กรรมที่อัยการทำไ้ว้กับสถาบัน โลกต้องรู้
จากกรณีบุคคลและคณะบุคคล 6 ราย ยื่นหนังสือพร้อมด้วยหลักฐานให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ 416 ส.ส. และ ส.ว. เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68
ล่าสุด นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกอัยการสูงสุด แถลงว่า จากกรณีที่มีผู้ร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทางด้านอัยการสูงสุดเห็นว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ที่อัยการจะเข้าไปตรวจสอบ และเนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบร้ายแรงกับผู้ถูกร้องต้องใช้ดุลพินิจอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้อัยการเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวมิได้เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ หากแต่เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ซึ่งมีการแยกหมวดในรัฐธรรมนูญชัดเจน จึงไม่เข้าข่ายตามมาตรา 68
นายวินัยยังแถลงต่อว่า อัยการเห็นว่า ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับนั้นมีบทบัญญัติที่ชัดเจนเจนว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบแห่งรัฐ จึงมิได้มีเจตนาในการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และไม่ได้เป็นการทำให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยวิถีที่ไม่ได้บัญญัติใน รัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้น คำร้องทั้ง 6 จึงไม่พอฟังว่า เป็นเหตุให้ศาลสั่งการให้เลิกการกระทำ อนึ่งการวินิจฉัยครั้งนี้ไม่เป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ของอัยการไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจวินิจฉัยองค์กรอื่น
พธม.เดือดเตรียมยื่นถอดถอน"อัยการสูงสุด" หลังแถลงไม่ส่งศาล.ตีความแก้รัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 20.13 น. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) กล่าวภายหลังสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงไม่ส่งคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 ว่า เป็นสิ่งที่อัยการน่าจะเข้าใจผิด เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ไม่ได้ให้อำนาจอัยการทำหน้าที่วินิจฉัย แต่มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาพันธมิตรได้เคยส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแล้วเมื่อวันที่26 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่ออัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้สมาชิกรัฐสภาเลิกพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทั้งสามฉบับ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 แต่เมื่ออัยการสูงสุดไม่ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พันธมิตรก็ใช้สิทธิส่งเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองในสัปดาห์หน้า
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ หากอัยการสูงสุดไม่ทำหน้าที่กลุ่มพันธมิตรก็จะตัดสินใจฟ้องอาญาอัยการสูงสุด ส่วนจะฟ้องช่องทางไหนจะมีการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้อัยการสูดพิสูจน์ตัวเอง หากพิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องถูกถอดถอน อย่างไรก็ตามโดยทางออกเรื่องนี้ก็อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินทั้งหมด เพราะศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัย เพราะมีบทบัญญัติในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญโดยตรง สุดท้ายถึงจะมีการล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยใช้มือในสภาก็ตาม แต่ก็ต้องไปตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญ
กรรมในอดีตที่ อัยการ ทำไว้กับ สถาบันพระศาสนา ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2011/12/blog-post_04.html
ท่านต้องได้รับกรรมแน่นอน
เวลา 19.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ว่า คณะทำงานอัยการที่มีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบุคคลและคณะบุคคล 6 ราย ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ 416 ส.ส. – ส.ว. เสนอแก้รธน. มาตรา 291 เพื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการ ตาม รธน.มาตรา 68 ซึ่งนัดประชุมพิจารณากันตั้งแต่เวลา 13.00 น.วันนี้( 7 มิถุนายน ) ล่าสุดหลังการประชุมคณะกรรมการเป็นไปอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 5 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
ต่อมา นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าที่ประชุมคณะทำงานอัยการ สรุปความเห็นไม่ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามาตรา 68 หลังจากคณะกรรมการอัยการสรุปข้อเท็จจริงและเสนอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่ากรณีคำร้องของผู้ร้องทั้ง 6 ข้อเท็จจริงยังไม่พอฟังว่ามีพฤติกรรมหรือการกระทำอันเป็นเหตุให้อัยการสูงสุดต้องยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกกระทำตามความ รัฐธรรมนูญ มาตรา 68
คณะผู้บริหารอัยการ | ข้าราชการธุรการ | |
คณะผู้บริหารอัยการ | |
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด | |
รองอัยการสูงสุด | รองอัยการสูงสุด |
รองอัยการสูงสุด | |
ผู้ตรวจการอัยการ | ผู้ตรวจการอัยการ |
ผู้ตรวจการอัยการ | |
ผู้ตรวจการอัยการ | ผู้ตรวจการอัยการ |
นายสมศักดิ์ สันทนาคณิต ผู้ตรวจการอัยการ | ผู้ตรวจการอัยการ |
ผู้ตรวจการอัยการ | |
ผู้ตรวจการอัยการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ