จารึกประวัติศาสตร์ ความหมายของนักรบ ?
ทหารแก่โต้ข่าวดีแต่ด่า สวน..'มึงไม่ทำเหมือนกู' ไล่ทหารปกป้องอธิปไตย เขมรสนิมกัดกินคมมีด |
อดีตนายพลกองทัพบก นักรบผ่านสมรภูมิมากที่สุดในกองทัพไทย จวกกองทัพยับ ยอมลดเกียรติเดินตามรัฐบาลเผาบ้านเผาเมือง กราบเท้าฮุนเซน ปลุกให้ลุกขึ้นมารักษาอธิปไตยชาติ ไล่เขมรพ้นดินแดนไทย ไม่ต้องแคร์นานาชาติ โต้กลับคนดูถูกดีแต่ด่า สวนเจ็บ"กูทำหน้าที่เต็มที่ แต่พวกมึงต่างหากที่ไม่ทำเหมือนกู" พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และนายทหารกลุ่มพันธมิตรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวกับ "ไทยอินไซเดอร์" ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ยอมลดท่าทีขอโทษหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ หลังเกิดวิวาทะระหว่างกัน จนมีนายทหารชั้นผู้น้อยยกพลประท้วงการกระทำของเอเอสทีวีผู้จัีดการถึงหน้าสำนักพิมพ์ว่า การทำเช่นนี้ในปัจจุบันมันผิดหลักเกณฑ์สังคมประชาธิปไตย การไปแสดงเช่นนั้นสังคมเห็นว่าไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เขาเลยต้องขอโทษ จะด้วยเต็มใจหรือไม่เต็มใจ เขาก็ต้องขอโทษ เมื่อถามว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงนิมิตหมายอันดีระหว่างสื่อมวลชนกับทหารหรือไม่ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า เราจะตัดสินใจในขณะนี้ไม่ได้ เราต้องดูต่อไป คนเราถ้าสำนึกในชาติแล้วและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะมีความภาคภูมิใจในตัวเอง จะมีเมตตาธรรม มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างเต็มกำลัง สร้างความมั่นคงให้บ้านเมืองตามหน้าที่ ไม่ว่าคนเล็กคนน้อย หรือคนกวาดถนนก็ตาม ก็จะมีความภูมิใจ มีจิตวิญญาณที่มีมิตรไมตรีกับผู้อื่น เป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมะ คนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดจะมีความภาคภูมิใจในตัวเอง และเกิดเมตตาธรรมกับคนทั่วไป เมื่อถามว่า จุดยืนเกี่ยวกับประเด็นปราสาทพระวิหารของภาคประชาชน ยังคงต้องการให้รัฐบาลถอนตัวออกจากมรดกโลกและไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลกใช่หรือไม่ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า นอกจากไม่รับศาลโลกแล้วต้องไล่มัน(หมายถึงกัมพูชา)ออกไปด้วยซ้ำไป ต้องใช้กำลังไล่มันออกไป เรามีคณะกรรมการฝ่ายทหารอยู่ มีความอันพันอันดีต่อกันเราก็ต้องบอกเขาไปว่าที่เขาทำไม่ถูกต้อง ต้องออกไปเสีย ในเมื่อเจรจาแล้วไม่ออกไปเราก็บอกกับโลกได้ว่าเวลาเขารุกล้ำเรา เราบอกเขาแล้ว มีกรรมการบอกแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องใช้กำลัง ไม่มีใครหรอกที่จะมาว่าเราได้ "ใช้วิธีสันติ ผ่านกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี) เมื่อบอกไปแล้วเขาไม่ยอมออกไป เราก็ต้องใช้กำลัง ประกาศให้โลกรู้ว่าเราเจรจากับเขาแล้ว เมื่อเขาไม่ตอบรับเราก็ต้องรักษาอธิปไตยของเรา ไม่มีใครมาแทรกแซงเราได้ นอกจากรอบปราสาทพระวิหารที่เขมรเข้ามาอยู่แล้ว ตามแนวชายแดนถ้าไปเดินดูเขาจะรุกล้ำเข้ามาตลอดเวลา แล้วเราก็ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เป็น"ดินพอกหางหมู" อ้างว่าการไปมาหาสู่ การตลาด การค้า แลกเปลี่ยนสินค้า มันก็จะเป็น"สนิมขึ้นอยู่ที่คมมีด" ถ้าคมมีดเป็นเขตแดน "สนิม"ที่เกิดที่คมมีดเพราะเราละเลย คือกองกำลังเขมรและคนเขมร"อดีตนายทหารกองทัพบกรายนี้กล่าว เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ว่าการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศต้องอาศัยหลักถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า การถ้อยทีถ้อยอาศัยกันจะเกิดได้เมื่อทุกคนเคารพสิทธิอธิปไตยของกันและกัน แต่เวลานี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขมรเข้ามารุกรานประเทศเราอยู่ แต่เรายอมไปจะด้วยอะไรก็ตาม จะด้วยเห็นแก่ประโยชน์ จะด้วยมีคนไทยไปลงทุนในเขมร จะด้วยเขมรมาทำดีกับเราเกิดประดยชน์ตามแนวชายแดน ไม่อยากให้คนไร้ที่นาคาที่อยู่ หรือมีผลประโยชน์ไปถึงคนที่มีอำนาจในรัฐบาล เราตอบไม่ได้ แต่ในสมัยที่ผมอยู่เรื่องเหล่านี้มันไม่เกิด เคยอยู่ตามแนวชายแดนนี้มา กองพลทหารราบที่9 รวมถึงกองพลทหารราบที่3 ก็เคยอยู่มา คมมีดเราสะอาด ไม่มีอะไรมาเกาะกินได้เลย เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้สนิมมาเกาะกิน พล.อ.ปรีชา ตอบทันทีว่า โดยทางการไทยไม่ชำระสะสาง แล้วเขาผิดนะ เพราะพื้นที่ตามแนวชายแดนใช้แผนที่ 1 ต่อ 5 หมื่นมานมนานกาเล เขมรก็ยอมรับอยู่แล้ว แล้วเราประกาศกฎอัยการศึกด้วยตามแนวชายแดน กองกำลังต่างๆตามแนวชายแดนก็มีกฎหอัยการศึกรองรับด้วย เป็นสิทธิชอบธรรมของทหารที่จะตัดสินใจขับไล่ออกไป ถ้าไม่ทำโทษถึงประหารนะ...ขึ้นศาลทหาร เมื่อถามว่า ดูเหมือนตอนนี้ทหารจะฟังรัฐบาลมากกว่า พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า ก็นั่นนะสิ เพราะอะไรละ ต้องไปถามเขาดูว่าเพราะอะไร ที่จริงแล้วทหารมีรัฐธรรมนูญรองรับ มีกฎอัยการศึกรองรับ มีทุกอย่างหมดแล้ว แล้วสิทธิหน้าที่ทหารก็มีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ เหมือนเราจ้างแขกยามเฝ้าบ้าน ต้องรอให้เจ้าของบ้านสั่งหรือเมื่อขโมยเข้ามาแล้ว ถ้าขโมยเข้าบ้านแล้วแขกยามไม่ทำอะไรให้ขโมยของออกไป เราจะจ้างหรือไม่ ประชาชนจะจ้างหรือไม่ นี่มันเห็นชัดเจนหมด เมื่อถามว่า แต่การที่สื่อมวลชนไปกระตุ้นเตือนผบ.ทบ.มากเกินไป จนผบ.ทบ.ตีความผิดว่าเป็นการไปโจมตีหรือไม่ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า สื่อมวลชนไหนละ สื่อมวลชนน้อยฉบับมาก สื่อส่วนใหญ่อยู่ในการครอบงำของทุนนิยม ของการที่จะเสียโฆษณา เขาไม่ให้โฆษณา เขาควบคุมอยู่ รัฐบาลมีอำนาจควบคุมสื่อทางทีวีอยู่ จะมีสื่อกี่ฉบับ นอกจากของหนู(หมายถึงไทยอินไซเดอร์) สิ่งเหล่านี้รัฐบาลบอกว่าอยู่กันอย่างสันติ ปล่อยให้เขมรมาขโมยของในบ้านอยู่ตลอดเวลา เมื่อถามย้ำว่า รู้สึกอย่างไรที่มีบางฝ่ายบอกว่าผบ.ทบ.ด่าผู้จัดการเป็นการด่าที่ถูกตัวแล้ว พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า สื่อเอเอสทีวี เขาพูดเรื่องอะไร เขาพูดเรื่องผลประโยชน์ของชาติ แล้วทหารไปด่าคนที่เขากระตุ้นให้ทำหน้าที่เพื่อชาติมันถูกหรือผิด เหมือนการที่พ่อแม่บอกให้ครูไปสอนเด็ก กลับมาด่าพ่อแม่อีกต่างหาก ไม่ต้องถามคำนี้ ดูพฤติกรรมเอาก็แล้วกัน สื่อเอเอสทีวีเขากระตุ้นให้ทำหน้าที่ใช่หรือไม่ แล้วไปด่าเขา เมื่อถามว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องไปสร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศในกลุ่มคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อใช้ต่อรองต่อสู้กับเขมรหรือไม่ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า เรารักษาอธิปไตยของชาติ การสร้างสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศ มันเป็นธรรมดาในโลกนี้อยู่แล้ว เรามีกระทรวงการต่างประเทศ มีรัฐบาล มีนโยบายต่างประเทศ มันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องบอกถ้าคนมีความสำนึกในชาติ ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไป เมื่อถามย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องไปสานสัมพันธ์กับประเทศยักษ์ใหญ่เพื่อใช้ต่อสู้กับกัมพูชาในศาลโลก พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงเรามีความสัมพันธ์อันดีกับทุกชาติในโลกมันเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองทั้งนั้น ไม่ว่ากรณีใดๆ ส่วนเรื่องการรักษาอธิปไตยในดินแดนของเราก็เป็นเรื่องของเรา ทุกชาติก็มีอธิปไตยของเขา เราก็บอกเขาโดยตรงว่าที่เราทำ เรารักษาอธิปไตย ดินแดนของเรา ไปดูก็ได้ เขมรรุกล้ำเข้ามา ใครจะมายุ่งอะไรกับเรา โดยปกติธรรมดา เราอยู่ในสังคมโลกเราก็ต้องเป็นมิตรไมตรีกับทุกประเทศในโลก เมื่อถามย้ำอีกว่า ถ้าทหารไทยขับไล่กัมพูชาออกไป ทั่วโลกย่อมเห็นด้วยกับเรา อดีตนายพลกองทัพบก กล่าวว่า ทำไมจะไม่เห็น เรารักษาบ้าน รักษาเขตแดนของเรา ทุกประเทศในโลกก็มีเขตแดน ไอ้พวกที่บอกไม่พรมแดน มันโกหก เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลไทยไม่ตอบโต้เขมร โดยอ้างเรื่องการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เตรียมรับเออีซี เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า ไร้สาระ ไร้สาระมาก ทุกชาติในโลกถ้าแผ่นดินตัวเองถูกรังแก ถูกรุกรานจะป้องกันมั๊ย ทุกอย่างอย่ามาพูดให้คนเข้าใจผิด ผลประโยชน์ของทุกประเทศในโลก เรามีร่วมกันได้ แต่อย่าเอาเปรียบกัน บ้านใครบ้านมัน เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ในตัวนายทหารที่เกษียณอายุราชการ ออกมาจากกองทัพแล้ว แล้วเสนอแนวคิดให้กองทัพใช้วิธีรุนแรงไปสู้รบ เป็นสิ่งที่ทำได้เพราะไม่ใช่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพปัจจุบัน อดีตนายทหารกองทัพบก กล่าวตอบโต้ว่า "ไม่หรอกอย่างลุงนี่รบราฆ่าฟันมากกว่ากว่าคนที่อยู่ในกองทัพ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ พื้นที่ทางด้านตะวันออกที่เป็นปัญหากันนี้ ลุงอยู่มาแล้วกองพลฯที่9 ลุงเป็นผู้บัญชาการกองพล มันเข้ามา ลุงยิงตายห่าหมด บ้านหนองจานก็เป็นของเรา ลุงทำหน้าที่เต็มที่ แต่พวกมึงต่างหากที่ไม่ทำเหมือนกู จะเอาอะไรมาว่าละ ลุงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมา รักษาชาติบ้านเมืองไว้ ลุงไม่อยากพูด" "รัฐบาลปัจจุบันเผาบ้านเผาเมืองมา ไปกราบใต้เข็มขัดฮุนเซนมา ไอ้ฮุนเซนกระทืบตีนใส่ก็ไม่ทำอะไรกับมัน ไอ้นักการเมืองเราก็ไปกราบใต้เข็มขัดมันอีก"พล.อ.ปรีชากล่าวอย่างมีอารมณ์ เมื่อถามต่อว่า ถ้ารัฐบาลเดินตามเกมเขมร ทหารคือทางเดียวที่จะต่อสู้แก้ไขปัญหา พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า "ไม่ว่าจะเกิดปัญหาเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง รัฐบาลอ่อนแอ แต่ทหารต้องเข้มแข็ง ทหารต้องบอกรัฐบาลว่าสิ่งนี้ทำได้ สิ่งนี้ทำไม่ได้ ไม่ใช่เดินตามเขา เวลานี้รัฐบาลอ่อนแอ เอาประโยชน์กับเขมร ไปกราบใต้เข็มขัดเขมร มันทำดีกับคนที่ยิงคนไทยตามแนวชายแดน หนีตายเป็นแสน แล้วยังไปกราบตีนมันอีก แล้วใครกราบ ไอ้พวกเสื้อแดง รัฐบาลเพื่อไทย ทักษิณที่ไปกอดกันกลม ไม่สำนึกเลยว่ามันเพิ่งจัดการกับคนของเราหนีตายหยกๆ แล้วไม่สำนึกในชาติ" เมื่อถามถึงข้อเสนอให้มีการขับไล่รัฐบาลชุดนี้ เนื่องจากเป็นแนวทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาปราสาทพระวิหารได้ พล.อ.ปรีชา กล่าวว่า "แน่นอน ลุงพูดอยู่ตลอดเวลาไม่ปิดบังเลย มันเผาบ้านเผาเมืองมา แล้วเวลานี้มันเอาคนที่จะลงผู้ว่าฯกทม. มีประวัติด่างพร้อย ขโมยของ เอาคนอย่างนี้มาให้คนไทยเลือก แสดงว่าความชั่วมันครอบงำชาติบ้านเมือง ผิดถูกไม่รู้แล้ว เอาเสาไฟฟ้าส่งลงก็ได้ เป็นการดูถูก มันชั่วสุดๆแล้ว" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ปรีชา เมื่อครั้งรับราชการ ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารนักรบผ่านสมรภูมิต่าง ๆ มากมาย จนได้เงินเพิ่มสู้รบมากถึง 16 ขั้น ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกองทัพไทย เคยเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในฐานะหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการในขณะที่ พล.อ.ชาติชาย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในปี พ.ศ. 2534 เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ได้ผันตัวเองเข้าทำงานด้านส่งเสริมคุณธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา โดยเป็นที่ปรึกษาและรองประธานศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม หรือที่นิยมเรียกว่า "ศูนย์คุณธรรม" ซึ่งตั้งขึ้นโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ.2547 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นเป็นประธาน นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการและที่ปรึกษาการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกในปี พ.ศ.2550 http://thaiinsider.info/news2012b/column/speak/21308-2013-01-17-06-16-30 |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ