พฤติกรรมมหาเถรสมาคม? แชร์ให้ชาวพุทธทราบ
ต่ออายุ !
เสนาะ-สายชล คนอยุธยา
แบบว่าเป็นจนตาย
เพราะไม่มีใครในโลกเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว
เข้าใจตรงกันนะ ไม่ต้องสงสัยต่อไปว่า มหาเถรสมาคมจะสั่งพักงานเจ้าคุณเสนาะ (พระพรหมสุธี) หรือไม่ เพราะนอกจากจะไม่พักงานแล้ว ยังต่ออายุให้อีกนาน ส่วนมหาสายชลนั่นก็รู้กันว่าเด็กฝาก มิใช่แค่ฝากให้เป็นเจ้าคณะภาค 1 เท่านั้น แต่ยังฝากถึง "เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม" และ"สมเด็จพระราชาคณะ" ในอนาคตอีกด้วย เผลอๆ จะฝากให้ถึง "สมเด็จพระสังฆราช" ด้วยซ้ำไป ก็ต้องแสดงความดีใจที่รัฐบาลคณะสงฆ์ไทย มีพระรัฐมนตรี ผู้มีประวัติดีเด่น ไม่เคยด่างพร้อย แถมยังมีบุญมาแต่ชาติก่อน มาบริหาร ทำให้กิจการพระศาสนาก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ถึงขนาดสมเด็จวัดปากน้ำต้องเดินสายแจกป้าย "หมู่บ้านศีล 5" ด้วยตัวเอง ต่ออายุพวกนี้ให้มีอำนาจไปเรื่อยๆ สักวันตำแหน่งสังฆราชต้องเป็นของ "พวกเรา-ชาวอยุธยา"

มส.ไฟเขียวแต่งตั้งเจ้าคณะภาคหนกลาง-ตะวันออก ปฏิบัติหน้าที่แทนชุดเดิมที่จะหมดวาระ 3 ตุลานี้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตามที่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาคจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 3 ต.ค.2557 ดังนั้น ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุม มส. ได้มีมติแต่งตั้งเจ้าคณะภาคในเขตปกครองหนตะวันออก และหนกลาง ดังนี้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตามที่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาคจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 3 ต.ค.2557 ดังนั้น ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุม มส. ได้มีมติแต่งตั้งเจ้าคณะภาคในเขตปกครองหนตะวันออก และหนกลาง ดังนี้
เขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง
พระราชวิสุทธิเวที (สายชล ฐานวุฑฺโฒ) วัดชนะสงคราม เป็นเจ้าคณะภาค 1
พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) วัดประยุรวงศาวาส เป็นเจ้าคณะภาค 2
พระธรรมปริยัติโมลี (อาทร อินฺทปญฺโญ) วัดบพิตรพิมุข เป็นเจ้าคณะภาค 3
พระธรรมเจดีย์ (ประกอบ ธมฺมเสฏโฐ) วัดกัลยาณมิตร เป็นเจ้าคณะภาค 13
พระเทพสุธี (สมควร ปิยสีโล) วัดนิมมานรดี เป็นเจ้าคณะภาค 14
พระธรรมปริยัติเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นเจ้าคณะภาค 15
เขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก
พระเทพมุนี (เก็ง อาสโภ) วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นเจ้าคณะภาค 8
พระเทพเมธี (สมเกียรติ โกวิโท) วัดอรุณราชวราราม เป็นเจ้าคณะภาค 9
พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) วัดสระเกศ เป็นเจ้าคณะภาค 10
พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง อคฺคธมฺโม) วัดระฆังโฆสิตาราม เป็นเจ้าคณะภาค 11
พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) วัดสระเกศ เป็นเจ้าคณะภาค 12
ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.2557 เป็นต้นไป
ที่มา : ผู้จัดการ22 กันยายน 2557
ศุกร์เข้า-เสาร์แทรก !
ศึกภูเขาทองยังไม่สงบ
ศึกหลวงพ่อโสธรปะทุหนัก
บานปลายกลายเป็นไล่เจ้าอาวาส
สงสัยได้ฤกษ์ไปพร้อมกับลูกพี่ที่วัดสระเกศ

ภาพ : แนวหน้า
หลานสมภารปะทะแม่ค้า ตัวเองโดนรุมสกรัมน่วม ฮือขับไล่พระราชมงคลฯ
บรรดาผู้ค้าของฝากวัดโสธรวรารามวรวิหาร เปิดศึกเลือดหลานเจ้าอาวาส ประกาศเสียงตามสาย ไม่พอใจที่นำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงเป็นร้านขายกาแฟสดมาตั้งกีดขวางการจราจร หลานเจ้าอาวาสบุกแย่งไมค์ประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ประกาศ “กูเป็นหลานเจ้าอาวาสทำไมจะขายไม่ได้” ก่อนจะชักปืนจะยิงฝ่ายตรงข้ามแต่ถูกปัดปืน ทำให้กระสุนพลาดไปถูกชาวบ้านนั่งกินกาแฟบาดเจ็บ เลยถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำอ่วม ก่อนรวมตัวขับไล่เจ้าอาวาสหน้ากุฏิ ขณะที่หลานเจ้าอาวาสอ้างตู้คอนเทนเนอร์เป็นที่พัก รปภ.ดูแลความเรียบร้อยในวัดแต่กลุ่มผู้ค้าเข้าใจผิด ทำให้เรื่องบานปลาย
เหตุยิงสนั่นกลางวัดดังเมืองแปดริ้วรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.ท. ชัยหาร พิมพ์จันทร์ พงส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บภายในตลาดค้าขายของฝากหน้าพระอุโบสถหลังเก่าวัดโสธรวรารามวรวิหาร ถนนเทพคุณากร ต.หน้าเมือง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พงส.ผทค. พ.ต.ท.จิระวัสก์ เชื้อจันทร์อัตถ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อาเดียว ท้วมละมูล รอง ผกก.ป. นำกำลังรุดไปสอบสวน
ที่เกิดเหตุในร้านขายกาแฟโบราณ นายยะโสธร สาขา 2 และเป็นที่ตั้งชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ พบโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนนระนาด แก้วกาแฟ และจานแตกกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ยังพบไมโครโฟน 1 ตัว และซองปืนหนังสีดำตกอยู่ 1 อัน ผู้บาดเจ็บ 2 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.พระพุทธโสธร ไปก่อนแล้ว ชื่อนายสมชาย หรืออดุลย์ ดีสวัสดิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 ถนนพระยาศรีสุนทรโวหาร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าหลังเท้าซ้าย 1 นัดกระสุนฝังใน และนายเอกราช ท้วมละมูล อายุ 68 ปี เจ้าของปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 94/2 ม.3 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารุมยำหน้าบวมปูดศีรษะแตก ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืน .38 ซุปเปอร์ ตำรวจสายตรวจประจำตู้ยามวัดโสธรฯยึดไว้ตั้งแต่ตอนเข้าระงับเหตุแล้ว
นายปิยะ ศรีชวนะ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 981 ถนนเทพคุณากรณ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ในฐานะประชาสัมพันธ์ชมรมพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ได้ใช้ร้านกาแฟนี้เป็นศูนย์รวมของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าของวัดโสธรฯมานานแล้ว มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปหมุนเวียนมานั่งกินกาแฟและพูดคุยปรึกษาหารือกันตลอด มีกิจกรรมหรืองานอะไรก็จะประกาศผ่านทางเสียงตามสายให้แก่สมาชิกทราบ ก่อนเกิดเหตุมีพ่อค้าแม่ค้ามานั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องการจัดระเบียบร้านค้า มีการนำตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงมาตั้งบริเวณฝั่งตรงข้ามกับตลาดเพื่อขายกาแฟสดและน้ำดื่ม ไม่เป็นไปตามนโยบายของทางวัดที่ประกาศเอาไว้ เพราะกีดขวางทางเดินรถทำให้พุทธศาสนิกชนที่ไปกราบนมัสการพระพุทธโสธรไม่ได้รับความสะดวก จึงใช้ไมค์ประกาศความเห็นของพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
นายปิยะกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นครู่เดียวนายเอกราชเดินผ่าวงโต๊ะกาแฟเข้าไปหา และประกาศว่า “กูเป็นหลานเจ้าอาวาส ทำไมจะขายไม่ได้”จากนั้นได้ใช้มือกระชากไมค์ที่ตนถืออยู่เกิดการยื้อแย่งกัน ก่อนที่นายเอกราชจะขยับถอยหลังชักปืนออกมาทำท่าจะยิง ตนจึงปัดกระบอกปืนให้พ้นตัวแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนปืนพุ่งไปถูกนายสมชาย ลูกค้าที่มานั่งกินกาแฟบาดเจ็บ จากนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ฮือเข้าแย่งปืนจากนายเอกราช พร้อมรุมยำนายเอกราชอุตลุด พอดีตำรวจตู้ยามโสธรฯ ผ่านมาเข้าระงับเหตุและนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุพ่อค้าแม่ค้าหน้าวัดโสธรฯ ประมาณ 100 คน ไปรวมตัวบริเวณประตูทางเข้ากุฏิพระราชมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมตะโกนขับไล่พระราชมงคลรังษีให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยให้เหตุผลว่าปล่อยให้นายเอกราชที่อ้างว่าเป็นหลาน แสดงตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในวัด มีพฤติกรรมป่าเถื่อน ใช้อาวุธปืนไล่ยิงชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่พระราชมงคลรังษีติดกิจนิมนต์ไม่อยู่ในกุฏิ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแยกย้ายกันกลับไปขายของที่แผงเหมือนตามปกติ
ด้านนายเอกราช ท้วมละมูล กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ตนได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้ดูแลรักษาความสงบ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในลานจอดรถด้านหลังร้านค้า เนื่องจากที่ผ่านมามักจะมีกลุ่มคนชอบไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่พุทธศาสนิกชนที่ไปไหว้หลวงพ่อพุทธโสธร เชิญชวนแกมบังคับให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนของร้านเอกชนถ้าไม่ซื้อก็จะกลั่นแกล้งต่างๆนานา รวมทั้งช่วยสอดส่องกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้ามางัดแงะรถยนต์เพื่อขโมยทรัพย์สินต่างๆ โดยจ้างเจ้าหน้าที่ รปภ. 10 คน มาทำหน้าที่นี้ร่วมกัน
นายเอกราชกล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงประกาศผ่านลำโพงของกลุ่มชมรมพ่อค้าแม่ค้าวัดโสธรฯ ในลักษณะให้ร้ายป้ายสีเจ้าอาวาส ในลักษณะให้ท้ายปล่อยปละละเลย ให้ตนซึ่งเป็นหลานมาดำเนินการในสิ่งที่ขัดต่อระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการตั้งร้านภายในวัด ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตู้ดังกล่าวนำมาตั้งเป็นที่พักของ รปภ. จึงเข้าไปขอให้ยุติการประกาศดังกล่าว แต่ผู้พูดกลับไม่ยอมหยุดจนต้องเข้าไปแย่งไมค์ จากนั้นมีกลุ่มคนฮือจะเข้ามาทำร้าย จนต้องถอยไปตั้งหลักและจะพยายามชักปืนซึ่งเหน็บเอวออกมา แต่ไม่ทันกลุ่มคนนับสิบ ได้ฮือเข้ามาแย่งปืนทำให้ปืนลั่นขึ้น ตนไม่รู้ว่ากระสุนโดนอะไรบ้าง
ด้าน พ.ต.อ.พงษธร พนาสนธิ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ต้องดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในชั้นจับกุมได้ดำเนินคดีนายเอกราช ในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และชักหรือแสดงอาวุธปืนในการวิวาทต่อสู้กัน ซึ่งจะต้องสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ลึกลงไปด้วยว่าเป็นอย่างไร มีเจตนาจะฆ่าหรือไม่ และในส่วนที่นายเอกราชถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วัดโสธรวรารามวรวิหารถือเป็นวัดใหญ่ที่มีประชาชนแวะเวียนไปทำบุญและกราบไหว้ขอพรพระพุทธโสธร พระศักดิ์สิทธิ์สำคัญของไทย ทำให้มียอดเงินบริจาคทำบุญจำนวนมหาศาล รวมทั้งเป็นแหล่งรายได้จากร้านค้าขาย และผลประโยชน์อื่นๆ มากมาย ทำให้การแต่งตั้งเจ้าอาวาสเป็นที่จับตาของพุทธศาสนิกชนเป็นพิเศษ โดยปัญหาการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อปลายปี 2552 มีพระเณรในวัดออกมาประท้วงไม่เอาคนนอกมาดำรงตำแหน่ง เนื่องจากพระพรหมสุธี รักษาการเจ้าอาวาส หมดวาระลงเมื่อครบ 5 ปี กระทั่งวันที่ 10 พ.ย.2552 ที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีมติแต่งตั้งพระราชมงคลรังษี ในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ท่ามกลางมวลชนทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านรวมตัวที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ที่มา : ไทยรัฐ21 กันยายน 2557
หนา+ด้าน !
มาตรฐานกรรมการมหาเถรสมาคม
เผยเสี่ยเหนาะตีหน้าเศร้าเข้าประชุม มส.เฉย
ทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าตัวเองมีมลทิน

เสนาะ ฝังมุข
พระไทยตัวอย่างแห่งปี 57
ปีต่อไปน่าจะได้รับรางวัลผู้นำพุทธโลกจากธรรมกาย
หรือไม่ก็รางวัล "ลูกพี่ดีเด่น" จากน้ำฝนวัดไผ่ล้อม
มหาเถรสมาคมคาดสิ้น ก.ย. ได้ข้อสรุปผลสอบเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กรณีร่ำรวยผิดปกติ
วันนี้ (19ก.ย.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งนี้ พระพรหมสุธี (เสนาะ ปัญญาวชิโร) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม ได้เข้าร่วมการประชุมตามปกติ แม้ว่าสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติของ พระพรหมสุธี เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ทั้งกรณีเรื่องเงินจำนวนกว่า 67 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลถึงความคืบหน้าเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจาก พระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ กล่าวว่า การพิจารณาตรวจสอบกรณีดังกล่าว อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ส่วนกรณีที่ นายบุญทัน ดอกไธสง อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เรียกร้องให้ พระพรหมสุธี หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น พระมหาศาสนมุนี กล่าวว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน พระพรหมสุธีจึงสามารถปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และกรรมการมหาเถรสมาคมได้ตามปกติ
ขณะที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่เป็นประธานสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และเดินทางกลับทันทีที่การประชุมมหาเถรสมาคมเสร็จสิ้น
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะสงฆ์ ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว อาทิ กรณีการตรวจสอบเรื่องบัญชีค่าใช้จ่ายภายในวัดและกรณีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ของพระพรหมสุธี จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
สำหรับการประชุมของกรรมการมหาเถรสมาคมครั้งนี้ เป็นวาระเรื่องผู้นำศาสนา เพื่อสันติภาพในประชาคมอาเซียนครั้งที่ 1 และวาระทั่วไป ไม่มีการบรรจุวาระเรื่องการตรวจสอบการทุจริตของ พระพรหมสุธี ตามที่ถูกร้องเรียน
ที่มา : สำนักข่าวทีเอ็นเอ็น20 กันยายน 2557
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ