จารึกวัดบวรนิเวศ ประวัติศาสตร์ความมั่นคงพระศาสนา


สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพระโอวาทวันมาฆบูชา ปี ๒๕๕๖ ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยน้อมนำคำสอนของพุทธองค์มาบริหารจัดการชีวิตให้งดงามตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา 
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๖

 ความว่า พระพุทธศาสนา แสดงว่า พระสุคต คือพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด และแสดงว่า บุคคลย่อมงามในเบื้องต้นด้วยศีล งามในท่ามกลางด้วยสมาธิ งามในที่สุดด้วยปัญญา เพราะว่าศีลทำให้กาย วาจา หรือพฤติกรรมเรียบร้อยงดงาม สมาธิทำให้ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจสงบเยือกเย็นและมั่นคง ปัญญาทำให้ความรู้ความสามารถสะอาดบริสุทธิ์เป็นไปในทางสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามแก่ชีวิต เมื่อประมวลเข้าด้วยกัน ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือคุณเครื่องทำให้ชีวิตงดงาม

วันมาฆบูชา คือ วันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนา โดยย่นย่อ ส่วนหนึ่งของหลักการสำคัญดังกล่าวก็คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็คือ หลักศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
ฉะนั้น วันมาฆบูชา จึงถือได้ว่าเป็นวันแห่งความงามของชีวิต จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย น้อมจิตรำลึกถึงพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนของพระองค์มาบริหารจัดการชีวิตของตนให้งดงามด้วยการปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ ปัญญา ทั่วกัน
ขออำนวยพร


โครงการจารึกวัดบวรนิเวศ ประวัติศาสตร์ความมั่นคงพระศาสนา
https://docs.google.com/file/d/0B_nOh0gPsWNSaXpPYUNIRTA3aEE/edit
ช่วยแชร์เพื่อปกป้องและสืบทอดพระศาสนา ถวาย สมเด็จพระสังฆราช
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพรแด่ทุกคนเพื่อเป็นสิริมงคล และหวังให้ทุกคนน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งสอนไว้มาประพฤติปฏิบัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพระโอวาท บ้างท่านยังไม่ทราบว่าพระองค์ไม่ตรัสมานานแล้ว พรที่พระองค์ประทานมีขั้นตอนคือ ท่านเจ้าคุณพระเทพสารเวที เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จะเป็นผู้ร่างคำให้พรที่จะประทานแด่ประชาชน และนำขึ้นอ่านให้พระองค์ทรงพิจารณา จนทรงเห็นว่าเหมาะสมตามสัจธรรมและพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

“สมเด็จพระสังฆราช” ประทานพรวันเด็กแห่งชาติ ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก

วันนี้ ( 13 ม.ค.55)สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวรธัมโมวาท เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ พุทธศักราช 2555 ความว่า วันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาติ คือวันเด็กแห่งชาติ ที่ผู้ใหญ่คือคณะรัฐมนตรีประกาศยอมรับความสำคัญของวันเด็ก ด้วยการให้จัดเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม
เด็กเป็นอนาคตของชาติ จริงดังที่รู้กันและกล่าวถึงกันอยู่ตลอดมา นับเป็นความสำคัญอย่างยิ่งของเด็ก แต่ผู้ใหญ่เป็นอนาคตของเด็ก ผู้ใหญ่จึงเป็นความสำคัญที่สุดของชาติ เห็นได้ชัดเจนเป็นลำดับดังนี้ อนาคตของชาติอยู่ในมือของเด็กและอนาคตของเด็กอยู่ในมือของผู้ใหญ่ นั่นก็เท่ากับชาติอยู่ในมือของผู้ใหญ่ในชาตินั่นเอง ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างอย่างไรให้เด็กดูให้เด็กรู้ให้เด็กเห็น จนฝังจิตฝังใจ จนรับไว้เป็นนิสัยใจคอการปฏิบัติของเด็กไปโดยไม่รู้ตัวเป็นอนาคตของเด็ก นั่นก็คือเป็นอนาคตของชาติด้วย
ผู้ใหญ่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร อนาคตของชาติจะเป็นเช่นนั้น โดยมีเด็กในปัจจุบันนั่นเองเป็นผู้สืบสานเด็กในปัจจุบันที่จะเป็นอนาคตของชาติหรือเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตก็คือเป็นผู้ที่รับสิ่งที่พบเห็นเป็นการพูดการทำของผู้ใหญ่ไว้เป็นแบบอย่าง คิดตามพูดตามทำตามตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ คือเป็นอนาคตของชาตินั่นเอง

กล่าวโดยสรุปว่า ยุคสมัยปัจจุบันเป็นยุคที่เรามองโลกทั้งใบ เด็ก ๆ ทุกคนถือว่าเป็นสมบัติของมนุษยชาติ เด็กยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เปรียบเหมือนผ้าขาว เอาสีอะไรไปใส่ย่อมเป็นสีนั้น จึงขอฝากเด็ก ๆ ไว้กับผู้ใหญ่ ฝากอนาคตของชาติไว้กับเด็ก ๆ เพราะเขาเป็นความหวังของประชาชน การศึกษาถึงโลกในใจของเด็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของพวกเขา เป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดที่สำคัญที่สุดของผู้ใหญ่ ขออำนวยพร


http://www.facebook.com/thaihistory?ref=hl

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ