"ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยรัตนโกสินทร์" ให้กลับไปสู่ยุค "พระมหาธรรมราชา" แห่งกรุงศรีอยุธยา
BURMAR IN THAILAND !
เมื่อโลกหมุนกลับ นับเป็นประวัติศาสตร์
ยังจำได้ไหม ในปี พ.ศ.2499 ตอนนั้นรัฐบาลพม่าได้เปิดโครงการฉลอง 25 พุทธศตวรรษ จัดทำสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นที่มหานครย่างกุ้ง โดยเชิญพระสงฆ์จากทุกประเทศไปร่วมงาน แต่รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยในสมัยนั้น กลับเห็นว่า "พม่าทำเกินตัว คืออวดดี อวดเก่ง" เพราะตัวเองเพิ่งได้รับเอกราชจากอังกฤษได้ไม่นาน ขณะที่ไทยนั้นไม่เคยเสียเมืองให้ใครเลยในประวัติศาสตร์ชาติไทย (แต่ประวัติศาสตร์โลกแล้วเขาบันทึกว่าไทยเคยเป็นเมืองขึ้นของพม่าหลายสมัย) ดังนั้น รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยสมัยนั้นจึงเห็นว่า "ไม่สมควรส่งตัวแทนไปร่วมงาน เพราะจะเป็นการเสียเกียรติอย่างยิ่ง" แต่พระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กลับเห็นตรงกันข้าม ที่ประชุมมหาเถรสมาคมเลยประชดว่า "เมื่อเจ้าคุณอาจเห็นดีกับพม่า ก็ให้เจ้าคุณอาจไปเสียเอง" และงานนั้นเห็นว่า พุทธทาสภิกขุ ก็ไปร่วมด้วย และต่อมา การไปพม่าของพระพิมลธรรมก็กลายเป็นประเด็นทางการเมือง หาเรื่องหาราวเอาพระพิมลธรรมเข้าคุกเข้าตารางนานถึง 5 ปี นี่ก็คือประวัติศาสตร์
นับตั้งแต่นั้นมา (พ.ศ.2500-2550) แม้ว่าพม่าจะเคยให้ปริญญาแก่พระไทยหลายรูป แต่พระไทยก็เห็นเป็นเพียง "ปริญญาชั้นสาม" ไม่นิยมยกย่องหรือเอาออกนอกหน้า ปริญญาจากพม่าจึงมีค่าพอๆ กับปริญญามหาวิทยาลัยห้องแถวในสายตาของคนไทย พระสงฆ์ไทยสมัยนั้นต้องแอบบินไปรับปริญญาจากพม่าเป็นการส่วน ได้มาแล้วก็เอาเก็บไว้ในกุฏิ อย่านับถึงว่าจะฉลองอะไรให้เอิกเกริกเลย
แต่สมัยนี้โลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว ถึงขนาดประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ไทย ฯลฯ ต่างแย่งซีนกันบินเข้าพม่าเป็นว่าเล่น และเล่นกันถึงขนาด สหรัฐอเมริกาเชิญประธานาธิบดีพม่าเดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ พม่าจึงเนื้อหอมสุดๆ ใน พ.ศ. นี้
และวันนี้ ก็เกิดค่านิยมใหม่ขึ้นในวงการสงฆ์ไทยเราแล้ว เมื่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้รับการยกย่องจากรัฐบาลพม่า ถวายอัครบัณฑิตมหาบัณฑิต สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ก็สร้างปรากฎการณ์ใหม่ "จัดพิธีรับมอบและฉลองอย่างยิ่งใหญ่" ขึ้นที่วัดพิชยญาติการาม ในประเทศไทย แถมคณะกรรมการมหาเถรสมาคมก็พร้อมเพรียงเรียงหน้า ไปแสดงความยินดีที่พระไทยได้รับปริญญาจากพม่า
จึงนับว่าเป็นการหมุนกงล้อ "ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยรัตนโกสินทร์" ให้กลับไปสู่ยุค "พระมหาธรรมราชา" แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ว่า เมืองไทยได้กลายเป็นเมืองขึ้นของพม่าอีกยุคหนึ่งแล้ว ในยุคพระมหาธรรมราชานั้น เป็นยุคพม่าปกครองไทยด้วยกำลัง ถึงกับต้องเอาพระองค์ดำหรือพระนเรศไปเป็นประกันไว้ที่หงสาวดี แต่ปัจจุบันวันนี้ไทยได้กลายเป็นเมืองขึ้นของพม่าในรูปแบบใหม่ คือ เป็นทาสทางปัญญา เพราะว่าไทยต้องส่งพระสงฆ์ไปศึกษาวิปัสสนาจากพม่า แล้วกลับมาเป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนพระสงฆ์ไทยในรุ่นต่อๆ ไป ส่วนไอ้ที่เคยดูถูกพม่าไว้ในปี 2500 นั้น ก็ลืมๆ กันไป เพราะคนที่พูดก็ตายไปหมดแล้ว จริงไหมครับท่านสมเด็จฯสมศักดิ์
รวมภาพพิธีรับและฉลองอัครมหาบัณฑิต
ของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร
1 มิถุนายน 2556
พิธีประกาศสดุดีเกียรติคุณ อัครมหาบัณฑิต สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (อุปสมมหาเถร) ณ มณฑลพิธี วัดพิชยญาติการาม
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เวลา 15.30 น. ณ มณฑลพิธี วัดพิชยญาติการาม กรุงเทพมหานคร นายอำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมในพิธีถวายสดุดีเกียรติคุณอัครมหาบัณฑิต และอ่านสารสดุดีเกียรติคุณว่า
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เป็นพระมหาเถระที่ได้ดำเนินการจัดการศึกษาบาลีพระไตรปิฎกจัดทำเป็นหลักสูตรภาษาบาลีในระดับมหาวิทยาลัย ได้พัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย จัดทำหลักสูตรการปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาและได้จัดส่งพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เข้าปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา 7 เดือน ณ สำนักวิปัสสนามหาสี ประเทศสหภาพเมียนมาร์ นอกจากนั้น ยังได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากสำนักวิปัสสนามหาสี โดยได้ส่งคณะพระวิปัสสนาจารย์เป็นอาจารย์สอนและสอบอารมณ์วิปัสสนากรรมฐาน นิสิตหลักสูตรปริญญาโท วิปัสสนาภาวนา ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมโมลีประเทศไทย ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2552 เป็นต้นมา นับว่าเป็นพระมหาเถระที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศทางด้านศาสนาและวัฒนาธรรม จัดเป็นสมณทูตที่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อรัฐบาลแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้มอบถวายตำแหน่งอัครมหาบัณฑิต แด่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (อุปสมมหาเถร) คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2556 ณ มหาสาสนวิมาน อุปปาตสันติเจดีย์ กรุงเนปิดอว์ ประเทศสหภาพเมียนมาร์ คณะสงฆ์โดยการนำของพระพรหมดิลก กรรมการเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และศิษยานุศิลย์ ได้ปรารภจัดงานแสดงมุทิตาสักการะถวายในวันที่ 1 มิถุนายน 2556 นี้ ในนามสำนักงานพระพุทธสานาแห่งชาติ ขอชื่นชมแสดงปีติโสมนัสน้อมนำถวายเป็นมุทิตาจิต แด่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง จากนั้น สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ประทานของที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมงาน นายพนม ศรศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้าร่วมพิธีด้วย
ข่าว : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
05 มิถุนายน 2556
เราชาวพุทธทั้งหลายจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้ ต้องช่วยกันตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายด้านความมั่นคงของชาติ
ศึกษาข้อมูล วิทยานิพนธ์ด้านความมั่นคงสถาบันพระศาสนา ในประวัติศาสตร์ ได้ที่https://docs.google.com/file/d/0B_nOh0gPsWNSUkVWRG9aQ3pkbmc/edit
ช่วยแบ่งปันได้เพื่อสร้างบุญบารมี ถวายสมเด็จพระสังฆราช ครับ
นับเป็นภัยอันยิ่งใหญ่ ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นอย่างมาก เราชาวพุทธทั้งหลายจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้
นับเป็นภัยอันยิ่งใหญ่ ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
เป็นอย่างมาก ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ http://www.oknation.net/blog/buddhacore/2012/04/04/entry-1เราชาวพุทธทั้งหลายจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้ ต้องช่วยกันตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายด้านความมั่นคงของชาติ
ศึกษาข้อมูล วิทยานิพนธ์ด้านความมั่นคงสถาบันพระศาสนา ในประวัติศาสตร์ ได้ที่https://docs.google.com/file/d/0B_nOh0gPsWNSUkVWRG9aQ3pkbmc/edit
ช่วยแบ่งปันได้เพื่อสร้างบุญบารมี ถวายสมเด็จพระสังฆราช ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ