เมื่อบักเณรคำ ตั้งกองทุนกู้ชื่อเสีย
เงินฟอกเงิน !
แก๊งค์บักเณรคำตั้งกองทุน "ฟอกชื่อเสีย" ให้หัวหน้า เพราะเชื่อว่าเงินหนาเป็นพันๆ ล้าน ซื้อ-ปิดปากสื่อ ซักสี่ซ้าห้าร้อยล้าน ขนหน้าแข้งไม่ทันร่วง ร้บรองว่าเรื่องเงียบยิ่งกว่าเครื่องเบนซิล
อา..แนวคิด "ระยำ" ของแก๊งค์บักเณรคำมันเป็นเช่นที่เห็นนี่แหละ มันจะไปตั้งกองทุนห่าโหยอะไร ในเมื่อมีฤทธิ์ ก็แสดงฤทธิ์ เหาะเหินเดินอากาศให้ "ขี้ตีน" ตกใส่หัวกรรมการสงฆ์เพียงรอบเดียว รับรองว่าสาธุการลั่นโลก อย่านับแต่สื่อเมืองไทยจะไม่กล้าด่าเลย แม้แต่สื่อเมืองนอกก็จะเยินยอยิ่งกว่าพระเยซู เรื่องหมูๆ แค่นี้ สมองอรหันต์ทำไมคิดไม่เป็น !
เมื่ออรหันต์ตั้งกองทุนกู้ชื่อเสีย
ลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ทำหนังสือขอเลื่อนวันการเข้าพบเพื่อชี้แจงตามคำสั่งพระเลขาฯ เจ้าคณะจังหวัดเผย มีสิทธิ์ทำได้ แต่คณะกรรมการก็ต้องดูเหตุผล ขณะที่เตรียมตั้งกองทุน เพื่อจ้างทีมกฎหมาย และสร้างความเข้าใจแก่สังคม ในการกู้ชื่อเสียงหลวงปู่เณรคำกลับมา...
เมื่อวันที่29 มิ.ย. 2556 นายภัทรเดช โสพรรณพานิชกุล ผู้จัดการบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด กล่าวถึงเรื่องที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษได้มีหนังสือคำสั่งให้หลวงปู่เณรคำ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยได้กำหนดให้เข้าไปชี้แจงกับคณะ กรรมการภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้เป็นอย่างช้าว่า ได้แจ้งให้หลวงปู่ได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากว่าเวลากระชั้นชิด เกินไปเนื่องจากคณะศิษย์ได้รับหนังสือเมื่อเช้าของวันที่ 28 มิ.ย. 2556 นี้เอง ถึงแม้ว่าหลวงปู่เณรคำจะกลับมาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ก็อาจจะเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการไม่ทัน คณะศิษย์เราได้หารือกันแล้ว ได้ตกลงกันว่า อาจจะต้องทำหนังสือถึงท่านเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอเลื่อนกำหนดออกไปก่อน คงจะหลังจากเสร็จงานพิธีห่มผ้าฤดูฝนนี้ ก่อนหลวงปู่จึงจะเข้าชี้แจงเอง
เมื่อวันที่29 มิ.ย. 2556 นายภัทรเดช โสพรรณพานิชกุล ผู้จัดการบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า จำกัด กล่าวถึงเรื่องที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษได้มีหนังสือคำสั่งให้หลวงปู่เณรคำ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยได้กำหนดให้เข้าไปชี้แจงกับคณะ กรรมการภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้เป็นอย่างช้าว่า ได้แจ้งให้หลวงปู่ได้รับทราบเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากว่าเวลากระชั้นชิด เกินไปเนื่องจากคณะศิษย์ได้รับหนังสือเมื่อเช้าของวันที่ 28 มิ.ย. 2556 นี้เอง ถึงแม้ว่าหลวงปู่เณรคำจะกลับมาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ก็อาจจะเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการไม่ทัน คณะศิษย์เราได้หารือกันแล้ว ได้ตกลงกันว่า อาจจะต้องทำหนังสือถึงท่านเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอเลื่อนกำหนดออกไปก่อน คงจะหลังจากเสร็จงานพิธีห่มผ้าฤดูฝนนี้ ก่อนหลวงปู่จึงจะเข้าชี้แจงเอง
ด้านวัดป่าศรีสำราญ ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า การที่ลูกศิษย์ของพระวิรพลจะทำหนังสือขอเลื่อนการเข้าพบและชี้แจงต่อคณะกรรมการก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่เมื่อส่งหนังสือขอเลื่อนถึงเจ้าคณะจังหวัดแล้ว ท่านก็จะต้องเรียกคณะกรรมการไปพบเพื่อประชุมหารือกัน ซึ่งการหารือก็จะต้องพิจารณากันถึงหนังสือขอเลื่อนดังกล่าวว่า เนื้อหาเป็นอย่างไร มีเหตุผลอะไรในการขอเลื่อน เมื่อกรรมการลงมติกันแล้ว ก็จะแจ้งให้ลูกศิษย์ของพระวิรพลได้ทราบต่อไป
ส่วน นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรมศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า ตอนนี้ทางหลวงพ่อปานขาวได้มีดำริที่จะจัดตั้งโครงการกองทุน เพื่อที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโกขึ้น โดยสืบเนื่องมาจาก หลวงพ่อปานขาว ท่านเห็นว่ากระแสสังคมในขณะนี้เกิดความเข้าใจในตัวหลวงปู่เณรคำ ค่อนข้างสับสน ทำให้ชาวพุทธที่ปฏิบัติธรรมรู้สึกผิดหวัง จึงได้จัดตั้งกองทุนกอบกู้ชื่อเสียงหลวงปู่เณรคำขึ้นมา
ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรมศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนนี้จะมี หลวงพ่อปานขาวเป็นประธานในคณะดำเนินงานนอกจากนั้นยังมีทั้งฝ่ายการเงินและ ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดำเนินการด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นกอนทุนรักษาชื่อเสียงให้หลวงปู่เณรคำ และเป็นกองทุนในการจัด สร้างสื่อธรรมมะ สร้างสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุตลอดจนหนังสือพิมพ์ โดยจะมีการดูแลทุกชิ้นงานสื่อ ที่จะออกไปเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพุทธศาสนิกชน เกี่ยวกับการเผยแพร่ธรรมะของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก
นายสุขุม กล่าวอีกว่า เงินกองทุนเพื่อที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำนี้ นอกจากจะนำไปผลิตสื่อต่างๆ แล้วหลัง จากเสร็จสิ้นงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ทางลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ก็จะนำกองทุนนี้ไปประสานงาน และติดต่อกับนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุดที่อยู่ในประเทศไทย และมีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อมาทำหน้าที่ในด้านกฎหมายในการปกป้องและกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำอีกด้วย
ส่วน นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรมศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า ตอนนี้ทางหลวงพ่อปานขาวได้มีดำริที่จะจัดตั้งโครงการกองทุน เพื่อที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโกขึ้น โดยสืบเนื่องมาจาก หลวงพ่อปานขาว ท่านเห็นว่ากระแสสังคมในขณะนี้เกิดความเข้าใจในตัวหลวงปู่เณรคำ ค่อนข้างสับสน ทำให้ชาวพุทธที่ปฏิบัติธรรมรู้สึกผิดหวัง จึงได้จัดตั้งกองทุนกอบกู้ชื่อเสียงหลวงปู่เณรคำขึ้นมา
ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรมศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวต่อว่า สำหรับกองทุนนี้จะมี หลวงพ่อปานขาวเป็นประธานในคณะดำเนินงานนอกจากนั้นยังมีทั้งฝ่ายการเงินและ ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดำเนินการด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นกอนทุนรักษาชื่อเสียงให้หลวงปู่เณรคำ และเป็นกองทุนในการจัด สร้างสื่อธรรมมะ สร้างสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุตลอดจนหนังสือพิมพ์ โดยจะมีการดูแลทุกชิ้นงานสื่อ ที่จะออกไปเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพุทธศาสนิกชน เกี่ยวกับการเผยแพร่ธรรมะของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก
นายสุขุม กล่าวอีกว่า เงินกองทุนเพื่อที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำนี้ นอกจากจะนำไปผลิตสื่อต่างๆ แล้วหลัง จากเสร็จสิ้นงานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ทางลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ ก็จะนำกองทุนนี้ไปประสานงาน และติดต่อกับนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงที่สุดที่อยู่ในประเทศไทย และมีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อมาทำหน้าที่ในด้านกฎหมายในการปกป้องและกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำอีกด้วย
ส่วนบรรยากาศในวัดป่าขันติธรรม เช้าวันนี้ก็ได้มีคณะศิษยานุศิษย์ อุบาสกอุบาสิกาจำนวนประมาณ 250 คน จัดเตรียมข้าวสารอาหารแห้งมาใส่บาตรพระสงฆ์ที่มาร่วมงานพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระ แก้วมรกตจำลองก็ถือว่ายังมากันน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับทุกงานของวัดป่าขันติธรรมที่ผ่านมา ช่วงบ่ายของวันนี้หลวงพ่อปานขาว ได้ออกมานั่งเทศนาธรรมให้ญาติโยม พุทธศาสนิกชน อุบาสกอุบาสิกา ที่เข้ามาบวชชีพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาวได้ฟัง โดยมีผู้ใฝ่ในธรรมนั่งฟังพระธรรมเทศนาอยู่ประมาณ 300 คน
ข่าว : ไทยรัฐ
30 มิถุนายน 2556
ระยะทาวพิสูจน์ม้า การเวลาพิสูจน์คน
ตอบลบ