อนุสรณ์มหาจุฬาฯ ครบรอบ 9 ปี
อนุสรณ์มหาจุฬาฯ ครบรอบ 9 ปี
|
"เจ้าอาวาสค้ายาบ้า"
ข่าวดีกลางพรรษาของสาธุชน !
เฮ้อ เวรกรรมอะไรกันหนอ เป็นถึงเจ้าอาวาส แต่พฤติกรรมเลวระยำเหมือนสัตว์นรก กินข้าวชาวบ้านทุกวัน แต่ฆ่าคนไม่เว้นวันเช่นกัน มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อเหลือเกิน ว่าแต่เจ้าคณะผู้ปกครองไม่เคยตรวจสอบกันบ้างเลยหรือไร ทำไมปล่อยปละละเลยกันขนาดนี้ มันน่าจะมีใครรับผิดชอบมั่ง !
จับเจ้าอาวาสค้ายาบ้า
ตำรวจหนองคาย จับสาวใหญ่ค้ายาบ้า ก่อนขยายผลรวบรักษาการเจ้าอาวาส ขาใหญ่ ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ยาบ้า แถมยังให้ยาบ้ากับเณรลูกวัดไว้เสพ ถูกรวบคากุฏิ ค้นเจอยาบ้าในจีวร และซ่อนไว้ในห้องน้ำ รวม 725 เม็ด...
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 11 ส.ค. 54 ร.ต.อ.วิริยะภาพ วังพรม สารวัตรสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย (สว.สส.) ได้นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ออกจับกุม น.ส.วิมลวัลย์ เจริญศักดิ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 293 หมู่ 16 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย หลังจากสืบทราบว่า น.ส.วิมลวัลย์ มีพฤติการณ์ค้ายาบ้า โดยจับกุมได้ที่บริเวณหมู่บ้านค่ายนคร ต.สองห้อง พร้อมยาบ้า 50 เม็ด ซึ่ง น.ส.วิมลวัลย์ รับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจากพระรูปหนึ่ง และได้พาเจ้าหน้าที่ไปขยายผลจับกุม ที่วัดป่าบ้านจอมตาล ต.จอมศรี อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สามารถจับกุมพระสาคร จักกะธัมโม หรือนายสาคร จอกทอง อายุ 60 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านจอมตาล บ้านเดิมอยู่เลขที่ 143 หมู่ 7 ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ค้นในจีวรพบยาบ้า 25 เม็ด บรรจุในหลอดพลาสติก และยังพบยาบ้าอีก 700 เม็ด ซ่อนไว้ในท่ออ่างล้างหน้าภายในห้องน้ำ รวมยาบ้า 725 เม็ด และยังได้จับกุมนายจำลอง สร้อยแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 9 ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ลูกศิษย์วัดคนสนิทของพระสาคร จากการสอบสวนพระสาคร หรือนายสาคร ให้การรับสารภาพว่า บวชเป็นพระได้ 10 ปี และเสพยาบ้าอยู่เป็นประจำ จึงได้คิดหาเงินใช้ โดยติดต่อซื้อยาบ้ากับคนลาว แล้วให้นายจำลอง ซึ่งเคยบวชเณรอยู่ที่วัด นำเงินไปซื้อยาบ้ากลับมาให้ คราวละ 2,000 เม็ด หรือประมาณ 110,000 บาท แล้วตั้งตัวเป็นเอเย่นต์กระจายยาบ้าไปตามที่ต่างๆ โดยบางครั้งตนจะให้นายจำลอง พาขับรถยนต์กระบะนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าเองกับมือ แต่บางครั้งไม่ว่าง ก็จะให้นายจำลองเป็นผู้มาส่งแทน กำไรจากการขายยาบ้าจะได้เท่าตัว โดยแบ่งไว้เสพเองส่วนหนึ่ง และยังได้แบ่งให้เณรภายในวัดเสพด้วย อ้างว่าเป็นค่าแรงที่ช่วยเก็บกวาดล้างจาน ทำความสะอาดวัด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกรายตั้งแก๊งค์โจรกรรมจักรยานยนต์
เป็นโจรมาบวช แต่ไม่ละสันดานโจร
ว่าแต่ใครเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ไม่ทราบ เห็นมหาเถรสมาคมตั้งโรงงานผลิตพระอุปัชฌาย์ออกมาทุกปี ปีละเป็นร้อยๆ รูป จนจะล้นเมืองอยู่แล้ว แต่เวลาเกิดปัญหาขึ้นมาแบบนี้ กลับไม่มีพระอุปัชฌาย์องค์ไหนรับผิดชอบเลย เวลานั่งอุปัชฌาย์น่ะ ได้ซองได้เงิน แต่เวลาพระที่บวชให้มีปัญหา กลับไม่มีหน้าไหนรับผิดชอบเลย ศาสนามันเสื่อมก็ไอ้เพราะแบบนี้แหละ
ขจัดมารผ้าเหลือง ตั้งแก๊งลัก จยย. หาเงินเสพยาบ้า
พวก 'อลัชชี' หรือ 'เดียรถีย์' ที่อาศัยผ้าเหลืองมาหากินและหลอกลวงประชาชน โดยใช้ความเชื่อและความศรัทธาของคนเป็นเครื่องมือ
ไม่ว่าจะเป็น การใบ้หวย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เสพเมถุน ดื่มสุรา เคล้านารี รวมไปถึงการลักเล็กขโมยน้อย ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับคดีนี้ที่พระสงฆ์แอบสลัดผ้าเหลือง และกระโดดขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออกตระเวนลักทรัพย์ชาวบ้านในยามวิกาล ก่อนจะมาจนมุมเจ้าหน้าที่ขณะลงมือก่อเหตุ อย่างคาหนังคาเขา...!! เหตุการณ์สะเทือนใจชาวพุทธครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งเหตุจากประชาชนหลายสิบรายว่า ถูกขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าร้านเกมและร้านค้าในช่วงกลางคืน เจ้าหน้าที่จึงกระจายและระดมกำลังติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ทั่วเมืองชัยนาท โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่เคยมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย แต่ก็ยังไร้เงาของคนร้าย ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่า พบเห็นกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในป่าละเมาะ พื้นที่หมู่ 12ต.เสือโฮก อ.เมือง ก่อนจะนำรถเข้าไปจอด ทิ้งไว้
เมื่อรับทราบข้อมูลที่อาจเกี่ยวโยงกับแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปดักซุ่มสังเกตการณ์ แต่ก็ยังไร้วี่แววของคนร้าย
จนกระทั่งเวลาผ่านมา 1 วัน ขณะเจ้าหน้าที่กำลังดักซุ่มรอกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยบริเวณป่าละเมาะ ก็พบวัยรุ่นขี่รถจักร ยานยนต์เข้ามา ก่อนที่วัยรุ่นคนที่นั่งซ้อนท้ายจะเดินเข้าไปในเพิงไม้รกร้าง และเข็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีดำ-ขาว หมายเลขทะเบียน ขรข 205 นครสวรรค์ ออกมา ขณะที่สองวัยรุ่นกำลังจะสตาร์ตเครื่องและขี่รถออกไปนั้น เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจกระโดดออกจากพงหญ้าและเข้าขวางรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน แต่สองวัยรุ่นยังพยายามที่จะขี่รถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ ทำให้สองวัยรุ่นยอมศิโรราบแต่โดยดี เมื่อ 1 ใน 2 วัยรุ่นถอดหมวกกันน็อกออกมา เจ้าหน้าที่ก็ต้องถึงกับผงะ เมื่อวัยรุ่นคนดังกล่าวโกนผมและคิ้ว คล้ายพระสงฆ์ จึงสอบถามเบื้องต้นจนทราบว่า เป็นพระสงฆ์ของวัดคลองกลาง ใน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจ และทราบชื่อคือ นายสรศักดิ์ หรือ เกมส์ ขำเล็ก อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 ม.4ต.วัดโคก อ.มโนรมย์ บวชเป็นพระอยู่ที่วัดคลองกลาง และ นายกอล์ฟ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี น้องชายของนายสรศักดิ์ นายสรศักดิ์ให้การรับสารภาพอย่างหน้า ตาเฉยว่า "ก่อนหน้านี้ผมเดินทางไปทำงานที่ จ.สมุทร ปราการ และลาออกจากงาน เพราะถูกจับได้ว่าติดยาเสพติด จากนั้นได้ กลับมาอยู่บ้านใน จ.ชัยนาท และตัดสินใจบวชเป็นพระ เนื่องจากไม่รู้จะทำ งานอะไร โดยบวชอยู่ที่วัดคลองกลางตั้งแต่เดือน ม.ค. ในช่วงต้นปี ส่วนน้องชายก็จะเทียวไปเทียว มาทำหน้าที่เป็นเด็กวัด แต่ในช่วงหลังเริ่มไม่มีเงินซื้อยาบ้ามาเสพ จึงร่วมกันกับน้องชายตระเวนลักรถจักรยานยนต์ เพื่อเป็นการหาเงินอีกทาง" อดีตพระหนุ่มเล่าถึงวิธีการลงมือก่อเหตุว่า " ในช่วงตอนกลางวันก็จะทำกิจของสงฆ์ตามปกติ แต่พอตกดึกประมาณ 2 ทุ่ม ก็จะถอดจีวรออกและเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวต โดยสวมหมวกกันน็อกเป็นการอำพราง ก่อนให้น้องชายขี่รถจักรยานยนต์ พาออกไปขโมยรถตามหอพักและหน้าร้านเกม ในพื้นที่ อ.เมืองชัยนาท และอ.ตา คลี จ.นครสวรรค์ โดยจะใช้ไขควง ฝนปลายแหลมเสียบเข้าไปในรูกุญแจ แล้วบิดเพื่อให้เกลียวล็อกพัง ก็จะสตาร์ตรถ และนำไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะ จากนั้นจะนำไป ขายในราคาคันละ2,000-3,000 บาท" จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุม นายสราวุธ ทิมโต อายุ 27 ปี และ นายภัสกร นาควัน อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่รับซื้อรถจากนายสรศักดิ์ เพื่อนำมาชำแหละและแยกชิ้นส่วนอะไหล่ พร้อมของกลางรถจักรยาน ยนต์ 17 คัน ที่ถูกนำมาดัดแปลงและสลับสับเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อให้เจ้าของรถยากแก่การสังเกต ก่อนจะนำไปขายอีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปตรวจสอบในห้างนาร้างและพบชิ้นส่วนรถจักรยาน ยนต์อีกจำนวนมาก ชดใช้กรรมตามกฎหมายไปอีกคดีสำหรับพวกมารศาสนา..!!
ข่าว : ไทยรัฐ-มติชน15 สิงหาคม 2554
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ