เกมเริ่มพลิก ! สุนันทา-ดอกบัวคู่ โผล่ดีเอสไอ ให้การว่าถูกเณรคำหลอก ?
เกมเริ่มพลิก !
สุนันทา-ดอกบัวคู่ โผล่ดีเอสไอ
ให้การว่าถูกเณรคำหลอก ?
ใครหลอกใคร ??
เณรคำหลอก-หลอกเณรคำ หรือต่างคนต่างหลอก
หรือถึงเขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก
อย่าลืมสิฮะ ว่าตอนเณรคำดังนั้น ยาสีฟันยี่ห้อไหนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะว่าเป็นยี่ห้อที่พระอรหันต์ใช้ประจำ
นางสุนันทา ลีเลิศพันธุ์
เจ้าของกิจการยาสีฟันตราดอกบัวคู่
รางวัลกินรีนี้ ท่านได้แต่ใดมา ?
ถ้ามิใช่การทำบุญผ่านอรหันต์กำมะลอ
รถยนต์ทุกคันถวายในนาม "ดอกบัวคู่"
เจ๊ดอกบัวคู่ย่องให้การดีเอสไอคดีเณรคำ
“เจ๊ดอกบัวคู่” ย่องให้การดีเอสไอ แจงบริจาคเงินสด-ทองคำให้อดีตเณรคำรวมกว่า 15 ล้านบาท "ธาริต" ว้ากอดีตพระฉาวประวิงเวลามอบตัว ฮึ่มจะเริ่มไล่ล่าแล้ว
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีนายวิรพล สุขผล หรือพระวิรพล ฉัตติโก(หลวงปู่เณรคำ) ว่า ในวันนี้ นางสุนันทา ลีเลิศพันธุ์ ผู้บริหารบริษัทดอกบัวคู่ จำกัด ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและให้การในฐานะผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นยอมรับได้บริจาคเงินสดและทองคำรวมกว่า 15 ล้านบาทให้อดีตเณรคำตามที่อดีตเณรคำชักชวนเพราะเชื่อในสิ่งที่อวดอ้างไว้
อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์ของอดีตเณรคำและทนายความที่ทำหน้าที่ประสานงานการเข้ามอบตัวของอดีตเณรคำ ซึ่งมีการขอประกันตัว และดีเอสไอยืนยันจะให้ประกันตามหลักทรัพย์ที่เหมาะสมพร้อมเงื่อนไขประกันตัว แต่ล่าสุดมีการขอเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด และมีการแถลงขอเลื่อนอีก จึงเห็นว่าเข้าข่ายประวิงคดี ดังนั้น ตนจะไม่ให้ความสำคัญในการมอบตัวของอดีตเณรคำอีกต่อไป แต่จะเน้นติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายธาริต กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอยังคงติดตามเส้นทางของทองคำที่ได้รับบริจาคว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนไปอยู่ที่ใด
ข่าว : เดลินิวส์
15 สิงหาคม 2556
Time Over !
เลย 13 สิงหา เณรคำหมดเวลาอุทธรณ์แล้ว
แสดงว่ายอมรับคำพิพากษาศาลสงฆ์อุบล-ศรีสะเกษ
นับแต่นี้ไม่มีสิทธิ์ครองผ้าเหลือง
สำนักพุทธฯชี้ ถ้าพบห่มเหลืองที่ไหนก็แจ้งจับทันที
สิ้นสภาพ
วันนี้ (14 ส.ค.) นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ครบกำหนด 30 วันที่นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์ที่พักสงฆ์ขันติธรรม หรือวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าคณะปกครองกรณีออกคำสั่งให้สึกและขับออกจากสังกัดได้ ซึ่งเมื่อเปิดโอกาสใให้อดีตพระวิรพลยื่นอุทธรณ์แล้วแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมมา จึงถือว่าขณะนี้ได้สิ้นสุดกระบวนการแล้ว หลังจากนี้หากใครพบเห็นนายวิรพลที่ยังนุ่งห่มจีวรอยู่ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ได้ทันที ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาก็มีข่าวออกมาเป็นระยะโดยอ้างว่าเป็นทนายของอดีตพระวิรพลอ้างว่าจะเข้ามอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่จนถึงขณะนี้ก็ทราบว่ายังไม่มีการเข้ามามอบตัวแต่อย่างใด
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ฐานความผิดหรือว่าสิ่งที่จะสามารถดำเนินการกับผู้ที่แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ได้นั้น ได้แก่ การแจ้งให้เจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหลอกหลวงประชาชน รวมถึงอาจจะมีความผิดถึงขั้นฉ้อโกงประชาชนด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญา ส่วนความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบวัดสาขาของวัดป่าขันติธรรมนั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากมีสาขาในจังหวัดต่างๆ จำนวนมาก จึงต้องตรวจสอบในเชิงลึกว่าใครเป็นผู้ขออนุญาตสร้างและพระสงฆ์จากวัดใดบ้างที่จำวัดอยู่ แต่คาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าว
ข่าว : เดลินิวส์
15 สิงหาคม 2556
http://www.alittlebuddha.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ