เสนอ > พระพรหมคุณาภรณ์ เป็น > สมเด็จพระพุฒาจารย์ ?
เสนอ > พระพรหมคุณาภรณ์
เป็น > สมเด็จพระพุฒาจารย์
งานนอกระบบของ ส.ศิวลักษณ์
ดังสนั่นโลกออนไลน์ เมื่อปัญญาชนนอกระบบ "ส.ศิวลักษณ์" เขียนบทความออนไลน์ลงในเฟสบุ๊ค เสนอให้มหาเถรสมาคมลงมติเลือก "พระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.9" เพื่อทรงโปรดสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะในราชทินนาม "สมเด็จพระพุฒาจารย์" แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อุปเสณมหาเถร) ที่มรณภาพลงไป
โถ..อาจารย์ก็ฝันเฟื่องไปได้ สมัยนี้หมดยุคตาอยู่แล้ว เขาพิจารณาเฉพาะ"พรรคพวก" ในวงมหาเถรสมาคมเท่านั้น ไปดูประวัติการตั้งเจ้าคณะภาคหนึ่งซี แล้วจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาไม่เสนอ "ธัมมชโย" เป็นสังฆราช ก็บุญโขแล้วนะ จะบอกให้ อิอิ !
ความฝันอันสูงสุดของ ส.ศิวลักษณ์
สมเด็จพระพุฒาจารย์องค์ใหม่
โดย ส.ศิวลักษณ์
การที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศ ถึงแก่มรณภาพลงครั้งนี้ พระมหาเถระโดยเฉพาะก็ในชั้นหิรั ณยบัตร แม้จะแสดงความเศร้าโศกเสียใจออก มา ก็เป็นแต่อากัปกิริยาภายนอก ที่พูดตามภาษาชาวบ้าน ก็คือการแสดงความหน้าไหว้หลังหล อก เพราะแท้ที่จริงนั้น หลายท่านพากันวางแผนว่าใครควรได ้รับสมณฐานันดรดังกล่าวแทนพระคุ ณท่านที่เพิ่งสิ้นชีวิตไป จะให้ใครในวงการพระสังฆาธิการระ ดับสูง คิดถึงการพระศาสนา เพื่อแสวงหาพระผู้ทรงคุณงามความ ดีที่มีศีลาจารวัตรอันงดงาม พร้อมไปด้วยวิชาความรู้อันปราชญ ์เปรื่อง มายกย่องเชิดชู เพื่อเป็นพระราชสิริ และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมื อง อย่างสมศักดิ์ศรีกับคณะสงฆ์ หามีไม่
ถ้าที่ว่ามานี้เป็นจริงก็แสดงว่ า การพระศาสนาในกระแสหลักของเราถึ งซึ่งความเสื่อมอย่างยากที่จะเย ียวยาได้เสียแล้ว เพราะตามราชประเพณีที่สืบทอดมาแ ต่ไหนแต่ไร พระราชาซึ่งเป็นองค์เอกอัครศาสน ูปถัมภก ย่อมทรงยกย่องเชิดชูพระมหาเถระผ ู้ทรงไว้ซึ่งศีลาจารวัตร และสติปัญญาอย่างมีความเป็นเลิศ ในทางธรรม เพื่อเป็นศรีแก่พระนคร และเป็นการทำนุบำรุงพระศาสนา โดยท่านที่รับอาราธนารับสมณศักด ิ์ดังกล่าว ก็ยอมรับเพื่อเห็นแก่พระศาสนาแล ะพระราชา ตลอดจนเพื่อหิตานุหิตประโชน์แก่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย อย่างไม่ติดไปกับยศช้างขุนนางพร ะนั้นๆ กันเอาเลย
สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เมื่อยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระสาส นโสภณอยู่นั้น ทรงปฏิเสธที่จะได้รับเป็นสมเด็จ พระมหาวีรวงศ์ และสมเด็จพระวันรัต เป็นลำดับๆมา จนพระเจ้าอยู่หัวต้องทรงขอร้องใ ห้รับเป็นสมเด็จพระญาณสังวร ด้วยการนำเอาราชทินนามเดิมของสม เด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน วัดราชสิทธาราม มาใช้ขึ้นใหม่ โดยขยายตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะ จากเดิมออกไปอีก 2 รูป หมายความว่าฝ่ายมหานิกาย ก็เพิ่มตำแหน่งสมเด็จพระธีรญาณม ุนี วัดจักรวรรดิ ขึ้นด้วยดังนี้ เป็นต้น
อนึ่ง สมเด็จพระอุปัชฌาย์ขององค์พระสั งฆบิดรในเวลานี้ เมื่อเป็นพระญาณวราภรณ์ ตำแหน่งเจ้าคณะรองอยู่นั้น พระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 7 โปรดให้ถามว่า จะทรงเลื่อนท่านเป็นสมเด็จพระรา ชาคณะ พระคุณท่านทูลว่าไม่สมัครใจ จนต้องทรงอ้อนวอน จึงรับเป็นสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ดังสมเด็จพระญาณสังวร วัดราชสิทธาราม ก็ไม่ทรงรับเป็นสกลมหาสังฆปริณา ยก จนพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปขอร้องด ้วยพระองค์เอง จึงทรงรับเพื่อสนองพระราชศรัทธา
สังฆประเพณีเป็นเช่นนี้ตลอดมาแต ่ไหนแต่ไร เพิ่งมาปลาสนาการไปเมื่อเร็วๆ นี ้เอง
บัดนี้ พระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร จะพระราชทานพระราชกระแสมาให้มหา เถรสมาคมหรือรัฐบาลพิจารณาย่อมไ ม่อาจเป็นไปได้ รัฐบาลเองก็ขาดคุณสมบัติหรือควา มรอบรู้ในทางที่จะมีความกล้าหาญ เข้าไปเสนอความเห็นถวายกรรมการม หาเถรสมาคม ซึ่งส่วนใหญ่ก็คิดได้แต่ในทางที ่เป็นประโยชน์ของตนและพวกตนเสีย นั้นแล ยิ่งกว่าอะไรอื่น หาไม่ก็นิ่งเสียเป็นตำลึงทอง โดยอ้างว่าวางอุเบกขาเอาเสียเลย ด้วยซ้ำ
ถ้าจะถวายสมณศักดิ์สมเด็จพระราช าคณะที่ว่างลงคราวนี้ ผู้ที่สมควรที่สุดที่อยู่นอกแวด วงของพระมหาเถระที่ทิ้งลาภยศสรร เสริญออกไป และมีคุณงามความดีทั้งศีลาธิคุณ และคุณวิเศษทางพระปริยัติธรรมอย ่างที่นานาชาติยกย่องไปจนทั่วโล กแล้วไซร้ ก็เห็นมีแต่พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เพียงองค์เดียว ดังที่เจ้าคุณสมเด็จที่เพิ่งมรณ ภาพไปถึงกับเสนอราชทินนามเดิมขอ งพระคุณท่าน เมื่อเป็นเจ้าคณะรอง ให้เจ้าคุณประยุทธ์ได้รับสมณฐาน ันดรในนามนั้น โดยที่ท่านรูปนี้ได้เป็นรองเลขา ธิการมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย มาแต่สมัยยังไม่ได้เป็นพระราชาค ณะ และสมเด็จเกี่ยวเป็นเลขาธิการสถ าบันการศึกษาแห่งนั้น คือเจ้าคุณสมเด็จแลเห็นคุณงามคว ามสามารถของพระคุณเจ้ารูปนี้มาแ ต่แรก และพระคุณท่านก็แสดงความสามารถอ ย่างอาจหาญในทางพระธรรมวินัยยิ่ งๆขึ้นตลอดมา จนเริ่มชราภาพแล้ว แม้สุขภาพอนามัยจะไม่เอื้ออำนวย เอาเลยก็ตาม
แท้ที่จริง ถ้าสมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงพระปร ะชวร และทรงบัญชาการพระศาสนาได้ ย่อมต้องเสนอให้พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์แท้ท ีเดียว เพราะเจ้าพระคุณสมเด็จทรงยกย่อง พระเถระรูปนี้ตลอดมา ทรงถือว่าพระคุณท่านเป็นเพชรเม็ ดเอกของพระศาสนาเอาเลยทีเดียว
โดยที่สมเด็จพระราชาคณะองค์ใหม่ จะได้ดำรงตำแหน่ง ในปีที่สมเด็จพ ระสังฆบิดรจะมีพระชนม์ครบศตวรรษ อันเป็นมหามงคลพิเศษ และปยุตฺโตภิกขุรูปนี้ นอกจากจะเป็นสามเณรเปรียญ 9 ประโยครูปที่สองของรัชกาลปัจจุบ ันแล้ว ยังเป็นสามเณรเปรียญรุ่นแรกๆที่ ทรงพระกรุณารับไว้เป็นนาคหลวงแล ะเสด็จพระราชดำเนินไปในงานอุปสม บทพระคุณท่าน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วพระคุณท่านครองพรหมจรรย์ตลอ ดมาจนปัจจุบัน ในขณะที่สามเณรเปรียญ 9 ประโยคที่เป็นนาคหลวงก่อนและหลั งพระคุณท่านพากันสึกหาลาเพศไปตา มๆกัน ที่ทรงสมณฐานันดรอยู่ บางรูปก็เป็นอลัชชีไปแล้ว การตั้งพระคุณท่านให้เป็นสมเด็จ พระราชาคณะนั้น พระคุณท่านไม่ได้ยินดียินร้ายอะ ไรๆกับโลกธรรม หากการสถาปนาพระคุณเจ้าขึ้นในสม ณฐานันดรดังกล่าว จะเป็นพระราชสิริ เป็นการเพิ่มพูนพระบรมราชกฤษฎาภ ินิหารให้แผ่ไพศาล อย่างน้อยก็เป็นการลดรัศมีแห่งอ ลัชชีในวงการคณะสงฆ์ โดยเฉพาะก็ในทางที่ปรากฎว่ามีกา รติดสินบนกันอย่างหนาตากับการเล ื่อนสมณศักดิ์ต่างๆอย่างไม่เป็น มงคลเอาเลย
เราเอามงคลมาลบอัปมงคล เอาความดีมาชนะความชั่วกันบ้าง ในโอกาสเช่นนี้ จะไม่ดีหรือ หรือมหาเถรสมาคมรับข้อเสนอเช่นน ี้ไม่ได้เสียแล้ว ถ้าเช่นนี้ก็หมดหวังเสียแล้วกับ การที่จะทำให้หายนะเป็นวัฒนะ
ที่มา : เฟสบุ๊ค ส.ศิวลักษณ์
19 สิงหาคม 2556
เตรียมตั้ง "ปฏิบัติหน้าที่สังฆราช" องค์ใหม่
มหาเถรนัดประชุมใหญ่ที่พุทธมณฑล
20 สิงหาคม ศกนี้
ดีเดย์ !
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ
อาวุโสสูงสุดในบรรดาสมเด็จพระราชาคณะ จะนั่งเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม นัดประวัติศาสตร์ หลังจากมหาเถรสมาคมได้ประชุมและลงมติ ให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 หรือ 9 ปีที่ผ่านมา เวลานี้ เหลือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นผู้อาวุโสสูงสุดในมหาเถรสมาคม ก็คงต้องขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเต็มตัว ทั้งๆ ที่ ผ่านมาเป็นปีแล้ว ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์อาพาธ และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้รับภาระออกปฏิบัติหน้าที่แทนมาโดยตลอด วันที่ 20 นี้ จึงถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของวัดปากน้ำ คงจะมีการต้อนรับอย่างคึกคักของพระภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกาชาววัดปากน้ำ และนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถนนสายศาสนาทุกสายในประเทศไทยจะมุ่งตรงเข้าสู่วัดปากน้ำ
26 สิงหาคม 56
ถนนทุกสายมุ่งสู่วัดปากน้ำ
หลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดประวัติศาสตร์ "ตั้งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช" ไปได้เพียง 5 วัน ตกวันที่ 26 สิงหาคม ก็จะมีงานใหญ่ระดับประเทศขึ้นที่วัดปากน้ำ นั่นคือ งานอายุวัฒนมงคล (วันเกิด) ครบรอบ 88 ปี ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รูปใหม่ ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในคณะสงฆ์ไทยสมัยปัจจุบัน
งานนี้ ทีแรก ทางวัดปากน้ำคงจะจัดเป็นประเพณีเหมือนปีก่อนๆ แต่พอตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาหาฯ ก็เลยกลายเป็นว่า"จัดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว" เพราะแขกเหรื่อทั้งทางคณะสงฆ์และราชการบ้านเมือง พ่อค้าประชาชน จะแห่ไปร่วมงานกันโดยมิได้นัดหมาย หมายถึงว่า งานนี้ถึงไม่นิมนต์-ไม่เชิญ ก็จะไปแสดงความดีใจ ถวายมุทิตาสักการะ
ดังนั้น จึงขอเตือนบรรดาทีมงานเลขานุการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ และพระสงฆ์วัดปากน้ำเอาไว้ด้วยว่า กรุณาประชุมเตรียมงานรอบใหม่ให้ดี อย่าให้มีอะไรขาดตกบกพร่อง ของชำร่วยที่เคยสั่งแค่ 100,000 ชุด ก็ต้องเพิ่มเป็น1,000,000 ชุด และต้องเพิ่มทีมงานขึ้นอีกอย่างน้อยสองเท่า เพราะแขกจะมาจนรับไม่ไหวจริงๆ ลำพังท่านเจ้าคุณประชันนั้นรับรองว่า แค่รับดอกไม้ในตำแหน่ง"เลขาธิการประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช" ก็แทบลมจับแล้ว
งานใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวัดปากน้ำมาถึงแล้ว อย่าให้เสียบรรยากาศอันเป็นสิริมงคล มีอะไรก็ต้องทุ่มเทให้ยิ่งกว่างาน "เทย่ามช่วยน้ำท่วม" เลยละทีนี้ว่าแต่จะแจกพระวัดปากน้ำรุ่นไหนครับ อิอิ !
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดสะเกศราชวรมหาวิหาร ในช่วง 14.30 น. วันที่ 18 สิงหาคม ยังคงมีประชาชนทั่วทั้งสารทิศ และศิษยานุศิษย์มาเคารพสักการะศพอยู่โดยตลอด
ขณะที่บริเวณรอบนอกตำหนักมีคณะศิษยานุศิษย์ได้นำเอาอาหารและเครื่องดื่มมาบริการให้ประชาชนทั่วไปที่มาสักการะศพสมเด็จพระพุฒาจารย์
ด้านพระพรมหสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า กระบวนการตั้งตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชแทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ที่ว่างลงนั้นจากการมรณภาพ จะมีการประชุมกันในวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 14.00 น. ที่พุทธมณฑล ส่วนจะมีสมเด็จองค์ไหนจะมาแทนที่นั้นจะต้องรอการประชุมก่อน และจะต้องเป็นไปตามสมณศักดิ์
"อยู่ที่ดุลยพินิจของคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ว่าท่านจะเลือกท่านใดมาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ว่าในวันที่20 สิงหาคม นี้ ทางผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่วาระที่ประชุม เพื่อให้ทางมหาเถรสมาคมรับทราบ ต่อไป" พระพรหมสุธีกล่าว และว่า หลังจากพ้นพระบรมราชานุเคราะห์ ในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพแล้ว นับจากวันที่ 19 สิงหาคม จนไปถึง ครบรอบ 100 วัน มีประชาชนได้ติดต่อจองเป็นเจ้าภาพงานหมดแล้ว หากมีผู้ใดประสงค์เป็นเจ้าภาพคงต้องเป็นเจ้าภาพร่วมแทน. นอกจากนั้นพิธีสวดอภิธรรมนี้จะคงมีในช่วงเวลา 19.00 น. ทุกวันไปจนถึงครบ 100 วัน. แต่ว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบ้างถ้ามีทางเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดประสานมากำหนดการสวดพระอภิธรรมจะเริ่มที่เวลา 14.00 น.
พระราชปัญญาโสภณ (สุรชัย สุรชโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสะเกศ กล่าวว่า กำหนดการสวดบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม สมเด็จพระพุฒาจารย์ ในค่ำวันที่ 18 สิงหาคม นี้ ยังคงอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกหนึ่งวัน
ข่าว : มติชน
19 สิงหาคม 2556
หมายเหตุ ตามกฎแห่งกรรม ถ้าบารมีไม่ถึง หรือ บ้างองค์ ได้ปราชิกไปแล้ว พอขึ้นมาจะต้องมีอันเป็นไป ขอให้ชาวไทยได้ศึกษา ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ