ศูนย์กลางพระศาสนาของโลก


องค์กรพุทธหวังรัฐบาลใหม่ทำไทยเป็นศูนย์กลางพุทธโลก /โพสต์ทูเดย์PDFพิมพ์อีเมล์


พระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร หนึ่งในคณะเลขานุการมหาเถรสมาคม และพระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ (ประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) เสนอรัฐบาลใหม่ให้จัดร่างนโยบาย เพื่อปกป้อง เผยแพร่ และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก
ทั้งนี้ โดยที่ตระหนักว่าประเทศไทยมีผู้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่ และทั่วโลกให้การยอมรับว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา แต่รัฐบาลที่ผ่านๆ มาไม่มีนโยบายชัดเจนเรื่องปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เมื่อมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีสิทธิและมีเสียงข้างมากในสภาเด็ดขาด น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้มีนโยบายดีๆ เพื่อพระพุทธศาสนาบ้าง ทางองค์กรชาวพุทธหลายองค์กร เช่น ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยสงฆ์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) จึงจัดทำนโยบายด้านพระพุทธศาสนาเสนอต่อรัฐบาลไทย โดยมีหลักการและเหตุผลว่า
ด้วยเป็นที่ปรากฏชัดว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือ หรือเป็นศาสนาประจำชาติโดยพฤตินัยของประเทศไทย จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยจะต้องให้ความอุปถัมภ์บำรุง และให้การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสถาพรสืบไป
จึงเสนอรัฐบาลไทยให้กำหนดนโยบายดูแลพระพุทธศาสนาในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
ด้านอุปถัมภ์ ประกอบด้วย
ให้มีพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพราะมีการจาบจ้วง ล่วงละเมิด ให้ร้าย ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาโดยรวม แต่ไม่มีกฎหมายลงโทษผู้กระทำผิด คนจึงกล้ากระทำย่ำยีพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
ให้มีพระราชบัญญัติธนาคารพระพุทธศาสนา เพราะเห็นว่าพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยมีจำนวนมาก แต่ไม่มีการรวมกลุ่มทำธุรกรรมด้านการเงินเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนา เรื่องนี้ วิรุฬ เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอร่าง พ.ร.บ. มี 63 มาตรา ให้นายกรัฐมนตรี (ที่ผ่านมา) ไปแล้ว ตอนนี้รอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ลงนามเพื่อเสนอสภาฯ ต่อไป
ให้มีการจัดตั้งกองทุนพระพุทธศาสนา ข้อนี้มีประเด็นว่า การให้ความอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาจะกระทำได้เต็มที่ก็ต้องมีการจัดตั้งกองทุนพระพุทธศาสนา เพื่อรวบรวมทรัพย์สินที่มีให้การอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา
ด้านกฎหมาย ประกอบด้วย
การบัญญัติให้ “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เรื่องนี้พระเทพวิสุทธิกวี บอกว่า หากมีการแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไรให้บรรจุไว้ เพื่อให้ 3 สถาบันอยู่ด้วยกัน หากแยกกันบ้านเมืองจะวิปริต
พร้อมกับให้ยกฐานะ “สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ” ขึ้นเป็น “กระทรวงพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม”
เรื่องใหม่สุดคือ ขอการสนับสนุนให้มีสมาคมนักกฎหมายเพื่อพิทักษ์สิทธิชาวพุทธ โดยมีหลักการและเหตุผลว่า
ปัจจุบันพระพุทธศาสนาได้ประสบกับภัยต่างๆ มากมาย อย่างแรกคือ ภัยภายใน คือ พุทธบริษัทขาดความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง จนนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิด การถ่ายทอดสู่ศิษยานุศิษย์ที่ผิด เกิดความขัดแย้งกันในหมู่พุทธบริษัทด้วยกันเอง อีกส่วนหนึ่งคือภัยภายนอก เมื่อมีปัญหาทางกฎหมาย ไม่มีนักกฎหมายช่วยแก้ไขปัญหาแบบทหารพระธรรมนูญของทหาร
จึงเห็นสมควรให้มีสมาคมนักกฎหมายเพื่อพิทักษ์สิทธิของชาวพุทธ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของพระพุทธศาสนาไม่ให้ถูกย่ำยี
ที่เรียกร้องเสมอมา แต่ไม่ได้รับการสนองตอบคือ การปรับปรุงพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 เพราะวิวัฒนาการทางสังคมได้เปลี่ยนแปลงมากขึ้น จึงควรแก้ไขให้ทันสมัย
ด้านการศึกษา
ขอให้สนับสนุนมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เพราะทั้งสองมหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรทั่วไปและนานาชาติ แต่งบประมาณจากภาครัฐยังมีข้อจำกัด แม้ว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์กำลังขยายการศึกษาระดับนานาชาติ รองรับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก
นอกจากงบประมาณแล้ว ควรสนับสนุนความจำเป็นอื่นๆ เช่น โทรทัศน์และวิทยุ ดาวเทียมเพื่อการศึกษาแก่มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งให้เข้มแข็งขึ้น
ส่วนการให้การสนับสนุนงบประมาณโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญศึกษาให้เพียงพอ เพราะปัจจุบันได้ไม่พอจ่าย ทำให้ภาระส่วนมากตกมาอยู่ที่คณะสงฆ์ ถ้าจะจัด จัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น เสนอให้มีการจัดการศึกษาสาขาวิชาการพระพุทธศาสนาในสถาบันการศึกษา แก้ปัญหาการสอนวิชาพระพุทธศาสนาในสถาบันการศึกษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ ปัจจัยสำคัญมาจากขาดครูผู้สอนที่มีความรู้ความเข้าใจในวิชาพระพุทธ ศาสนาอย่างถ่องแท้ ส่งผลให้ผู้เรียนขาดองค์ความรู้ด้านพระพุทธศาสนา เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจได้
จึงเสนอให้สร้างบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ โดยเปิดสาขาการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ซึ่งต่อไปครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาจะต้องจบสาขาวิชานี้ เบื้องต้นอาจมอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย รับผิดชอบในการผลิตบุคลากรด้านการสอน วิชาพระพุทธศาสนาโดยตรง และขยายให้สถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ให้ความร่วมมือเพื่อผลิตครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้เพียงพอกับจำนวนโรงเรียนที่มีอยู่ทั่วประเทศ และเพิ่มชั่วโมงการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น
ด้านการเผยแผ่
เห็นควรสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงพระปฐมเทศนา และปรินิพพาน ในประเทศอินเดียและเนปาล เพราะเป็นสถานที่อันแสดงถึงความมีอยู่จริงแห่งพระพุทธศาสนา ผู้ใดได้นมัสการสังเวชนียสถานทั้งสี่ตำบลแล้ว จะมีความศรัทธา รักและหวงแหนพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
เรื่องนี้รัฐบาลควรมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนงบประมาณการเดินทาง โดยพระเทพวิสุทธิกวี กล่าวว่า พระสงฆ์พรรษา 10 ขึ้นไป ควรได้รับสิทธิอย่างทั่วถึง พูดถึงงบประมาณก็น้อย เพียง 500-800 ล้านบาทเท่านั้น
เรื่องที่เสนอใหม่ที่น่าสนใจคือ การสนับสนุนให้มีสำนักงานผู้แทนพระพุทธศาสนาประจำประเทศต่างๆ
เพื่อสอดรับกับการมีมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ผู้แทนประจำประเทศต่างๆ มีหน้าที่ความรับผิดชอบติดต่อประสานงานกับประเทศต่างๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาที่กระจายอยู่ทั่วโลก ดูแลวัดไทยในต่างแดน
รวมทั้งเป็นตัวกลางของหน่วยงานราชการประสานงานกับสถานทูตและสถานกงสุลไทยในประเทศนั้นๆ ด้านกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
นอกจากนั้น เสนอให้มีกฎหมายว่าด้วยการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อแก้ปัญหาการเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ผิดไปจากความเป็นจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด นำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธา หากมีกฎหมายจะช่วยจัดระเบียบการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อเสนอว่าด้วยการปฏิบัติธรรม
เมื่อประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก จึงควรสนับสนุน ส่งเสริมให้พุทธบริษัทและชาวพุทธทั่วโลกมาศึกษาและปฏิบัติธรรม ในแผ่นดินไทย จึงสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยสำนักปฏิบัติธรรมขึ้น เพื่อสร้างเอกภาพและกรอบปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ส่วนเรื่องการจัดงานเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา การจัดงานเทศกาลวันสำคัญดังกล่าวยังไม่ได้รับการสนับสนุน และความร่วมมือจากภาครัฐและหน่วยงานราชการเท่าที่ควร รัฐจึงควรส่งเสริมสนับสนุนงานวันสำคัญดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น
สุดท้าย เสนอให้ตรากฎหมายว่าด้วยวิทยุโทรทัศน์เพื่อพระพุทธศาสนา เพราะการเผยแผ่ธรรมทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และทางสถานีโทรทัศน์ได้ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบ และไม่ได้ผลเท่าที่ควร ถ้าต้องการเวลาออกอากาศที่ดีต้องเสียเงินมาก จึงเห็นสมควรให้มีการตรากฎหมายว่าด้วยวิทยุโทรทัศน์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อคณะสงฆ์จะได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปสู่สาธารณะอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
พระเทพวิสุทธิกวี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแง่กฎหมาย เสนอให้ปรับปรุงสถานะแม่ชีให้ถูกต้องว่าเป็นนักบวชหรือไม่ ในด้านการศึกษา ท่านก็หวังว่ารัฐจะส่งเสริมการศึกษาทั่วไปจริงจัง และการให้เรียนฟรีทั้งระบบต้องทบทวน เพราะที่แล้วๆ มาไม่ฟรีจริง ผู้ปกครองต้องจ่ายเงินมากเหมือนเดิม
อีกเรื่องหนึ่งที่ท่านมีความเห็นไม่เหมือนใครคือ เสนอให้ยุบโรงเรียนกวดวิชาทั้งประเทศ เพราะโรงเรียนเอาเปรียบประชาชน ครูที่กวดวิชาคือครูที่สอนโรงเรียนตามปกติ แต่สอนไม่เต็มที่ ไปทำเต็มที่ที่โรงเรียนกวดวิชา การที่เด็กกวดวิชายังทำให้ห่างเหินผู้ปกครอง เพราะใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนในวันหยุด แทนที่จะอยู่กับผู้ปกครอง
สุดท้าย พระเทพวิสุทธกวีฝันที่จะเห็นรัฐบาลส่งเสริมสนับสนุนสร้างสังเวชนียสถานในพระพุทธศาสนาทั้งสี่แห่งในไทย ให้สามารถเห็นได้เมื่อมาทางเครื่องบิน ซึ่งจะทำให้ชาวต่างชาติปรารถนาไปเยี่ยมชม หากทำดี มีความสะดวก เราจะเป็นศูนย์สันติภาพโลก ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาไทยโดยมิต้องสงสัย
ที่มา : ธรรมะ-จิตใจ  โดย...สมาน สุดโตนสพ.โพสต์ทูเดย์
07 สิงหาคม 2554


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ