ศักดิ์สิทธิ์ ! ปาฏิหาริย์ชานหมากหลวงปู่เณรคำ ตรวจดีเอ็นเอได้ 16 จุด



ศักดิ์สิทธิ์ !

ปาฏิหาริย์ชานหมากหลวงปู่เณรคำ

ตรวจดีเอ็นเอได้ 16 จุด
รู้แม้กระทั่งว่าเณรคำเป็นพ่อเด็ก

แบบนี้ต้องบอกว่า "ของเขาดีจริง" จริงไหมหลวงปู่ ?




ผู้วิเศษแห่งศรีสะเกษ



เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล ผบ.สำนักงานกิจการต่างประเทศและอาชญากรรมระหว่างประเทศ นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักตรวจพิสูจน์ชีววิทยา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบดีเอ็นเอ คดีนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก

นายธาริตกล่าวว่า พยานหลักฐานที่นำมาใช้เพื่อตรวจสอบ เป็นพยานที่น่าเชื่อถือ อาศัยอยู่พื้นที่สาขาของสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม ไมใช่ในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นการได้จากพระเลขาลูกศิษย์ที่มีการส่งต่อจากมืออดีตพระเณรคำโดยบุคคลทั้งสามคนนั่งอยู่ในที่เดียวกัน ดังนั้น ความน่าเชื่อถือจึงมีน้ำหนักมาก และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำบุคคลดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับพยานรายดังกล่าวเคยเป็นผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาอดีตเณรคำ ภายหลังจากได้ซิการ์แล้วนำไปเก็บใส่ถุงรักษาไว้อย่างดี เพื่อบูชา 

ทั้งนี้ในส่วนของคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ขณะนี้สำนวนสมบูรณ์แล้ว และภายในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งอัยการโดยทันที และหลังจากนั้นดีเอสไอจะประสานขอความร่วมมืออัยการให้เร่งสั่งคดีเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ด้าน พ.ท.นพ.เอนกกล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับวัตถุพยานเข้ารับการตรวจจำนวน 4 ชิ้น ประกอบด้วย ซิการ์ไทย จีวร 2 ชิ้น และพระผง รุ่นเนื้อชานหมาก ซึ่งมีเส้นเป็นส่วนประกอบ แต่จีวรและพระผงไม่สามารถสกัดดีเอ็นเอนำมาตรวจสอบและเปรียบเทียบได้ เพราะไม่มีเซลล์

ส่วนซิการ์ที่อดีตเณรคำเคยสูบแล้วมอบให้ลูกศิษย์นำไปบูชา มีเซลล์กระพุ้งแก้มในน้้ำลายติดอยู่ และเมื่อนำไปตรวจเทียบกับดีเอ็นเอของแม่และเด็กอายุ 11 ขวบ ที่ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เคยตรวจสอบความเป็นแม่ลูกของหญิงสาวและเด็กชาย 11 ขวบแล้ว

ผลปรากฏว่าดีเอ็นเอของอดีตเณรคำตรงกับเด็กชาย 16 จุด ตำแหน่ง ซึ่งถือว่ามีความแม่นยำและเชื่อถือได้ว่าบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์เป็นพ่อ แม่ ลูกกันแน่นอน เนื่องจากเป็นการตรวจที่ละเอียดกว่าการตรวจดีเอ็นเอของเอฟบีไอที่ตรวจเพียง 13 ตำแหน่ง



ข่าว : มติชน
23 สิงหาคม 2556






จี้เจ็ดสี "หยุดฉาย" ฟ้าจรดทราย

เหตุผล : บิดเบือนคำสอนอิสลาม





มูลนิธิมุสลิมฯ ทำหนังสือถึง กสทช. ให้ยุติออกอากาศละคร "ฟ้าจรดทราย" ชี้บิดเบือนศาสนาอิสลาม

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 22  สิงหาคม ว่า มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์เรื่อง "ฟ้าจรดทราย" ซึ่งฉายอยู่ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ช่อง 7 สี) ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น.

โดยให้เหตุผลใจความว่า สืบเนื่องจากมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลาม ว่าละครเรื่องดังกล่าวมีความไม่เหมาะสมของเนื้อหาและบทบาทของตัวละครยังมีการบิดเบือนหลักการของศาสนาอิสลาม ใส่ร้ายชาวมุสลิมในทางเสื่อมเสีย ซึ่งจากการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมายมูลนิธมุสลิมเพื่อสันติพบว่า ละครเรื่องนี้บิดเบือดหลักการศาสนาอิสลามและใส่ร้ายต่อหลักปฏิบัติที่ถูกต้องของมุสลิมอย่างมาก เป็นการกระทำที่ดูหมิ่นลบหลู่

ดังนั้น การที่ช่อง 7 ออกอากาศถ่ายทอดละครเรื่องนี้ จะทำให้ผู้ชมมีความเข้าใจต่อหลักการศาสนาอิสลามในทางที่ผิดไปจากความเป็นจริง เช่น โหดร้ายทารุณต่อเด็กและสตรี ซึ่งตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิงและยังมีอีกหลายประการที่เป็นการใส่ร้ายคนมุสลิมอีกด้วย สร้างความไม่พอใจต่อประชาชนมุสลิมจำนวนมากหากทาง กสทช. ปล่อยให้ละครโทรทัศน์ออกอากาศต่อไป เกรงว่าจะเกิดผลกระทบในวงกว้างที่ไม่อาจคาดคิดได้


ทางมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ โดยฝ่ายกฎหมาย จึงเรียนมายังท่านเลขาธิการ กสทช.เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศละครเรื่องฟ้าจรดทราย โดยด่วนที่สุด ลงชื่อนายปราโมทย์ สมะดี ประธานมูลนิธิ มุสลิมเพื่อสันติ


สำหรับละครเรื่อง "ฟ้าจรดทราย" ประพันธ์โดย โสภาค สุวรรณ บทโทรทัศน์โดย ศัลยา สุขะนิวัตต์ กำกับการแสดงโดย สยาม สังวริบุตร จากค่าย ดาราวิดีโอ นำแสดงโดย ตุ้ย-ธีรภัทร สัจจกุล และ ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์   




ข่าว : มติชน
23 สิงหาคม 2556






งดสมโภชปฏิบัติสังฆราช !


สมเด็จวัดปากน้ำอ่อนน้อมถ่อมตัว "ขอช่วยแบ่งเบาภาระพระสังฆราช" และ "จะจัดงานทำบุญวันเกิดเล็กๆ น้อยๆ" แหมน่ารักจังเลย และก็งานสมโภชตำแหน่ง"ปฏิบัติหน้าที่" สมเด็จพระสังฆราชนั้น มันไม่เคยมีในประวัติศาสตร์นะฮะ เพราะมิใช่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช จะไปสมโภชได้ยังไง ใครสมโภชก็บ้าแล้ว ถึงสมโภชก็ต้องสมโภช "ทั้งคณะ" เพราะตำแหน่งนี้ตั้งเป็นคณะ มิใช่ตั้งคนเดียว สมเด็จวัดปากน้ำเป็นเพียง "ประธาน" เท่านั้น ดังนั้น ที่สมเด็จวัดปากน้ำท่านพูดก็ถูกแล้ว แต่แหม แค่จัดงานวันเกิดเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ใหญ่ระดับ "ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช" นั้น มันก็ใหญ่พอๆ กับวันเกิดนายกรัฐมนตรีทีเดียวล่ะฮ่ะ เพราะ "น้อยของหลวงพ่อ" ก็คือ "ใหญ่ของหลวงพี่" คอยดูวันที่ 26 นี้สิ คนล้นวัดปากน้ำแน่อิอิ !



ดาวล้อมเดือน


สมเด็จวัดปากน้ำงดสมโภชตำแหน่ง พร้อมแบ่งเบาภาระสมเด็จพระสังฆราชฯ ตั้งปณิธานทำงานด้านพระพุทธศาสนาให้ดีที่สุด คณะทูตวาติกันมอบสาสน์แสดงความอาลัยสมเด็จเกี่ยว


เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2556 ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปฺญโญ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ แม่กองบาลีสนามหลวง กล่าวภายหลังที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติแต่งตั้งเป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชแทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อดีตกรรมการ มส. อดีตเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ซึ่งเมื่อมรณภาพเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า การได้รับตำแหน่งทางพระสงฆ์เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ที่ต้องมีดีใจบ้างกับการได้รับตำแหน่งใหม่

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวต่อว่า  ที่ถามว่าทางวัดปากน้ำฯจะจัดพิธีสมโภชตำแหน่งหรือไม่ ตามธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาของวัดปากน้ำก็ไม่เคยจัดพิธีสมโภชตำแหน่งใดๆ มาก่อนอยู่แล้ว  ดังนั้นการได้รับตำแหน่งในครั้งนี้จึงไม่คิดจะจัดพิธีสมโภชใดๆ  จะมีก็แต่การจัดงานแสดงมุทิตาจิตที่คณะสงฆ์และสาธุชนจะมาร่วมกันทำบุญประจำวันเกิดที่จะมาถึงในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ก็ถือเป็นการรวมพลังจากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมกันบำเพ็ญกุศลที่วัดเป็นประจำทุกๆ ปี ซึ่งก็จะจัดพิธีสวดมนต์ทำบุญตามปกติไม่มีอะไรพิเศษ สำหรับการได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครั้งนี้ ก็ตั้งใจว่าจะช่วยแบ่งเบาการทำงานสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

“การแต่งตั้งนั้นก็เป็นไปตามทำนองคลองธรรมของวงการสงฆ์ที่ถือปฏิบัติกันมาและก็ได้พิจารณาจากสมณศักดิ์ เมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ซึ่งเป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชมรณภาพ ตำแหน่งก็ว่างลง ต้องมีการแต่งตั้งไปตามวาระและก็ตั้งปณิธานว่า จะช่วยทำงานด้านพระพุทธศาสนาให้ดีที่สุด ทั้งนี้ในส่วนการจัดประชุม มส. ก็จะไปจัดประชุมที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมทุกๆ ครั้ง  สุดท้ายก็ขอให้พุทธศาสนิกชนทุกคนรักษาศีล 5 เพื่อให้บ้านเมืองของเราสงบสุข เป็นสังคมที่ร่มเย็นตลอดไป” ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ตลอดทั้งวันได้มีคณะสงฆ์  ผู้แทนหน่วยงาน ตลอดจนพุทธศาสนิกชน เดินทางมาทำบุญ เพื่อร่วมแสดงมุทิตาจิตกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นจำนวนมาก

วันเดียวกันที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดพิธีศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ ยังคงมีคณะสงฆ์พร้อมด้วยประชาชน เดินทางมาสักการะศพตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในเวลา 13.40 น. นายปอล ชาง อิน นัม เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช มุขนายกอัครสังฆมณฑลกรุงเทพมหานคร และรองประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย นายชูศักดิ์ สิริสุทธิ์  มุขนายกอัครสังฆมณฑลนครราชสีมา นายบรรจง ไชยรา มุขนายกอัครสังฆมณฑลอุบลราชธานี มงซินญอร์ ดร.วิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยและอดีตนักการทูตวาติกัน เดินทางมาสักการะศพพร้อมนำสาสน์แสดงความเสียใจต่อการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์

พระพรหมสุธี (เจ้าคุณเสนาะ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กล่าวว่า คณะทูตวาติกันนำสาสน์แสดงความเสียใจมาแจ้งให้ทางวัดรับทราบว่าทางวาติกัน รู้สึกแสดงความเสียใจอย่างมากกับการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ เพราะที่ผ่านมาครั้งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับวาติกันด้วยดีตลอดมา มีการร่วมมือและช่วยเหลือเรื่องต่างๆ หลายครั้ง ที่สำคัญสมเด็จพระพุฒาจารย์ เคยเดินทางไปเยี่ยมสำนักวาติกันมาด้วย


ข่าว : คมชัดลึก

22 สิงหาคม 2556

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ