พระวรธรรมคติ พระสังฆราช พ.ศ.๒๕๕๕
พระวรธรรมคติ
วันอาสาฬหบูชา พ.ศ. ๒๕๕๕
(สมเด็จพระญาณสังวร)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
=================
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
(สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
ได้ประทานพระวรธรรมคติ
เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๕๕๕ ความว่า
เทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา
เป็นสองอภิลักขิตกาลทางพระพุทธศาสนาต่อเนื่องกัน
คือ วันแสดงปฐมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และวันเข้าพรรษา คือ การหยุดยั้งอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือน
ระหว่างกาลฝนของพระสงฆ์ เรียกว่า อยู่จำพรรษา
ในความสำคัญของปฐมเทศนา ที่เรียกว่า “ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร”
ก็คือทางแห่งหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
ได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทา และอริยสัจสี่ พร้อมด้วยญาณ ๓ และกิจ ๔ ในอริยสัจสี่
การอยู่จำพรรษา นอกจากจะอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือนแห่งฤดูฝนแล้ว
ยังเป็นโอกาสให้พระภิกษุและสามเณร
ได้มีเวลาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมหรือฟังคำสอนของพระอุปัชฌาอาจารย์
เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา
ก็ควรที่จะปฏิบัติตนตามแนวทางของพระสงฆ์
คือควรอยู่ในธรรมตลอด ๓ เดือน ดุจการอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์
โดยดำรงตนอยู่ในการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามความสามารถ
ก็จะสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมามกะ หรือพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง
ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม ประสบสันติสุขทั่วกัน.
ขออำนวยพร
วันอาสาฬหบูชา พ.ศ. ๒๕๕๕
(สมเด็จพระญาณสังวร)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
=================
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
(สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
ได้ประทานพระวรธรรมคติ
เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา พ.ศ. ๒๕๕๕ ความว่า
เทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา
เป็นสองอภิลักขิตกาลทางพระพุทธศาสนาต่อเนื่องกัน
คือ วันแสดงปฐมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และวันเข้าพรรษา คือ การหยุดยั้งอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือน
ระหว่างกาลฝนของพระสงฆ์ เรียกว่า อยู่จำพรรษา
ในความสำคัญของปฐมเทศนา ที่เรียกว่า “ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร”
ก็คือทางแห่งหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา
ได้แก่ มัชฌิมาปฏิปทา และอริยสัจสี่ พร้อมด้วยญาณ ๓ และกิจ ๔ ในอริยสัจสี่
การอยู่จำพรรษา นอกจากจะอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือนแห่งฤดูฝนแล้ว
ยังเป็นโอกาสให้พระภิกษุและสามเณร
ได้มีเวลาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมหรือฟังคำสอนของพระอุปัชฌาอาจารย์
เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อถึงเทศกาลเข้าพรรษา
ก็ควรที่จะปฏิบัติตนตามแนวทางของพระสงฆ์
คือควรอยู่ในธรรมตลอด ๓ เดือน ดุจการอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์
โดยดำรงตนอยู่ในการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามความสามารถ
ก็จะสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมามกะ หรือพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง
ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรม ประสบสันติสุขทั่วกัน.
ขออำนวยพร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ