เจ้าคุณเอื้อน กำลังจะทำให้วัดกลายเป็นแหล่งเงินกู้
ตั้งกองทุนวัดแข่งกองทุนหมู่บ้าน !
เจ้าคุณเอื้อนเจ้าของไอเดีย
สงฆ์ภาค 14 นำร่อง
สมเด็จเกี่ยวตั้งชื่อกองทุน
หักเงินเดือนพระสังฆาธิการทุกระดับในภาค 14 ปีละครั้ง เอาเงินมาช่วยเหลือประชาชนผู้ยากจน แหมสุดยอดพระเมตตาเลยนะเจ้าคุณเอื้อนนี่ ว่าแต่ถามพระสังฆาธิการเขาดูหรือยังว่ายินยอมพร้อมใจกันเสียสละหรือไม่ อย่าใช้วิธีเผด็จการนะฮะ โครงการดีๆ แต่วิธีการไม่ดีนั้นมีปัญหา และที่จะเป็นปัญหามากกว่านั้นก็คือว่า ถ้าให้เจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจเสนอชื่อผู้ยืมเงิน แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้าอาวาสไม่ลำเอียง ประเดี๋ยวก็มีแต่ชื่อพี่ชื่อน้องฟ้องร้องกันนัวเนียหรอก
แต่เดิมมานั้น พระสงฆ์ไทยจะพยายามไม่เข้าไปยุ่งเรื่องเงินเรื่องทอง ปล่อยให้เป็นเรื่องของข้าราชการบ้านเมือง แต่ปัจจุบันนี้กลับวิ่งเข้าไปจัดการมากขึ้น ถึงกับตั้งและบริหารกองทุนเสียเอง มันก็น่าศึกษาว่า บทบาทของพระสงฆ์ไทยในยุคต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะพระในมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้นก็กลายเป็นข้าราชการในกำกับของรัฐบาลไปเต็มตัวแล้ว ภาคส่วนอื่นๆ ไม่ว่ามหานิกายและธรรมยุตก็ขยับตัวเข้าหาเงินทองและอำนาจ
วันนี้ เจ้าคุณเอื้อน กำลังจะทำให้วัดกลายเป็นแหล่งเงินกู้ซึ่งก็คือผลประโยชน์ต่อไปจะมีวิธีการสะสางปัญหาหนี้สินด้วยวิธีการอันผิดกฎหมายหรือไม่ ? อย่าลืมว่าเงินทองนั้นไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าผ้าเหลืองหรือผ้าลาย แม้จะให้ยืมฟรีๆ แต่ก็ต้องคืนอยู่ดี และของฟรีนั้นใครๆ ก็อยากได้ เมื่อมีคนอยากได้มากๆ ก็ต้องขันแข่งแก่งแย่งกัน และเมื่อนั้นก็ยุ่งตายห่า แถมเมื่อตอนจะคืนเงินนั้น ถามว่าพระจะเอาอำนาจอะไรไปทวง ขืนทวงมากๆ เขาอาจจะถวายลูกตะกั่วแทนก็ได้ เอางี้ ท่านเจ้าคุณเอื้อนช่วยการันตีหน่อยสิฮะว่าไม่มีปัญหา ถ้าเกิดปัญหาแล้ว "กระผมยินดีรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" เหมือนจอมพลผ้าขาวม้าแดงน่ะ
เล่นกับงู "อาสีวิโส อานนฺท"
พระพรหมดิลก (เจ้าคุณเอื้อน) วัดสามพระยา
เจ้าคณะภาค 14 กรรมการมหาเถรสมาคมสายธรรมกาย
พระพรหมดิลก (เจ้าคุณเอื้อน) วัดสามพระยา
เจ้าคณะภาค 14 กรรมการมหาเถรสมาคมสายธรรมกาย
คณะสงฆ์ภาค 14 บริจาคนิตยภัต ตั้งกองทุนสงเคราะห์ ปชช.
พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะภาค 14 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปี2552 มีแนวคิดว่า พระสงฆ์จะมีส่วนช่วยเหลือประชาชนอย่างไรได้บ้าง และไม่อยากให้มองว่าพระสงฆ์รอเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว จึงอยากหาวิธีการที่จะให้ประชาชนมองว่าพระสงฆ์เป็นผู้ให้ ไม่ลืมประชาชน และพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชน จึงริเริ่มตั้งโครงการกองทุนสงฆ์สงเคราะห์ประชาชน โดยชื่อของกองทุนได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชตั้งชื่อกองทุนให้ ซึ่งแนวทางของการดำเนินการกองทุนนี้ ได้สั่งการให้คณะสงฆ์ในสังกัดภาค14 ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร นครปฐม กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี จัดเก็บเงินเดือนหรือเงินนิตยภัตของพระสังฆาธิการทุกระดับปีละครั้ง ครั้งละ 1 เดือน รวมเป็นกองทุนดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้ขอยืมไปใช้ในการประกอบอาชีพ
พระพรหมดิลกกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางในการพิจารณาการให้ประชาชนยืมเงินนั้น จะให้เจ้าอาวาสในวัดของทั้ง 4 จังหวัดลงพื้นที่สำรวจชุมชนในพื้นที่รอบๆ วัด เมื่อพบประชาชน คนใดมีความเดือดร้อนต้องการใช้เงินในการประกอบอาชีพ เจ้าอาวาสจะต้องเป็นผู้พิจารณาและลงชื่อรับรอง จากนั้นเสนอยังเจ้าคณะจังหวัดในการอนุมัติเงินให้ยืม โดยกำหนดว่าจะให้ยืมเงินไม่เกินครั้ง 20,000 บาท ต่อ 1 คน ไม่ใช่การกู้เงิน เพราะจะไม่คิดดอกเบี้ย เมื่อประกอบอาชีพจนได้ผลกำไรแล้วให้นำเงินมาคืน เพื่อพิจารณาผู้อื่นยืมเงินได้อีก
พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะภาค 14 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปี2552 มีแนวคิดว่า พระสงฆ์จะมีส่วนช่วยเหลือประชาชนอย่างไรได้บ้าง และไม่อยากให้มองว่าพระสงฆ์รอเป็นผู้รับเพียงอย่างเดียว จึงอยากหาวิธีการที่จะให้ประชาชนมองว่าพระสงฆ์เป็นผู้ให้ ไม่ลืมประชาชน และพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชน จึงริเริ่มตั้งโครงการกองทุนสงฆ์สงเคราะห์ประชาชน โดยชื่อของกองทุนได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชตั้งชื่อกองทุนให้ ซึ่งแนวทางของการดำเนินการกองทุนนี้ ได้สั่งการให้คณะสงฆ์ในสังกัดภาค14 ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร นครปฐม กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี จัดเก็บเงินเดือนหรือเงินนิตยภัตของพระสังฆาธิการทุกระดับปีละครั้ง ครั้งละ 1 เดือน รวมเป็นกองทุนดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้ขอยืมไปใช้ในการประกอบอาชีพ
พระพรหมดิลกกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางในการพิจารณาการให้ประชาชนยืมเงินนั้น จะให้เจ้าอาวาสในวัดของทั้ง 4 จังหวัดลงพื้นที่สำรวจชุมชนในพื้นที่รอบๆ วัด เมื่อพบประชาชน คนใดมีความเดือดร้อนต้องการใช้เงินในการประกอบอาชีพ เจ้าอาวาสจะต้องเป็นผู้พิจารณาและลงชื่อรับรอง จากนั้นเสนอยังเจ้าคณะจังหวัดในการอนุมัติเงินให้ยืม โดยกำหนดว่าจะให้ยืมเงินไม่เกินครั้ง 20,000 บาท ต่อ 1 คน ไม่ใช่การกู้เงิน เพราะจะไม่คิดดอกเบี้ย เมื่อประกอบอาชีพจนได้ผลกำไรแล้วให้นำเงินมาคืน เพื่อพิจารณาผู้อื่นยืมเงินได้อีก
ข่าว : ข่าวสด27 กุมภาพันธ์ 2556
ถอยดีกว่า ไม่อาวดีกว่า !
พระพายัพอ้าง "ป่วย" ถอนตัวขึ้นเวทีดีเบตพระพยอม
หลังใจร้อนรับมงกุฎวัดเทพศิรินทร์ไปก่อนหน้า
ถ้าขึ้นเวทีซ้อนอีกก็คงไม่สวย
เพราะตอนนี้ความเสียหายมิได้กระจุกอยู่เฉพาะ "พระพายัพ" กับนามสกุล"ชินวัตร" เพียงจุดเดียวแล้ว แต่กระจายไปถึง "สมเด็จสมชาย" ที่ถูกนินทากระหึ่มเมือง แถมเรื่องยังบานปลายไปถึงมหาเถรสมาคมซึ่งปกครองคณะสงฆ์ไทยอีกต่างหากด้วย แหมเรื่องตั้งพุทธสภาก็ว่าน่าดูแล้ว ยังมีเรื่องพระครูปลัดสมเด็จสมชายเข้ามาเพิ่มน้ำหนักอีก ระวังอย่าให้เป็นฟางเส้นสุดท้ายนะฮะ ประเดี๋ยวสมเด็จทั้งหลายจะถูกหนังสือพิมพ์แต่งตั้งให้เป็นตัวตลกบ้าง มันจะไปกันใหญ่ แต่ก็ดีแล้วฮะ เมื่อรู้ว่ามีแรงต้านอยู่เบื้องหน้า คนฉลาดทั้งหลายก็ไม่มีใครบ้าชน เพราะมีแต่เสียกับเสีย สู้หลบไปทางอื่นดีกว่า คนมีสติเขาคิดและทำกันเช่นนี้ทั้งนั้นแหละ
‘พระพายัพ’ อาพาธ งดบรรยายธรรม พศ. ชี้ตั้งฐานานุกรมเป็นเรื่อง เหตุคนจงใจโยงการเมือง
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่บริเวณอาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพฯ กลุ่มสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติของมหาเถรสมาคม(มส.) ได้จัดงานครบรอบ 3 ปี ดีดีทีวี หรือทีวีสาธารณของคณะสงฆ์ โดยนิมนต์พระพายัพ เขมะคุโณ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมของสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ กรรมการมหาเถรสมาคม ร่วมบรรยายพิเศษให้กับพุทธศาสนิกชนได้รับฟัง ทั้งนี้ ตามกำหนดการ พระพายัพจะได้บรรยายธรรม เวลา 19.30 น. พร้อมกับพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พระนักเทศน์ชื่อดัง แต่ปรากฏว่า ทางผู้จัดงานได้แจ้งเหตุพระพายัพไม่สามารถมาร่วมงานบรรยายธรรมได้
พระมหาปราโมทย์ ปโมทโย ผอ.ดีดีทีวี ในฐานะผู้จัดงาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้นิมนต์พระพายัพ บรรยายเรื่อง ทำอย่างไรให้ประเทศไทยมั่งคั่ง ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งพระพายัพยังเป็นฆราวาส อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ พระพายัพได้แจ้งกะทันหันว่า ของดกิจนิมนต์ในการมาเทศน์ เนื่องจากอาพาธ ไม่สามารถมาเข้าร่วมงานนี้ได้ ทั้งนี้ อาตมาคิดว่า การที่พระพายัพไม่ได้มานั้น ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีการตั้งฐานานุกรมที่เกิดขึ้น แต่เป็นเพราะเรื่องสุขภาพจริงๆ ส่วนงานอีก 2 วันที่เหลือ พระพายัพก็คงไม่สามารถมาร่วมงานได้อีก
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ยังไม่ได้เข้ากราบเรียนเรื่องการตั้งฐานานุกรมต่อสมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ด้วยเหตุที่เรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อใคร เป็นการนำมาโยงประเด็นการเมืองกันเอง ทั้งนี้เรื่องการตั้งฐานานุกรม ได้เน้นย้ำว่า เป็นอำนาจของสมเด็จพระราชาคณะ ที่จะสามารถตั้งใครก็ได้ ตามที่ท่านเห็นว่า เหมาะสมขึ้นมาเป็นพระฐานานุกรม ในกรณีของพระพายัพได้มีการกำหนดว่าจะลาสิกขาในวันที่11 มี.ค.นี้ ดังนั้นพอสึกออกไปตำแหน่งดังกล่าวก็สิ้นสุดลงไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนังสือตราตั้ง ตนก็ยังไม่เห็น เพราะการแต่งตั้งเช่นนี้ พระราชาคณะแต่ละรูปจะรายงานมส.หรือไม่รายงาน มส.ก็ได้ แต่พระราชาคณะที่ตั้งจะต้องบันทึกไว้ว่า ได้แต่งตั้งผู้ใดไว้บ้าง วันที่เท่าไร แต่ละรูปก็ตั้งได้ไม่เท่าตามสมณศักดิ์ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้น การแต่งตั้งรูปแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพียงแต่ครั้งนี้เป็นข่าวขึ้น เพราะนามสกุล ชินวัตร ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
ข่าว : มติชน
23 กุมภาพันธ์ 2556
วันดีที่คุณ
ตอบลบคุณกำลังมองหาเงินกู้ของแท้มาก? ในอัตราที่เหมาะสม? ภายใน 2-3 วันทำการ คุณได้รับการปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง? โดยธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ของคุณ?ข่าวดีก็คือนี้! เรามีเงินให้สินเชื่อตั้งแต่€ 1,000.00 ถึง $ 30,000,000.00 แม็กซ์ ดอกเบี้ย 3% ต่อปี เงินกู้ยืมสำหรับการพัฒนาขยายธุรกิจการแข่งขัน EDGE / ธุรกิจ เราเป็นผู้ได้รับการรับรองที่เชื่อถือได้และเชื่อถือได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็วและแบบไดนามิก และเงินทุนร่วมงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการทุกรูปแบบของการจัดหาเงินทุนธุรกิจ, ตอบนี้ E-mail: บริษัท เงินกู้ betterdayfunds@aol.com
เราให้เงินกู้ยืมระยะยาวจากหนึ่งเดือนถึงห้าสิบปี
เรานำเสนอต่อไปนี้ประเภทของเงินให้กู้ยืมและอื่น ๆ อีกมากมาย;
* สินเชื่อส่วนบุคคล (ยืมที่ไม่มีหลักประกัน)
* สินเชื่อธุรกิจ (เงินกู้ที่ไม่มีหลักประกัน)
รวมเงินให้สินเชื่อ * สินเชื่อรวม
* ปรับปรุงบ้าน
กรุณาถ้าคุณมีความสุขและสนใจในข้อเสนอทางการเงินของเราไม่ลังเลที่จะติดต่อเราหากคุณต้องการบริการของเราในขณะที่คุณจะต้องให้เราข้อมูลต่อไปนี้เพื่อเริ่มต้นกระบวนการของการกู้ยืมเงินของคุณตาม กรุณาถ้าคุณมีความสนใจในเงินกู้วันนี้เรา E-mail เร่งด่วนด้วยที่อยู่อีเมลต่อไปนี้: betterdayfunds@aol.com
ขอแสดงความนับถือที่ดีที่สุด
เคท tedy