เชือกสองชั้นมัดคอเจ้าคุณเสนาะ หลุดยากส์ !

เงินหลวง+กล้วยไม้ !
เชือกสองชั้นมัดคอเจ้าคุณเสนาะ
หลุดยากส์ !


โฟกัสประเด็นหลักคดีของเจ้าคุณเสนาะวัดสระเกศเวลานี้ ยังคงอยู่ที่ "เงินหลวง" กับ "กล้วยไม้"
1. เงินหลวง จำนวน 67.55 ล้านบาท ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อนุมัติถวายวัดสระเกศ เพื่อจัดงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่า อาจจะมีการยักย้ายถ่ายเทออกนอกบัญชีไปเข้าบัญชีใครไม่รู้ รู้แต่ว่าเจ้าอาวาสวัดสระเกศองค์ใหม่ต้องรับผิดชอบหากเกิดรั่วไหล
2. กล้วยไม้ที่ใช้บูชาหลวงพ่อโสธรเพียงชนิดเดียว โดยมีกระแสข่าวระบุว่า ก่อนหน้านั้น ทางวัดโสธรใช้ดอกบัว (โดยไม่จำกัดแหล่ง) มาเป็นหลักในการบูชาหลวงพ่อโสธร แต่ครั้นเจ้าคุณเสนาะเข้ามารักษาการเจ้าอาวาส ก็สั่งเปลี่ยนไปใช้ "กล้วยไม้" แทน แถมยังระบุด้วยว่า กล้วยไม่ทั้งหมดนั้น ลำเลียงไกลจากอยุธยา มีบริษัทชื่อว่า กล้วยไม้ร่มวรีส์ ซึ่งอยู่ไกลถึงพระนครศรีอยุธยา และว่าด้วยว่า สวนกล้วยไม้แห่งนี้เป็นธุรกิจในเครือของเจ้าคุณเสนาะ อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดโสธรนั่นเอง
ทั้งสองประเด็นนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายทั้งสิ้น โกงเงินหลวงนั้นอยู่ไม่ได้แน่นอนแล้ว แต่ถ้ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น ผูกขาดการขายกล้วยไม้จากสวนร่มวรีส์จริง ก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน เพราะถือว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทุจริตคอรัปชั่น อย่างเป็นขบวนการ
ทั้งสองประเด็นนี้ หากศาลสงฆ์ก็ดี ดีเอสไอก็ดี หรือหน่วยงานอื่นๆ สามารถสอบสวนได้ข้อเท็จจริงในเร็ววัน ก็จะทำให้พุทธศาสนิกชนไม่ผิดหวังต่อพระพุทธศาสนาที่รับผิดชอบโดยมหาเถรสมาคมและรัฐบาลไทย

ะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
17 กันยายน 2557


มือกฎหมาย-นักสืบ
คุมสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ !
บิ๊กตู่จัดให้..

อา..ก็ไม่รู้ว่าให้มาช่วยงานมหาเถรสมาคม หรือว่ามาสอบประวัติเจ้าคุณเสนาะกันแน่ เพราะคุณวิษณุเล่นถอยฉากออกไปคุมอยู่นอกขอบสนาม แล้วส่งคุณสุวพันธุ์ซึ่งเป็น "ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ"ชำนาญในการหาข่าวเชิงลึก ลงมาเป็นกองหน้า นั่นแสดงว่า มาทั้งฝ่ายกฎหมายและฝ่ายข่าวกรอง บทบาทของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต่อจากนี้ไป คงจะกลับไปสู่ยุค "พล.ต.อ.อุดม เจริญ" เป็นผู้อำนวยการ เผลอๆ ถ้านายนพรัตน์เกษียนอายุราชการ คุณสุวพันธุ์ก็อาจจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักพุทธฯ อีกเก้าอี้หนึ่ง ซึ่งเราคงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายทีเดียว


ทีมงานศาสนาของบิ๊กตู่
ซ้าย : นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ควบคุมสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ขวา : นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

เคาะแบ่งงานรองนายกฯ-รมต.สำนักนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (16 ก.ย.) มีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 103 /2557 เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 15 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งสุดท้าย โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี และให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแล แทนนายกรัฐมนตรี สำหรับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐ ตามลำดับ ดังต่อไปนี้
1. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (สร.2) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงานสำนักงานตำรวจแห่งชาต สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)
2. หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี (สร.3) มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
3. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี (สร.4) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุขสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)
 4. พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี (สร.5) และรมว.ต่างประเทศ ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)
5. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (สร.6) ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(กพร.) สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
 และนอกจากนี้ นายวิษณุ ยังได้กำกับดูแลและลงนามในเอกสารที่เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1.การขอพระราชทานอภัยโทษ 2.การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย 3.การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน และการดำเนินคดีปกครอง รวมทั้งลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครองกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในการสั่งการตามกฎหมายดังกล่าว และกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในคดีปกครองอื่น 4.การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายและการดำเนินคดีปกครอง รวมทั้งลงนามมอบอำนาจให้พนักงานอัยการดำเนินคดีปกครองกรณีที่มีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในการสั่งการตามกฎหมายดังกล่าว
6. หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แก่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน
7. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แก่ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ 
"ในการปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจตามคำสั่งนี้ ให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวบริหารราชการโดยมุ่งเน้นการดำเนินการ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองให้มีความเข้มแข็งยั่งยืน สนับสนุนการปฏิรูปประเทศ เพื่อออกแบบและวางรากฐานในระยะยาวอันมั่นคง แก่ประเทศ รวมทั้งมุ่งมั่นสร้างความสามัคคี ปรองดอง ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อประโยชน์สุข ของประชาชนชาวไทยทุกคน"
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป

ที่มา : คมชัดลึก
17 กันยายน 2557

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ