ลองของ สตง.  ! เสนาะส่ง "ชายชุดดำ" ร่วมตรวจบัญชี

ลองของ สตง.  !

เสนาะส่ง "ชายชุดดำ" ร่วมตรวจบัญชี

ยืนแยกเขี้ยวอยู่เบื้องหลัง

เล่นเอาเจ้าหน้าที่เสียวสันหลัง

กลัวไม่ได้กลับบ้าน !

 

 

เผาหลายรอบ

 

อา..งานพระราชทานเพลิงศพ "สมเด็จพระพุฒาจารย์" อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งก็มีอำนาจ "เสมอ" ด้วยพระสังฆราช เพียงแต่มิได้สถาปนาเป็นพระสังฆราช ณ บัดนี้ ได้กลายเป็นสงครามกลางวัดยืดเยื้อยาวนาน เป็นหนังเรื่องยาวระดับ "ปิดกล้องไม่ลง" เพราะฝีมือผู้กำกับจอมลีลาฉายา "ปญฺญาวชิโร"ปากก็บอก "อยากจบไวๆ" แต่ลับหลังก็ "ออกอาวุธ" ตลอด ตอดนิดตอดหน่อย สมเด็จวัดปากน้ำ "เข้ามาห้ามมวย" ก็แค่เอาไม้เท้ากัน เผลอวันไหนรับรอง "สองพรหม" ขย้ำกันอีกแน่ แถมยังได้หุ้นส่วนใหม่ "ดีเอสไอ-สตง." เข้ามาถ่ายทำร่วม ซึ่งแต่ละหุ้นส่วนนั้นก็ต้องใช้เวลา "ข้ามเดือนข้ามปี" จึงจะตัดต่อหนังเสร็จ แต่กว่า "ทั้งหมดทั้งปวง" จะเสร็จสิ้น "เกียรติยศ-เกียรติภูมิ" ของสำนักวัดสระเกศ นับตั้งแต่สมัยสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) จนถึง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ก็ถูกขุดขึ้นมาเผาจนไม่เหลือ มิน่า เสนาะถึงไม่ยอมให้ "กรมศิลปากร" จัดทำ "จดหมายเหตุงานศพสมเด็จเกี่ยว" สงสัยจะกลัว "บันทึกประวัติเสนาะและสวนกล้วยไม้ร่มวรีย์" เข้าไปด้วย

 

 

อภิชาตบุตรของสมเด็จเกี่ยว
ฝากฝังไว้ก่อนตาย "ให้เสนาะๆ" เป็นเจ้าอาวาส

 

สตง. ตรวจเงิน 67 ล้าน งานศพสมเด็จเกี่ยว

วันนี้ (17 ธ.ค.) นายชัยธนพล ศรีจิวังษา ผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ( อพช.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษพระพรหมสุธี เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ เจ้าคุณเสนาะ ส่อมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ โดยใช้อำนาจในทางมิชอบเอื้อประโยชน์กับเครือญาติ รวมถึงส่อทุจริตงบประมาณแผ่นดินในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยวอุปเสโณ) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ นั้น ทราบว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษแล้ว นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่า ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้มีหนังสือถึงพระพรหมสุธี เรื่องการตรวจสอบเงินอุดหนุนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่ใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ จำนวน 67 ล้านบาท ด้วย โดย สตง.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเงินอุดหนุนดังกล่าวที่วัดสระเกศฯแล้ว

“ผมจะรอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และ สตง. รวบรวมข้อมูลหลักฐาน และรอฟังผลการสอบสวนก่อน แต่หากเรื่องเงียบหายไป ผมก็จะดำเนินการประสานความคืบหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง” นายชัยธนพลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ.0038/6047 ลงนามโดย นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นมัสการ ถึงเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เรื่อง การตรวจสอบเงินอุดหนุนของ พศ. โดยเนื้อความระบุว่า เพื่อประโยชน์การตรวจสอบการอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556-2557ของพศ.ให้กับวัดสระเกศฯ ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 39 ซึ่งกำหนดให้ สตง. มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบรายรับรายจ่ายเงินหรือ เงินอุดหนุนที่ได้รับจากหน่วยรับตรวจไปอย่างถูกต้อง และแสดงความเห็นว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์สตง.จึงขอแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสตง.เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้ว่าที่ ร.ต.จุฑา แก้วสีนวล นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษ นายฐวรรธน์ ธนสารสุรพงศ์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ และนายธีรวิทย์ นัดวิไล นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินปฏิบัติการ สตง.จึงขอนมัสการโปรดแจ้งผู้เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกและสั่งการให้ส่งมอบ เอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการตรวจสอบจนว่าจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้อยู่ในการควบคุมกำกับดูแลของนายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผอ.สำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางวัดสระเกศฯแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ สตง.ได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบเอกสารกับทางเจ้าอาวาสแล้ว ปรากฏว่า มีกลุ่มชายชุดดำมาเฝ้าติดตามเจ้าหน้าที่ สตง. และยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องการเปิดเผยบัญชีรายรับรายจ่ายเกี่ยวกับเงินพระราชทานเพลิงศพ นอกจากนี้ในส่วนของจดหมายเหตุงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้วัดและกรมศิลปากร ดำเนินการปรากฏว่า ไม่ได้รับการอนุมัติจากเจ้าอาวาสให้ดำเนินการต่อ ทั้งที่ในแผนงบประมาณที่รัฐบาลให้มานั้น ต้องมีการจัดทำจดหมายเหตุงานดังกล่าวด้วย

ที่มา : เดลินิวส์
18 ธันวาคม 2557

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ