สมเด็จพระวันรัต



สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระวันรัต
(จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)
Praprommunii.jpg
เกิด17 กันยายน พ.ศ. 2479
อุปสมบท8 กรกฎาคม พ.ศ. 2499
พรรษา55
อายุ74
วัดวัดบวรนิเวศวิหาร
จังหวัดกรุงเทพมหานคร
สังกัดธรรมยุตินิกาย
วุฒิการศึกษาป.ธ.9 น.ธ.เอก
ตำแหน่งงานคณะสงฆ์รักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติกนิกาย,แม่กองธรรมสนามหลวง,กรรมการมหาเถรสมาคม
สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) (นามเดิม: จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์) เป็นพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองธรรมสนามหลวงผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏเมื่อปี พ.ศ. 2552 โดยมีราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระวันรัต ศรีวชิรญาณวงศวิวัฒ ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปริณายก ตรีปิฎกโกศล วิมลคัมภีรญาณสุนทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

เนื้อหา

 [ซ่อน]

[แก้]ประวัติ

สมเด็จพระวันรัต มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2479 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด ณ บ้านเกาะเกตุ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์และนางเหล็ย พราหมณ์พิทักษ์ ท่านสำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด จากนั้น ได้เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2491 ณ วัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด โดยมี พระวินัยบัณฑิต เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2499 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตโต) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตตโร) วัดคิรีวิหาร จ.ตราด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธัมมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบท ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้ประโยคเปรียญธรรม 9 ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 สมเด็จพระวันรัต ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี ได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ส่วนภาระหน้าที่พิเศษ ยากที่จะหาผู้ใดทำหน้าที่นี้ได้ในยุคปัจจุบัน คือ การที่ได้รับมอบหมายจากเถรสมาคมเป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติของไทย) และให้ความเห็น ก่อนที่จะประกาศใช้ ในแต่ละปี นอกจากนี้ยังเดินหมุดและคำนวณปฏิทินปักขคณนาสำหรับวันลงอุโบสถให้กับคณะสงฆ์ธรรมยุตด้วย

[แก้]วิทยฐานะ

  • พ.ศ. ๒๔๙๑ สำเร็จวิชาสามัญศึกษา (ป.๔) จากโรงเรียนวัดคิริวิหาร ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
  • พ.ศ. ๒๔๙๕ สอบได้ประโยค น.ธ. เอก ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  • พ.ศ. ๒๕๑๕ สอบได้ประโยค ป.ธ.๙ ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร

[แก้]ตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์

  • เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
  • เป็นกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร
  • เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  • เป็นผู้อำนวยการศึกษา สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  • เป็นเจ้าคณะขาบบวร-เขียวบวร
  • เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)
  • เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต
  • เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต)
  • เป็นอนุกรรมการฝ่ายการปกครอง ของมหาเถรสมาคม
  • เป็นพระอุปัชฌาย์
  • เป็นกรรมการสนามหลวง แผนกบาลี
  • เป็นแม่กองธรรมสนามหลวง
  • เป็นกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
  • เป็นรองประธานกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
  • เป็นผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย
  • กรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
  • ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม

[แก้]หน้าที่

  • เป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติของไทย) และให้คำแนะนำ ก่อนประกาศใช้ในแต่ละปี
  • เป็นกรรมการชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  • เป็นกรรมการชำระอรรถกถา ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
  • เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • เป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนา ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล, งานพระราชพิธีฯ ในบางโอกาส
  • เป็นผู้ถวายการสอนพระธรรมวินัยแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ในคราวทรงทรงผนวช เสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
  • เป็นกรรมการกองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
  • เป็นหัวหน้ากองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
  • เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • เป็นประธานคณะกรรมการตำราและวิชาการ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • สนองงานถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ที่ได้รับพระบัญชาในบางโอกาส

[แก้]งานพิเศษ

  • พ.ศ. ๒๕๔๑ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดสิงห์บุรี, อุทัยธานี,ลพบุรี
  • พ.ศ. ๒๕๔๑ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๗ (ธรรมยุต) ในจังหวัดเชียงใหม่
  • พ.ศ. ๒๕๔๓ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๒ (ธรรมยุต) ในจังหวัดจันทบุรี,ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดปราจีนบุรี
  • พ.ศ. ๒๕๔๕ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๘ (ธรรมยุต),รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธรรมยุต)

[แก้]ลำดับสมณศักดิ์

  • พ.ศ. 2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ที่ พระอมรโมลี
  • พ.ศ. 2531 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะ ชั้นราช ที่ พระราชสุมนต์มุนี
  • พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะ ชั้นเทพ ที่ พระเทพกวี
  • พ.ศ. 2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะ ชั้นธรรม ที่ พระธรรมกวี
  • พ.ศ. 2543 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระพรหมมุนี
  • พ.ศ. 2552 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ที่ สมเด็จพระวันรัต

[แก้]อ้างอิง

[แก้]
ข้าพเจ้า สมเกียรติ กาญจนชาติ ได้เข้ากราบท่าน เมื่อ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๔ ได้รายงานเรื่องโครงการที่ได้ทำถวาย สมเด็จพระสังฆราช

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ