ชาวพุทธทั่วโลกรู้พฤติกรรมมหาเถร?
ศึกษาข้อมูลสมเด็จที่ช่วยธัมชัยโย ผู้ปราชิกที่
http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2013/07/blog-post_15.html?m=1
http://www.alittlebuddha.com
THE MASK !
เปิดหน้ากาก "พระผู้ใหญ่" ของป๋าเหนาะ
"สมเด็จพระพุทธชินวงศ์"
"พระผู้ใหญ่" ที่เจ้าคุณเสนาะระบุว่าได้เข้าไปชี้แจงถึงในกุฏิ (ส่วนตั๊วส่วนตัว) และได้แนะนำว่า ขอให้นิ่งและอดทน ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ไม่ต้องสอบพระพรหมสุธี พอสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้รับการร้องเรียนโดยตรง ก็ตั้งสมเด็จพระพุทธชินวงศ์เป็นประธานสอบคงรู้กันทั่วว่า หวยล็อกจะออกเบอร์ไหนแมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันฉันใด เรา-ชาวอยุธยาก็ย่อมไม่ฆ่าชาวอยุธยา ฉันนั้น
"ทีมเดียวกัน"
พระพรหมสุธี รับบัญชา สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชัยญาติ เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจในสหรัฐอเมริกาเป็นรอบที่ 2 ในรอบ 2 เดือน เป็นประธานวางศิลาฤกษ์เปิด วัดหทัยนเรศว์ เมืองเวย์ครอส รัฐจอเจียร์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2557 กลางพรรษาที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ พระพรหมสุธีเดินทางมาสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน 2557
ครั้นกลับถึงประเทศไทยแล้ว วันที่ 24 สิงหาคม พระพรหมสุธีก็ดำเนินการล้างบางพระระดับรองสมเด็จภายในวัดสระเกศ จนถูกขึ้นเฟสบุ๊คต่อต้านฉาวโฉ่ไปทั่วโลก โดยในวันที่ 28 สิงหาคม พระพรหมสุธีได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า "ได้เข้าชี้แจงต่อพระผู้ใหญ่แล้ว" โดยมิได้ระบุชื่อพระผู้ใหญ่รูปนั้น
วันนี้ พระพรหมสุธีได้เผยชื่อพระผู้ใหญ่ที่ให้กำลังใจแล้ว ชื่อว่าสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชัยญาติ ซึ่งเป็นชาวอยุธยาด้วยกัน แถมยังเป็นทีมเดียวกัน ใช้งานพระพรหมสุธีให้มาเปิดวัดใหม่ในสหรัฐอเมริกากลางพรรษา ก่อนจะกลับไปเช็คบิลเจ้าคุณธงชัย หน้าไมค์-หลังไมค์ ย่อมมีความแตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ดังนั้น ก็ขอรับรองว่า เจ้าคุณเสนาะต้องได้รับความเป็นธรรมจากสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ พันเปอร์เซ็น ไม่เชื่อห้ามลบหลู่ !
เข้าใจตรงกันนะ
"อาตมาได้เข้าพบ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพูดคุยถึงข่าวที่เกิดขึ้น ท่านบอกให้ใช้ขันติ สงบ เท่านั้น"
พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร)
เจ้าอาวาสวัดสระเกศ
12 กันยายน 2557
อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
13 กันยายน 2557
ปรับเสียงผ่านสื่อ !
เจ้าคุณเหนาะตอบคำถามมติชน
อ้อนขอโอกาสพระพรหมสิทธิ
"เหมือนพี่เหมือนน้อง อยู่กันมานาน"
แหมจะเอาเขาเข้าคุกเข้าตะรางเนี่ยนะ พี่ๆ น้องๆ
พี่อยู่ภูเขาทอง น้องอยู่คุกละสิไม่ว่า
อาฮ่า ! ใครฟังเสี่ยเหนาะสัมภาษณ์คงอายปากแทน
ไปตอบดีเอสไอไม่ดีกว่าหรือท่านเหนาะ
เรื่องจะได้จบ !
เจ้าคุณเสนาะ
ปุจฉา-วิสัชนา พระพรหมสุธีกับข้อครหา ′รวยนับพันล้าน′
เห็นชื่อเพจเฟซบุ๊ก "ตีแผ่ความจริง คนไร้คุณธรรม ไร้ความเป็นผู้นำ" ที่ถูกนำเสนอนานนับเดือนนับตั้งแต่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ใครจะคิดว่ามีที่มาจากความขัดแย้งในวัด!!!
โดยแต่ละโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าวมักกล่าวถึง "เฮียเหนาะ" กับทรัพย์สินมหาศาล
แน่นอนว่าไม่ใช่วัดเล็กๆ แต่เป็น วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งเจ้าอาวาสพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) เจ้าคณะภาค 12 และ กรรมการ มส.ถูกโจมตีว่าร่ำรวยผิดปกติ ในเฟซบุ๊ก ระบุว่าเจ้าอาวาสมีทรัพย์สินมูลค่านับพันล้าน อาทิ รถหรูไม่ต่ำกว่า 20 คัน, ธุรกิจสวนกล้วยไม้ 300 ไร่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน รีสอร์ตหรูหลายหลัง, ธุรกิจเพาะพันธุ์ไก่ชน, เพาะพันธุ์ปลากัด, ธุรกิจบ้านจัดสรร มูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท รวมทั้งมีผู้หญิงเข้าออกวัดยามวิกาล
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ พระพรหมสุธี ปลด พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ออกจากหน้าที่ดูแลบริหารจัดการเงินบริจาคในส่วนพื้นที่ภูเขาทอง และข้อกล่าวหาว่าทุจริตเงินค่าใช้จ่ายในพิธีพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จำนวน 67,550,000 บาท
ข้อกล่าวหาข้างต้น สร้างแรงสั่นสะเทือนแก่วงการสงฆ์ไม่น้อย
หลังจากทราบว่ามีหน้าเพจเฟซบุ๊ก "ตีแผ่ความจริง คนไร้คุณธรรม ไร้ความเป็นผู้นำ"
อาตมาได้เข้าพบ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพูดคุยถึงข่าวที่เกิดขึ้น ท่านบอกให้ใช้ขันติ สงบ เท่านั้น
เรื่องเงินไม่มีปัญหา สามารถยืนยันได้ว่าทุกบาททุกสตางค์มีที่มา อย่างรถยนต์มีญาติโยมนำมาถวาย เรื่องผู้หญิงไม่มีการกระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา สวนกล้วยไม้เป็นของพี่น้องญาติ ไก่ชนมีไม่กี่ตัวซึ่งญาติโยมนำมาถวาย รีสอร์ตก็ไม่รู้ว่าถ่ายภาพจากไหน
ไม่มีหรอกเงินหลักพันล้าน เพราะไม่มีอาชีพอะไร ปัจจัยที่มีมาจากกิจนิมนต์ นั่นคือเงินส่วนตัวที่ได้มา แม้แต่เงินวัดก็ตรวจสอบได้ ที่เคยพูดว่า "ถ้าอาตมามี 1,000 ล้านบาท อาตมาก็ไม่อยู่ สึกไปแล้ว" เพื่อสื่อว่าถ้ามีจริงๆ จะอยู่วัดทำไม ไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น
บริหารวัดอย่างไร หลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อ 22 ธันวาคม 2556
ดูว่าสิ่งใดควรปรับปรุง เช่น ภูเขาทองจะเปลี่ยนแปลงในภาพรวม เปลี่ยนคนดูแลและการบริหารจัดการต่างๆ
ส่วนเรื่องรายได้ของวัดส่วนใหญ่มาจากเงินบริจาคตามจุดต่างๆในวัดที่เปิดให้ทำบุญ เช่น พระวิหาร พระวิหารหลวงพ่อโต พระวิหารหลวงพ่อดำ เงินส่วนนี้นำมาบำรุงวัด เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างคนงาน ซึ่งรายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่ว่าตรงกับช่วงใด เช่น เดือนนี้ได้ 150,000 บาท เดือนหน้าอาจได้ 170,000 บาท และบางเดือนอาจน้อยกว่านี้
จุดที่มีผู้บริจาคมากที่สุดคือ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) คนไทยมาไหว้ภูเขาทองและทำบุญบำรุงวัด มาไหว้พระธาตุ ฝรั่งก็มาเที่ยว หลวงพ่อสมเด็จ (สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ท่านอยากให้เงินบริจาคบริสุทธิ์จริงๆ ไม่นิยมให้มีการขายวัตถุมงคลหรืออะไรต่างๆ
ก่อนหน้านี้ ที่วัดสระเกศฯ มีเปิดให้เช่าวัตถุมงคลบนพระบรมบรรพต ปัจจุบันไม่มีให้เช่าแล้ว หยุดจำหน่ายเพราะเป็นประสงค์ของหลวงพ่อสมเด็จ
เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรฯในช่วงที่มีข่าวทุจริตเงินวัด?
อย่างช่วงที่ไปอยู่วัดโสธรฯ 4-5 ปี ตอนนั้นไม่มีใครเป็นเจ้าอาวาส คณะสงฆ์จึงให้ไปรักษาการที่นั่นและดูแลวัดในเรื่องทั่วไปมาเรื่อยๆ เพราะเขาทำดีอยู่แล้ว เราไปสานต่อเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรใหม่
ที่วัดโสธรฯ วัตถุมงคลเป็นของวัดทั้งหมด การจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ของวัดซึ่งทุกอย่างมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะชาวพุทธทั่วไปต้องการเช่าพระ ถ้าวัดทั่วไปต้องการไว้บูชาก็ไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสีย คนที่เช่าพระส่วนใหญ่คือคนที่มีเหลือ แล้วเช่าพระเพื่อความเคารพศรัทธา
ในมุมมองของบางคนคิดว่าทำไมพระต้องให้เช่าพระ อาตมาคิดว่าน่าจะดีหากทุกบ้านในประเทศไทยมีพระพุทธรูปไปตั้งอยู่ แต่ถ้าให้วัดทำแจกก็ไม่รู้เอาเงินจากไหน
สำหรับการย้ายพระ 7 รูป เป็นการบริหารจัดการดูแลสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสหลายรูปได้มีงานทำ
ระหว่างจำพรรษาที่วัดสระเกศฯ นอกจากทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรฯแล้ว มีหน้าที่ใดอีก
เป็นเจ้าคณะภาค 12 ดูแลในระดับ 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เหมือนการปกครองทั่วไป พระก็มีระดับต้น คือ เจ้าอาวาส สูงขึ้นมาก็เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะภาค สูงขึ้นไปเป็นเจ้าคณะใหญ่ คือ นิสาการปกครอง
เจ้าคณะภาค ดูเรื่องนโยบายของคณะสงฆ์ว่าจังหวัดใดดำเนินการอย่างไร สิ่งไหนที่พลาดก็ต้องทำตามรายละเอียด อันไหนที่ไม่ใช่หน้าที่ภาค จังหวัดก็ดำเนินการ
พบปัญหาเกี่ยวกับการปกครอง
ด้านการปกครองไม่มีอะไร แต่ปัญหาอยู่ที่วัดแต่ละแห่งยังไม่สมบูรณ์ เช่น วัดตามชายแดนยังขาดแคลนบางแห่งไม่มีโบสถ์ ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติเพราะคนพื้นที่นั้นไม่มีกำลังมากพอ ต้องใช้เงินคลังกรุงเทพฯแบบผ้าป่า เพราะวัดแต่ละวัดไม่ได้เงินจากรัฐบาล แต่มาจากศรัทธาของญาติโยม วัดใดคนเคารพเจ้าอาวาส วัดนั้นจะแข็งแรง ญาติโยมบริจาค
อีกปัญหาที่พบคือ ทำอย่างไรให้จำนวนพระเพิ่มขึ้นเพราะปัจจุบันลดลงมาก สงสัยว่าเหตุใดไม่อยากบวช สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือสังคมเปลี่ยนไป จากสังคมเกษตรที่ชาวบ้านใช้เวลาว่างจากไร่นามาบวชนานนับพรรษา 3-4 เดือน หรือคนที่อยากเรียนหนังสือก็ไปบวช แต่ปัจจุบันเป็นสังคมอุตสาหกรรมซึ่งการศึกษาเจริญรุ่งเรือง คนอยากเรียนก็เรียนได้เอง เลยเป็นสาเหตุให้จำนวนพระลดลง บวชแค่ 7-15 วันเท่านั้น
หาทางออกกับวิกฤตขาดแคลนพระอย่างไร
มีแต่พูดกันทั่วไป แต่ยังไม่มีคำตอบ เพราะการบวชขึ้นอยู่กับศรัทธา ถามว่าการบวชดีไหม มันก็ดี แต่เมื่อดีแล้วทำไมคุณไม่บวช
จำนวนพระลดลงทุกปี จึงถือเป็นวิกฤตอย่างหนึ่งเพราะหากไม่มีพระจะทำอย่างไร ตอนนี้ได้แต่ตั้งโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้คนมาบวชและบวชนานๆ สัก 1 พรรษาเพื่อศึกษาธรรมะ บางคนแค่บวชตามประเพณีไม่ได้มุ่งหวังเพื่อศึกษาทางธรรมมาก
จากข่าวที่เกิดขึ้น ต้องมีคนอารักขา
มีตำรวจมาอารักขาแค่ 1 นาย ไม่ได้มี 3 คนอย่างที่เป็นข่าว อาตมาเองทำหน้าที่ปกติ ไม่ได้ท้ออะไร
ปัญหาเกิดจากความไม่เข้าใจในระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งอาตมาคุยได้อยู่แล้ว เหมือนพี่น้องกันเพราะอยู่มานาน
ที่วัดมีพระสงฆ์ 185 รูป ทั้งหมด 17 คณะ แต่ละคณะมากบ้างน้อยบ้างสลับกันไป ถือเป็น 1 ใน 5 ของวัดในกรุงเทพฯที่มีพระเกือบ 200 รูป ที่วัดมีการพูดคุยกันตามปกติตอนทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และสวดปาติโมกข์ทุกกึ่งเดือน มีขาดบ้างบางองค์แต่ส่วนใหญ่มาปกติ แต่ไม่ได้คุยอะไรมาก ต่างคนต่างทำกิจของแต่ละรูป
หลวงพ่อสมเด็จอยากให้ทำอะไรบ้าง
หลวงพ่อสมเด็จท่านไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ เพราะทุกอย่างท่านทำดีอยู่แล้วท่านเคยพูดว่า ถ้ามีโอกาสจะทำเรื่องกรรมฐานเสริมขึ้นมา แต่ไม่ได้บอกจริงจังเท่าไหร่
จากรายได้ของวัด นอกจากใช้ในการบริหารทั่วไปแล้วใช้ด้านใดอีก
มีการบริหาร การปกครอง การเผยแผ่ การศึกษาคุณูปการ เราก็ทำกันไป มีการเรียนการสอนนักธรรมบาลีที่เราเน้นมากหน่อย รับภิกษุ สามเณรเข้ามาเรียนมากๆ เป็นด้านการศึกษาที่เจ้าอาวาสต้องดำเนินการ เพราะเราต้องการให้วัดสระเกศมีการเรียนการสอนนักธรรมบาลีไม่ให้ขาดสาย ตอนนี้ถ้าเราไม่รับพระเณรมาก็ไม่รู้จะสอนใคร จึงมีโครงการขึ้นมาให้เด็กเล็กๆ ที่จบ ป.6 ซึ่งเขาหมดโอกาสจากการศึกษาภาคบังคับ ให้เข้ามาบวชเรียน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ