"พุทธมณฑล" จมดิน ! เจ้าคุณวีรยุทธประกาศสร้างวัดสุวรรณภูมิ ยกระดับ "ไทยแลนด์" ศูนย์กลางพุทธโลก

กระทืบ "พุทธมณฑล" จมดิน !

เจ้าคุณวีรยุทธประกาศสร้างวัดสุวรรณภูมิ

ยกระดับ "ไทยแลนด์" ศูนย์กลางพุทธโลก

พระราชรัตนรังษี

(วีรยุทธ วีรยุทฺโธ)

หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล

อา..เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ โครงการยกระดับพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก สำนักพุทธฯและสารพัดองค์กร เช่น มจร. เป็นต้น ก็ออกมาประกาศตั้งแต่ปีมะโว้ คุยโวว่าจะยกอย่างโน้นอย่างนี้ ทุกปีก็ขอมติที่ประชุมพระพุทธศาสนานานาชาติ ในวันวิสาขบูชา ทุกประเทศก็ยกให้ "พุทธมณฑล" เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก แต่มันไม่มีอะไรให้จับต้องได้เลย ว่าจะยกพุทธมณฑลขึ้นเป็น "ศูนย์กลาง" อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นด้านงบประมาณ บุคคลากร พุทธมณฑลเดี๋ยวนี้มีสมรรถนะก็แค่ รองรับการประชุมมหาเถรสมาคม ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกไม่เกิน 30 รูปเท่านั้น

ข่าวครั้งหลังสุดที่ได้ยินจากสำนักพุทธฯก็คือ วันที่ 17 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา สำนักพุทธฯได้ประกาศ "ตั้งกองส่งเสริมงานเผยแผ่" แบบว่าตั้งโต๊ะทำงานขึ้นมาอีกโต๊ะหนึ่งในสำนักพุทธฯนั่นเอง ทั้งนี้ ไม่มีการเพิ่มอัตราบุคคลากร ไม่มีการเพิ่มงบประมาณ อะไรทั้งสิ้น แต่เป็นการ "ดึงคนจากกองโน้นกองนี้" มาโปะเป็น "กองเฉพาะกิจ" มีภารกิจจำเพาะก็คือ "ยกพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก" เด็กนักเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ได้ยินก็หัวร่อ ว่ามันสมองของ"เลขาธิการมหาเถรสมาคม" อัจฉริยะระดับนั้นเชียวหรือ ?

ทำแบบนี้นะหรือ จะสามารถยกพุทธมณฑลขึ้นเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก ต่อให้ต่ออายุนายนพรัตน์เป็น ผอ.สำนักพุทธฯ ไปอีก 100 ปี เชื่อหรือว่าจะสำเร็จ ?

ถ้าทำแค่นี้แล้วได้เป็นศูนย์กลางของโลก วัดพระธรรมกายก็คงไปไกลถึงศูนย์กลางสุริยจักรวาลแล้ว

ปีก่อน "น้ำท่วมมิด" พุทธมณฑล

ปีนี้ "สร้างวัดสุวรรณภูมิ" ทับถมพุทธมณฑล

แล้ววันนี้เป็นไง เจ้าคุณวีรยุทธ ซึ่งมีศักดิ์เป็นเพียง "พระราชาคณะชั้นราช" และตำแหน่ง "หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย" ได้ออกประกาศ "สร้างวัดสุวรรณภูมิ" ขึ้นใหม่ เพื่อใช้เป็น "ฐานการบินอินเตอร์" รองรับชาวพุทธทั่วโลก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า วิสัยทัศน์ของเจ้าคุณวีรยุทธนั้นไม่ธรรมดา น่าจะตั้งเป็น "ชั้นเทพ"ให้เสมอกับ "พระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี" เลยทีเดียว

แต่ที่เสียวก็คือว่า บรรดาพระมหาเถระในมหาเถรสมาคม นับตั้งแต่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ หรือแม้แต่ พระพรหมบัณฑิต อธิการบดี มจร. ซึ่งก็ถือว่าเป็นสุดยอดนักคิดนักพัฒนาแห่งยุค คงจะสะดุ้งกันเป็นแถวๆ เมื่อถูก "รุก" จากอินเดีย ซึ่งสมัยก่อนโน้น ใครไปอินเดียก็เหมือนไปแอฟริกา เข้าตำรา "ตายอดตายอยาก" แต่วันนี้ กองทุนไทยไหลไปอินเดียเป็นพันเป็นหมื่นล้าน สามารถระดมทุนสร้างลุมพินีขึ้นมาใหม่ บูรณะยอดพระเจดีย์พุทธคยาด้วยทองคำล้วนๆ ถึง 300 กิโล แถมยังติดเพชรไว้บนเพดานหลวงพ่อพุทธเมตตาอีก 500 เม็ด ปัจจุบันมีวัดไทยในอินเดียร่วมๆ 30 วัดแล้ว อีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า วัดไทยในอินเดียน่าจะมีจำนวนมากกว่าประเทศใดๆ ในบรรดาวัดไทยในต่างประเทศ

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็มิใช่อะไร แต่อยากจะบอกว่า "โอกาสใครโอกาสมัน" ใครฉวยโอกาสเป็น คนนั้นท่านเรียกว่า "ฉลาด" แค่คนที่ปล่อยโอก่าสเงินโอกาสทองให้หลุดลอยไปนั่นไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ?

บรรดาพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักพุทธฯ เช่นนายนพรัตน์ เป็นต้น ก็เป็นคนมีอำนาจวาสนา มากกว่าเจ้าคุณวีรยุทธ แต่เพราะมัวกินแต่"ของเก่า" เลยไม่สร้างสรรค์ของใหม่ สุดท้ายก็โดนธัมมชโยและวีรยุทโธแซงหน้าเห็นๆ มันเป็นเรื่องที่น่าสงสารเหลือเกิน เกิดมาทั้งทีแต่เอาดีไม่ได้นี่

ชงสร้าง 'วัดสุวรรณภูมิ-พุทธชยันตี' สนามบินเปิดบริการพระสงฆ์จากต่างแดน

15 ก.ย. 2556 เฟซบุ๊กท่านคมสรณ์ - พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย ซึ่งรายงานศาสนกิจของพระครูปริยัติโพธิวิเทศพระธรรมทูตอินเดียภายใต้การนำของพระราชรัตนรังษี หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ได้รายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ความว่า

งานในความคิด..สร้างวัดสุวรรณภูมิ - พุทธชยันตี ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ จากแนวคิดเพื่อขอใช้สถานที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อการสร้างวัดตามโครงการ ฯ มีข้อจำกัดหลายอย่างและได้ประสานติดต่อวัดหลายแห่งในบริเวณใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีข้อจำกัดหลายด้านโดยเฉพาะสถานที่ การบิรหารจัดการ ท่านพระอาจารย์คมสรณ์ ได้นำเรื่องนี้กราบเรียนหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดียเพื่อทราบ มีแนวคิดเรื่องการจัดที่ดินสร้างวัดเป็นแนวทางสุดท้ายที่จะดำเนินการคือ การจัดหาซื้อที่ดินเนื่อที่ประมาณ 6 - 10 ไร่ เพื่อการสร้างวัดใกล้สนามบินสุวรรณภูมิตามแผนที่ Remark O.K สีแดง 2 แห่ง ติดถนนลาดกระบัง และมอเตอร์เวย์ ห่างสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ5 นาที จึงแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ เผื่อว่าจะมีท่านผู้สนใจศรัทธาร่วมสานต่อแนวคิดให้สำเร็จต่อไป

เรื่อง โครงการสร้างวัดสุวรรณภูมิ -พุทธชยันตี

สิ่งที่ส่งมาด้วย โครงการสร้างวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 1 ชุด

ด้วยปัจจุบันด้วย พระพุทธศาสนา มีประเทศที่มีผู้ศรัทธานับถือมากกว่า 62 ประเทศ พุทธศาสนิกชนทั่วโลกกว่า 400 ล้านคน องค์การสหประชาชาติมีมติรับรองให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลกเมื่อปี พ.ศ.2542 และที่ประชุม ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก ระหว่างวันที่ 18 –22 พฤษภาคม 2550 มีมติยกพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ประเทศไทยในฐานะเป็นแผ่นดินแห่งพระพุทธศาสนา ได้ส่งพระธรรมทูตสายต่างประเทศไปประกาศพระพุทธศาสนายังต่างแดนของ นับวันมีงานขยายเพิ่มมากยิ่งขึ้นทุกๆ ปี และมีพระภิกษุ สามเณร เดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ประเทศไทยควรมีสถานที่รองรับสถานะของพระพุทธศาสนาที่แพร่หลายไปยังนานาอารยประเทศ เพื่อการดูแลงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศอย่างทั่วถึงเป็นระบบ และปัญหาของพระธรรมทูตสายต่างประเทศผู้เป็นตัวแทนคณะสงฆ์ไทย เมื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศระยะเวลานาน เมื่อกลับมายังประเทศไทย มีปัญหาเรื่องที่พัก ณ วัดที่สังตนสังกัด สถานที่ปฏิบัติหน้าที่ ตำแหน่ง หน้าที่รองรับ หรือกรณีเจ็บอาพาธป่วย ควรมีสถานที่รับรองเพื่อดูแลพักฟื้นหลังการรักษาแก่พระภิกษุเหล่านั้น อีกทั้งการเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งใช้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นหลัก มีข้อจำกัดบางครั้งเมื่อพระภิกษุ สามเณร เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องรอเวลาขึ้นเครื่อง เครื่องล่าช้าเสียเวลา ยกเลิกการบิน การเปลี่ยนเครื่อง การรอโดยสารต่อโดยเครื่องบินภายในประเทศหรือทางรถยนต์ มีปัญหาเรื่องสถานที่และการขบฉันหรือในบางกรณีเลื่อนการเดินทาง

ทำให้พระสงฆ์ สามเณร ผู้จะเดินทาง โดยเฉพาะจากต่างจังหวัด ต้องไปเช่าหาที่พักพื้นที่บริเวณใกล้สนามบิน เช่น โรงแรม หรือเกสต์เฮ้าสต์ ฯลฯ ซึ่งเป็นการไม่เหมาะสม

จึงเสนอโครงการสร้างวัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี สนามบินสุวรรณภูมิ ดังปรากฏรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย โครงการสร้างวัดพุทธสุวรรณภูมิ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสแห่งพุทธชันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อำนวยความสะดวกแก่พระภิกษุ สามเณร และผู้ติดตาม ที่จะเดินทางไกล มาจากทางไกล ด้านภัตตาหาร (อาคันตุกะภัตร – คมิกะภัตร) เสนาสนะที่พักและยานพาหนะรับ - ส่ง

2. เพื่อเป็นสถานที่รับสังกัดดูแลพระสงฆ์ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ ในกรณีกลับเมืองไทยแล้วไม่มีวัดที่ตนสังกัดเป็นหลักแหล่ง

3. เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรม ติดต่อ ประสานงานพระสงฆ์ธรรมทูตสายต่างประเทศก่อนการออกไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดน

4. เพื่อเป็นสถานที่แสดงนิทรรศการ ผลงานการไปประกาศพระศาสนาในต่างประเทศของพระธรรมทูตไทยในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และอำนวยความสะดวกพระภิกษุ สามเณร ผู้เดินทางไปต่างประเทศ และกลับจากต่างประเทศ ปีละกว่า 10,000 รูป

5. เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้เข้าสู่ระดับ AEC ของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย รองรับ ต้อนรับพระสงฆ์ทั้งสายเถรวาทและมหายาน จากประเทศเมืองพุทธต่างๆ ทั่วโลก

6. เพื่อสร้างเจดีย์พุทธคยาจำลอง สัญญลักษณ์เชิงพุทธ ณ บริเวณใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ให้โดดเด่น สมฐานะแผ่นดินรุ่งโรจน์เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก สามารถมองเห็นจากถนนมอเตอร์เวย์ และขณะเครื่องบินขึ้น - ลง

ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้าง 5 ปี งบประมาณ 108 ล้านบาท พุทธบริษัทผู้ศรัทธาทั่วไป นำศรัทธาสร้างโดยคณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย - เนปาล กองทุนพระสงฆ์ไทยในต่างประเทศ และคณะผู้แสวงบุญอินเดีย-เนปาล

ท่านคมสรณ์ - พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย ผู้คิดโครงการสนองงาน พระธรรมทูตในต่างแดน ศรัทธาสนใจ ติดต่อได้ที่อีเมล์ dr.khom@gmail.com หมายเหตุ: โครงการนี้ยังเป็นโครงการในความคิด หาแนวร่วม ความเป็นไปได้เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการต่อไป

 และได้โพสต์ข้อความในเวลาต่อมาว่า ท่านคมสรณ์ มีศาสนกิจเดินทางกลับประเทศไทยอีกแล้ว ! ด้วยคณะสงฆ์ไทยได้จัดงานฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 3 ตุลาคม 2556 มีการจัดประชุมเสวนาทางวิชาการพระธรรมทูต 4 ทวีป ทั่วโลก เพื่อเทอดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง ยุทธศาสตร์การพัฒนาพระธรรมทูตในต่างประเทศ ในมิติของการบริหาร สร้างเครือข่าย พัฒนา สนับสนุนส่งเสริมอุปถัมภ์ ระหว่างวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2556 จักเดินทางไปด้วยกิจแห่งวิชาการทางศาสนานี้อีก...

หมายเหตุ: ในกำหนดการแจ้งว่า พระธรรมทูตจากต่างประเทศเข้าพักโรงแรมริเวอร์ไซด์ แต่ถ้าโครงการสร้างวัดสุวรรณภูมิสำเร็จลงก็จะใช้รองรับเพื่อการเช่นนี้ได้โดยสะดวกยิ่งนัก พระส้งฆ์ไทยจากต่างประเทศ เมื่อกลับประเทศ ไม่มีวัดให้พักรองรับ ยังต้องไปพักโรงแรม เห็นไหมว่าประเทศไทยเมืองพุทธยังไม่พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกได้จริงๆ

 http://www.alittlebuddha.com/

ข่าว : คมชัดลึก

16 กันยายน 2556