทร์ระบุว่า สมัยนั้นเขาโปรยขึ้นฟ้า แต่ที่นี่กลับมาโปรยให้เหยียบ
ด้าน ดร.เสรี กล่าวว่า แนวความคิดของเขาที่ว่าใครจ่ายเงินมากได้บุญมากเป็นลัทธินายทุนอย่างแท้จริง เป็นพวกที่สื่อสารการตลาดอย่างเข้มข้น อย่างการจัดอีเว้นตท์บ่อยๆ มีรายการโทรทัศน์ มีสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ธรรมกายนี่ควรเติม ล.ลิง คือเป็นธรรมกลาย บิดเบือนพระพุทธศาสนาอย่างมาก การทำอย่างนี้ผิดจรรยาบรรณในการตลาดด้วย เพราะเป็นการทำให้เกิดความหลงผิด "ขอให้ทุกคนเชื่อว่าธรรมะต้องชนะอธรรม พวกไหนก็ตามที่บิดเบือนธรรมะพวกนั้นต้องพินาศ"
ทั้งนี้ พระมหาพงศ์นรินทร์ ได้ฝากประเด็นการทุจริตเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เสียหาย 1.6 พันล้าน ว่า คดีนี้มีมูล แต่พยายามทำให้เงียบและช้า มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการสั่งจ่ายเงินโดน นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้บริหารสหกรณ์ซึ่งเป็นศิษย์เอกของวัดธรรมกาย โดยจ่ายจากบัญชีของสหกรณ์ไปให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย 100 ร้อยล้าน และให้วัดธรรมกายอีก 800 ร้อยล้าน และพระผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีกรวมเป็น 1 พันล้าน เรียกว่าโกงเป็นหมื่นล้านยังได้รับการประกันตัว ขณะที่คดียักยอกเงิน สจล. ถูกจับ สื่อออกข่าวมากมาย นี่สองมาตรฐาน ทำไมตำรวจและสื่อมวลชนไทยถึงเลือกปฏิบัติ
ทางคณะผู้จัดงานระบุว่า จะมีการเตรียมการล่ารายชื่อเพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการปฏิรูปศาสนา ให้มีการตรวจสอบบัญชีของวัดธรรมกาย รวมถึงเตรียมที่จะยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้เร่งตรวจสอบคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นอีกด้วย
นสพ.แนวหน้า
ควรช่วยแชร์เพื่อความมั่นคงของสถาบันพระศาสนา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ