ผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมไม่เคยรับผิด มีแต่รับชอบ
ฆ่าชิงทรัพย์เจ้าอาวาสระบาด !
จากสกลนครถึงโคราช ต่อไปอาจจะถึง "กทม."
พระผู้ใหญ่ที่รวยเงินถุงเงินถังระดับอาเสี่ยเรียกพี่นั้น ขอให้ระมัดระวังตัวเอาไว้ด้วยนะครับ เห็นอวดรถเก๋งรถเบ๊นซ์กันเต็มบ้านเต็มเมือง นี่ก็เห็นว่ากำลังนั่งลุ้นโผเจ้าคุณ 5 ธันวา กันอย่างใจจดใจจ่อ จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน
นี่แหละคือ "ผลงานโบว์ดำ" ในการบริหารการปกครองของมหาเถรสมาคม ที่ใช้ระบบ "วิ่งเต้น-เส้นสาย" ในการแต่งตั้งเจ้าคณะพระสังฆาธิการ ตกวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ก็ทำบัญชี "ปูนบำเหน็จ" ให้แก่พวกเดียวกัน เข้ารับยศถาบรรดาศักดิ์จาก"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เขียนประวัติพิลึกกึกกือยิ่งกว่าเทพอวตาร แล้วดูผลงานในวงการคณะสงฆ์ที่ออกสู่สื่อทุกวันนี้เป็นไร มีพระเอกรูปไหนในมหาเถรสมาคมเคยแอ่นอกออกมารับผิดชอบบ้าง สฤษฎิ์ ธนะรัชต์ ยังแมนกว่าซะอีก ที่กล้าประกาศว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" แต่พระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมไม่เคยรับผิด มีแต่รับชอบ "ถ้าผิด" ก็โบ๊ยให้ผู้น้อย "ถ้าชอบ" ก็อ้างเป็นผลงานของตนเอง ทำตัวเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อวาน ก็พระวัดแม่ตะไคร้ เชียงใหม่ ออกมาแจ้งความเอาผิด "หนู กันภัย" ในข้อหา "ฉ้อโกง" ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผ้าเหลือง แต่กลับไป "มุดหัว" อยู่ใต้เป้ากางเกงของเดียรถีย์คนนี้ ให้มาหาเงินช่วยสร้างหลวงปู่ทวด "องค์ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ"โง่บัดซบซะไม่มี หลวงปู่ทวดนั้นท่านเป็นพระภาคใต้ มีอิทธิฤทธิ์ในทาง "เหยียบน้ำทะเลจืด" แล้วนี่อุตริสร้างไว้ที่เชียงใหม่ จะให้ไปเหยียบน้ำทะเลที่ไหน ? ควายเอ๊ย !
นี่ไง ผลงานการ "โกงกินบนศรัทธามหาชน" ที่มหาเถรสมาคม "ไร้น้ำยา" จะห้ามปราม หนำซ้ำกรรมการมหาเถรสมาคมเสียอีกที่นิยมส่งเสริม ทั้งๆ ที่เคยออกมติมหาเถรสมาคมว่าด้วยข้อจำกัดสร้างรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ว่า "ห้ามมิให้สร้างใหญ่กว่าพระพุทธรูป" แล้วเป็นไง ก็กรรมการมหาเถรสมาคมทั้งนั้นแหละที่ไปเป็นกรรมการสร้าง เขียนด้วยมือลบด้วยเท้าแบบนี้นี่ไง พระพุทธศาสนาในประเทศไทยถึงใกล้อวสาน
คอยดูนะ 5 ธันวาคม ศกนี้ ต้องมี พระวัดสระเกศ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดปากน้ำ วัดชนะสงคราม วัดพิชัยญาติ วัดราชบพิธ วัดเทพศิรินทร์ ฯลฯ พวกนี้ เอา "โควต้า"พระราชาคณะไปกินก่อนเพื่อน เพราะว่ากูคือผู้มีอำนาจในการทำบัญชี ดังนั้น กูก็ต้องกินก่อน ตะทีปีกลาย โผเจ้าคุณหลุดมาถึงอะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ สำนักพุทธฯก็เอาไปฟ้องมหาเถรสมาคมว่า "อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ เอาข้อมูลลับมาเผยแพร่" แต่ความจริงแล้ว กรรมการมหาเถรสมาคมนั่นแหละ ที่เป็นผู้ทำบัญชี รู้ว่าใครได้-ใครไม่ได้ ประทานโทษเถิด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ยังทรง "รู้ทีหลัง" กรรมการมหาเถรสมาคมด้วยซ้ำไป จริงหรือไม่ครับ ท่านเจ้าคุณเสนาะ ?
ก็ขอประทานกราบเรียนไปยัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ว่า ถ้าบริหารคณะสงฆ์ไทยไปไม่ไหวแล้ว ก็ขอนิมนต์ "ลาออก" เสียเถิดขอรับ แล้วยกตำแหน่งให้แก่พณฯธัมมชโย เสียเถอะ เพราะเห็นว่าเขาอยากช่วยชาติจนน้ำลายไหลแล้วล่ะครับ
คนร้ายบุกแทงอก-ฟันศีรษะ ฆ่าเจ้าอาวาสวัดบะใหญ่ อำเภอวังน้ำเขียว โคราช มรณภาพอนาถคากุฏิ ตำรวจคาดฆ่าชิงทรัพย์และขัดแย้งส่วนตัว พร้อมรวบตัวพระลูกวัดอีกรูป หลังหายตัวไปจากวัด...
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พันธุ สารวัตรเวร สภ.อุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีพระภิกษุถูกฆ่าตาย ในวัดบะใหญ่ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.พินิจ กิจเจา ผกก.สภ.อุดมทรัพย์ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 3 ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิปูนสร้างใหม่ 2 ชั้น ซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาส ภายในห้องชั้นบนซึ่งเป็นห้องโถงโล่ง พบศพพระครูปริยัติธรรมวโรภาส เจ้าอาวาสวัดบะใหญ่ อายุ 63 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้องข้างหน้าต่าง ตรงทางลงบันได สวมใส่สบง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณกลางหน้าอกเป็นแผลขนาดใหญ่และศีรษะมีร่องรอยถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พันธุ สารวัตรเวร สภ.อุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีพระภิกษุถูกฆ่าตาย ในวัดบะใหญ่ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.พินิจ กิจเจา ผกก.สภ.อุดมทรัพย์ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 3 ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิปูนสร้างใหม่ 2 ชั้น ซึ่งเป็นกุฏิของเจ้าอาวาส ภายในห้องชั้นบนซึ่งเป็นห้องโถงโล่ง พบศพพระครูปริยัติธรรมวโรภาส เจ้าอาวาสวัดบะใหญ่ อายุ 63 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้องข้างหน้าต่าง ตรงทางลงบันได สวมใส่สบง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณกลางหน้าอกเป็นแผลขนาดใหญ่และศีรษะมีร่องรอยถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์
จากการตรวจสอบภายในห้อง พบข้าวของกระจัดกระจายมีร่องรอยการต่อสู้ทรัพย์สินถูกรื้อค้น ตู้รับบริจาคมีร่องรอยถูกงัดแงะเงินบริจาคในตู้หายไปหมด ที่ข้างศพพบมีผ้าห่ม และผ้าเช็ดตัวตกอยู่ที่พื้น เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง และจากการตรวจสอบรอบๆบริเวณกุฏิ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบบันไดไม้ไผ่พาดอยู่ที่ด้านข้างขึ้นไปที่บริเวณหน้าต่างชั้นบนคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ปีนขึ้นไปเข้าที่หน้าต่าง และจากการสอบถามนายเลียบชนะภักดิ์ อายุ 60 ปี ผู้ทำหน้าที่คนดูแลวัด อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 7 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เล่าว่าปกติพระครูปะริยัต จะพักอยู่ที่กุฏิเพียงลำพัง และจะเปิดประตูกุฏิทุกเช้ามืดแต่วันนี้ประตูกุฏิยังปิดเงียบ ทั้งที่ไม่มีกิจนิมนต์ที่ไหนพระและเณรจึงช่วยกันเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงช่วยกันเปิดประตูเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง จนกระทั่งพบพระครูปริยัติมรณภาพในลักษณะดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายได้ใช้บันไดไม้ไผ่พาด ปีนขึ้นมาเข้าทางหน้าต่าง เพื่อหวังจะเข้ามาลักทรัพย์ภายในกุฏิและน่าจะรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายเป็นอย่างดี แต่ขณะที่คนร้ายได้ปีนขึ้นไปเข้าทางหน้าต่างพระครูปะริยัต ได้ยินเสียงจึงตื่นลุกขึ้นมาดู โดยยังเดินห่มผ้าห่มมา เมื่อคนร้ายเห็นดังนั้น จึงลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยสาเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะฆ่าเพื่อหวังชิงทรัพย์
ส่วนสาเหตุประเด็นเรื่องทะเลาะวิวาทภายในวัด ตำรวจยังไม่ได้ตัดทิ้ง หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน เร่งสืบสวนออกหาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งตำรวจสามารถควบคุมตัวพระประจวบ จิตปัญโญ อายุ 48 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 1 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นพระลูกวัดดังกล่าว โดยหลังจากเกิดเหตุได้หายตัวไปจากวัดและตำรวจได้ไปพบเจอตัวอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ปักธงชัย เบื้องต้นพระประจวบ อ้างว่าได้เดินทางไปซื้อของและทำธุระภายในพื้นที่ อ.ปักธงชัย และไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากว่ามีพยานหลักฐานหลายอย่าง เช่นรอยเลือด ลายนิ้วมือแฝง และพยานวัตถุอื่นๆ ที่น่าเชื่อว่าพระประจวบจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ก่อนเชิญตัวไปให้ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา สอบปากคำอย่างละเอียด ที่ สภ.อุดมทรัพย์ ซึ่งตำรวจจะได้เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่มีลูกศิษย์มากมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญอีกด้วย
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายได้ใช้บันไดไม้ไผ่พาด ปีนขึ้นมาเข้าทางหน้าต่าง เพื่อหวังจะเข้ามาลักทรัพย์ภายในกุฏิและน่าจะรู้จักคุ้นเคยกับผู้ตายเป็นอย่างดี แต่ขณะที่คนร้ายได้ปีนขึ้นไปเข้าทางหน้าต่างพระครูปะริยัต ได้ยินเสียงจึงตื่นลุกขึ้นมาดู โดยยังเดินห่มผ้าห่มมา เมื่อคนร้ายเห็นดังนั้น จึงลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยสาเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะฆ่าเพื่อหวังชิงทรัพย์
ส่วนสาเหตุประเด็นเรื่องทะเลาะวิวาทภายในวัด ตำรวจยังไม่ได้ตัดทิ้ง หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน เร่งสืบสวนออกหาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งตำรวจสามารถควบคุมตัวพระประจวบ จิตปัญโญ อายุ 48 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 1 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นพระลูกวัดดังกล่าว โดยหลังจากเกิดเหตุได้หายตัวไปจากวัดและตำรวจได้ไปพบเจอตัวอยู่ในเขตพื้นที่ อ.ปักธงชัย เบื้องต้นพระประจวบ อ้างว่าได้เดินทางไปซื้อของและทำธุระภายในพื้นที่ อ.ปักธงชัย และไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากว่ามีพยานหลักฐานหลายอย่าง เช่นรอยเลือด ลายนิ้วมือแฝง และพยานวัตถุอื่นๆ ที่น่าเชื่อว่าพระประจวบจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ก่อนเชิญตัวไปให้ พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา สอบปากคำอย่างละเอียด ที่ สภ.อุดมทรัพย์ ซึ่งตำรวจจะได้เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่มีลูกศิษย์มากมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญอีกด้วย
ข่าว : ไทยรัฐ
23 ตุลาคม 2555
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ