นายกแก้ปัญหาทั้งระบบเพื่อความยั่งยืนของชาติไทย

วันนี้มีหลายพวก ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจทหาร ประชาชน นักธุรกิจ พ่อค้า หลายคนหลายพวกนะครับ ก็ฟังทั้งหมด ต้องช่วยกัน ใครมีส่วนร่วม มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องของการปฏิรูป ต้องเข้ามานะครับ เข้ามาแล้วเสนอมา 

28 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.15 น. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ซึ่งออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้

สวัสดีครับ วันนี้ก็ถือเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งนะครับ เป็นการพูดคุยเล่าสู่กันฟังแล้วกัน สบายๆ นะฮะ เพราะว่าเราก็ทำงานมาเยอะกัน มาหลายวันแล้วนะครับ ในเรื่องของการประชุมบ้าง ในการไปพบปะกับหลายๆ หน่วยงานที่มีการจัดงานภายนอกบ้านเดี๋ยวเกรงว่าฟังผมบ่อยๆ แล้วก็จะรำคาญเสียเปล่าๆ วันนี้ ก็จะมาพูดเล่าให้ฟังใช้เวลาน้อยๆ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะเราพูดกันมานานแล้วว่าเราจะรักษาบรรยากาศการปฏิรูป ก่อนการประชุม ครม. ในวันนี้นั้น ก็ได้มีการพบกับ อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณะสุข ก็ได้มีนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันปัญหาโรคเอดส์ ซึ่งเราได้รับคำชมเชยเป็นที่น่ายินดี จากผู้อำนวยการองค์กรโลก โรคเอดส์ ของ ยูเอ็น ท่านประธานท่านมาเองเมื่อเดือนที่แล้ว แล้วก็มาชื่นชมประเทศไทยว่า เหมาะสมที่จะเป็นตัวอย่างได้แล้วก็เป็นศูนย์กลางการแก้ปัญหาโรคเอดส์ ในภูมิภาคด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ได้ แล้วในโอกาสต่อไปก็คงเป็นของโลกด้วย เพราะเราแก้ปัญหาทั้งระบบนะครับ ทั้งในเด็ก ทั้งในผู้ใหญ่ แล้วก็ในส่วนของการรณรงค์การใช้โรคเอดส์ ที่เกี่ยวกับการรณรงค์การใช้เข็มสะอาดนะครับซึ่งเป็นการริเริ่มของกระทรวงสาธารณะสุข ดำเนินการมานานแล้ว

ผมนับว่า เป็นสิ่งที่ดีของประเทศไทยนะครับ ว่าทำอย่างไร เราจะมีคนติดโรคเอดส์ น้อยลง หรือในอนาคต ในอีก 25 ปี ข้างหน้า จะต้องไม่มีอีกเลย เราก็ได้รับความไว้วางใจในเรื่องนี้นะครับก็มีทั้งนักวิชาการทั้ง หมอ ทั้งนักแสดงต่างๆ มาร่วมด้วย ผมถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างกันนะครับ ก็เตือนๆ กันไปแล้ว ระมัดระวังโรคเอดส์ นี่มันอันตราย วันนี้โรคเอดส์ เราควบคุมได้ โรคซาร์ เราพอได้ มาแล้วนะครับ ตอนนี้ก็เหลือโรค อีโบล่า ก็เป็นที่น่ายินดีอีกเหมือนกันนะครับที่มีข่าวว่ามีบุคคลที่อยู่ในการควบคุมนั้น ได้ออกมาจากสถานควบคุม วันนี้ก็ได้พบแล้ว ตรวจสอบแล้ว ไม่ได้ติดเชื้ออะไร ก็เป็นการเดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของ อีโบล่า นะครับ

ในส่วนของการทำงานในปัจจุบันนั้น ผมอยากจะกราบเรียนว่าเราอยากจะรับฟังความเห็นของทุกพวกทุกกลุ่มนะครับ ในเรื่องของการปฏิรูป ในเรื่องของการทำงาน มีหลายท่านนะครับทั้ง อดีตผู้นำรัฐบาล ทั้งในส่วนของนักวิชาการนักศึกษา ก็ออกมาพูดในทำนองว่าขอให้เรารับฟังความคิดเห็น ของคนในทุกระดับบ้างก็ทำอยู่แล้วนะ วันนี้รับฟังจนเยอะไปหมดเลยนะครับก็เพียงแต่ว่าขออย่าให้มีการต่อต้านการทำงานของรัฐบาล และของ คสช. เลย หากว่าท่านจะรวมกลุ่มกันแล้วก็สรุปผลการประชุมมาสรุปข้อคิดเห็นมาส่งมาที่เราก็ได้ ส่งไปที่ กกต. ก็ได้ ส่งไปที่สภาปฏิรูปก็ได้ผมรับทุกช่องทางนะครับ ขอให้สรุปมา วันนี้ก็มีหลายประการที่รับมาแล้วเช่น กรพูดคุยที่ธรรมศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ เราก็รับเข้ามานะครับ ฟังดูแล้วก็น่าจะมีเหตุผลดีพอสมควรนะครับ ประเด็นก็คือว่า ไม่ว่าใครจะเสนอมารับทั้งหมดนะ กลุ่มไหนก็ตามรับหมด แต่เข้าช่องทางซะ ถ้าไปพูดแล้วสร้างความขัดแย้ง มันเดินไปไม่ได้ เราไม่ได้กำจัดศัตรู เราไม่มีศัตรู แล้วก็ไม่ได้จะตัดสิทธิ์ของใครเลยนะ สถานการณ์ในวันนี้ผมคิดว่า เราต้องเดินหน้าประเทศ พูดหลายครั้งแล้วว่าเราต้องเดินหน้าประเทศไปสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืนในอนาคต วางพื้นฐานประเทศ เพราะงั้นถ้าเราจะถอยหลังกลับไปหลัง ก่อน 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา มันก็ถอยไปไม่ได้ วันนี้เรามีแต่เดินหน้ากันอย่างเดียวนะ ทุกคนต้องช่วยกันทั้ง คสช. ทั้งรัฐบาล ทั้งภาคประชาชน นิสิตนักศึกษาต้องช่วยกันนะครับ เคารพซึ่งกันและกัน

วันนี้มีหลายพวก ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจทหาร ประชาชน นักธุรกิจ พ่อค้า หลายคนหลายพวกนะครับ ก็ฟังทั้งหมด ต้องช่วยกัน ใครมีส่วนร่วม มีส่วนได้ส่วนเสีย ในเรื่องของการปฏิรูป ต้องเข้ามานะครับ เข้ามาแล้วเสนอมา แต่ก็ขอให้มีพื้นฐาน มีแนวทางมีหลักการบ้าง ถ้าคิดตามใจชอบนี่มันไปไม่ได้

วันนี้ก็บอกแล้ว บอกให้ไปเอาข้อเสนอแนะต่างๆ มา เอาหลักการของต่างประเทศมา ประเทศโน้น ประเทศนี้ เขามีการดำเนินการทางด้านการเมืองอย่างไร การบริหารประเทศ ที่ใช้ระบบรัฐสภาเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยในสิ่งที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร

ในเรื่องของการตรวจสอบการทุจริต การโปร่งใส หรือการใช้จ่ายงบประมาณก็ไปว่ากันอีกขั้นตอนหนึ่งนะครับ มันต้องพูดให้ครบตั้งแต่ตอนเริ่มต้น การควบคุม การใช้จ่าย การตรวจสอบความสุจริตอะไรต่างๆ เหล่านี้ไปว่ามา แต่ถ้าทั้งหมดมาพันกันในเวลาเดียว มันเดินไม่ได้ หาข้อยุติไม่ได้ ก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ

วันนี้มีคนเห็นต่างกันมากมาย เพราะงั้นต่างคนต่างทำบทบาทของตัวเองให้ดีที่สุดก็แล้วกัน คสช. ก็จะกำหนดบทบาทตัวเองชัดเจน รัฐบาลก็จะเกื้อกูลในการปฏิรูปให้ได้ โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด

ในเรื่องของการประชุม ครม.นั้น วันนี้มีการประชุมนาน ตั้งแต่ 09:00 น. มั้ง แล้วก็ไปเสร็จเกือบบ่ายโมง ประมาณบ่ายโมงนะครับ ทานอาหารนิดหนึ่งเดี๋ยวก็มีการประชุมต่ออีกแล้ว เป็นการประชุม BOI ที่ผ่านมา มีหลายเรื่องที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขนะครับ ตามยุทธศาสตร์ระยะยาว 7 ปี เราบอกแล้วว่าประเทศเราต้องเดินหน้า อย่างน้อยก็ 5 ปี 10 ปี วันนี้เรามีตามแผนเก่าอยู่เข้าปีที่ 2 ใช่ไหม เราเหลืออีก 2 ปี แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าก็อีก 2 แผนพัฒนา ทำยังไงจะสอดคล้อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องของรัฐบาลต่อไปจะดำเนินการนะครับ ถ้าหากว่ามันถึงเวลานั้น ถ้าเราไม่วางวันนี้ไว้ วันหน้าก็ไปไม่ได้

วันนี้การประชุม ครม. ที่ว่ายาวนั้นเพราะมีการประชุมวาระปกติถึง 28 วาระด้วยกัน 28 วาระนี่ก็แถลงกันนานพอสมควร หลายๆ ประเด็น กลุ่มงานวันนี้ก็มืทั้งกลุ่มงานความมันคง ในเรื่องของสังคมจิตวิทยา ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ในเรื่องของการปฏิรูป เหล่านี้ต้องเข้าสู้กระบวนการขับเคลื่อนการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง วันนี้มี 28 วาระ เร่งด่วนอีก 11 วาระ ก็สามสิบกว่าวาระนะ ถกแถลงก็ใช้เวลานานพอสมควรนะครับ

ประเด็นสำคัญก็คือการหารือกันในเรื่องการปฏิรูปว่าจะทำยังไงเราจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างเหมาะสมแล้วก็ทันเวลา แล้วก็อะไรที่สำคัญก่อน สำคัญหลัง วันนี่ก็ตกลงกันว่าถ้าเราจะมีการเลือกตั้งกันในระยะเวลาอันใกล้ จะต้องทำอะไรบ้าง

ก็คือการสร้างกระบวนการในการเข้ามาสู่การบริหารราชการแผ่นดิน แล้วก็ในการบริหารราชการจะทำกันยังไง แล้วทำให้ข้าราชการฝ่ายบริหาร มีความสมดุลกันกับข้าราชการ ที่ต้องทำงานตามกรอบระเบียบของกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วเดิม ว่าจะทำยังไง มันไม่เกิดความขัดแย้งกัน คือถ้าเราบอกว่าข้าราชการทำได้ ไม่ต้องเชื่อฟังคำสั่งฝ่ายบริหารมันก็ไม่ถูก มันต้องสมดุลกันทั้งคู่ รับฟังซึ่งกัน และกัน มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาว่ามีความขัดแย้ง แล้วก็มีการก้าวล่วงซึ่งกันและกัน

ในส่วนของกระบวนการบริหาร และนิติบัญญัตินี่ จะทำกันยังไง ไม่ให้มีการทับซ้อน อีกเรื่องคือเรื่องของกระบวนการตุลาการจะทำยังไง อย่าใช้เครื่องมือเหล่านี้ ซึ่งเป็นการ อำนาจ 3 อำนาจมาพันกันไปพันกันมา ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วยในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ก็เคยเรียนมาหลายครั้งแล้วว่า ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็มีแผนงานบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ต่อเป็นภาพที่ครบวงจร วันนี้ผมให้แนวทางไป แล้วไปคิดมา ตั้งแต่สมัยที่เรามีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำใหม่แห่งชาติทั้งระบบ

โดย คสช. วันนี้ผมก็ให้เขานำมาเสนอ ซึ่งมีท่าน พลเอกฉัตรชัย เป็นหัวหน้า เขาทำมาตั้งแต่ คสช. แล้วล่ะ วันนี้ทำมาให้ ครม. รับทราบ เราจะพูดถึงว่าต้นทุนน้ำนี่มาจากไหน ยังไง มีต้นทุนน้ำจาก น้ำฝนใช่ไหม? ปริมาณน้ำจากน้ำฝนนั่นแหละที่ล้นไปท่วม ในช่วงหน้าฝนที่มีน้ำมากๆ เราจะทำยังไง นี่คือน้ำต้นทุนต้องเก็บไว้ให้มากที่สุด เพราะงั้นการสร้างอ่างเก็บน้ำอะไรก็แล้วแต่จะต้องชัดเจน ตั้งแต่พื้นที่ตอนเหนือ ตอนกลาง แล้วก็พื้นที่ท้ายน้ำนะครับจะขยายกันอย่างไร ทั้งเก็บน้ำ แล้วก็ระบายน้ำให้ได้ พร่องน้ำให้เร็ว เราเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ไม่ใช่ว่าพอน้ำมา ปล่อยไปทีเดียว พรืดเดียวก็หมดกลัวน้ำท่วมอย่างเดียวไม่ได้ ต้องวางแผนให้มันทีเดียว ทั้งป้องกันภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วมด้วย เพราะปัญหาบ้านเรานั้นยังมีพื้นที่อีกมากมายที่มีปัญหาเรื่องการใช้น้ำนี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้เรามีพื้นที่การเกษตร ที่เราสามารถจัดส่งน้ำนี่ไปได้จำนวนหนึ่งเท่านั้นเอง อีกจำนวนมากซึ่งเราส่งไม่ได้ ถ้าส่งไม่ได้ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชให้เหมาะกับสภาพดิน สภาพน้ำ หรือปริมาณน้ำที่มีอยู่ สภาพอากาศ ก็ต้องกำหนด โซนนิ่ง ในวันข้างหน้าด้วย

ถ้าเราแก้ทั้งระบบนี่ เรื่องน้ำ เรื่องการ โซนนิ่ง ไปด้วยกัน จะแก้ได้ แต่วันนี้ผมบอกว่าไปกำหนดความเร่งด่วนมาซิว่า เราจะทำอันไหนก่อน อันไหนหลัง ตั้งแต่ต้นน้ำ เก็บกักน้ำ เส้นทางที่จะลำเลียงน้ำมาทำยังไง แล้วจะพร่องน้ำเหล่านี้ยังไง แล้วเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้ง อันนี้เป็นแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่แล้ว ท่านทรงสั่งไว้นานแล้วล่ะ เรื่องแก้มลิงบ้าง เรื่องอ่างเก็บน้ำ อ่างพวง เรื่องเขื่อนอะไรต่างๆ ยังไม่เคยมีใครพูดถึงเลยนะ ที่ไปถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่มีใครคิดจะสร้างกันทั้งสิ้นเลยนะ เป็นโครงการเก่าๆ ก็อย่าไปล้วงแคะแกะเกากันออกมาอีก ถ้าทำได้ก็ทำ ถ้าทำไม่ได้ก็ทำอย่างอื่น

วันนี้อาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำไป ถ้าต้องไปทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งประชาชนเขาคงไม่ยอมตรงนี้ แต่ทำอย่างไรเขาจะได้มีน้ำไว้ใช้ เพราะงั้นประชาชนก็ต้องเข้าใจเราเหมือนกันว่าต้องหาทางออกซิว่าจะทำยังไง ทำเขื่อนไม่ได้ จะทำอ่างเก็บน้ำได้ไหม?แล้วจะช่วยกันดูแลยังไง ในอนาคตระยะยาว

ในส่วนของน้ำนี้เคยมีโครงการบริหารจัดการน้ำแล้วนะครับ ตัวเลขเดิมๆ ทราบอยู่แล้วผมไม่อยากจะเอ่ยจำนวนตัวเลข วันนี้เราไม่พูดถึงตัวเลขกัน จริงๆ แล้วก็ประมาณการไว้คร่าวๆ ก็ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร อาจจะต้องใช้ระยะเวลาถึง10 ปีถ้าจะทำครบนะ ใช้งบประมาณสูงมาก

แต่เราก็พยายามจะใช้งบประมาณประจำปี ปีนี้ ปี’58 บางส่วนเราบรรจุ ใช้งบประมาณปี ‘58 ดำเนินการ จะเริ่มดำเนินการได้เลย อันนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นเอง น้อยมาก ในแผนงานจัดการภาพใหญ่นะครับ แต่อย่างน้อย ก็จะบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชนไปได้ในระดับหนึ่งนะครับ ในบางพื้นที่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาน้ำแล้ง การใช้อุปโภค บริโภค แหล่งน้ำประปา หรือไม่ก็เปลี่ยนไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ในระยะเวลาสั้น ถ้าทำนาปรังไม่ได้ วันนี้เราก็ทำนาปรังไม่ได้ตั้งเยอะ หลายพื้นที่ด้วนกันนะครับ ในส่วนนี้ก็คงต้องใช้งบประมาณประจำปี ถ้จะต้องไปหางบประมาณอื่นๆ มา ร่วมทุน หรือกู้เงินต่างๆ ไปว่ากันอีกทีนะครับ ก็ต้องพิจารณากันให้ละเอียดอีกครั้ง ว่าเราพร้อมจะรับสถานการณ์ในการกู้ต่างๆ หรือไม่ในอนาคต เรื่องหนี้สาธารณะด้วย

ในเรื่องของความเหลื่อมล้ำวันนี้ก็มีกฎหมายหลายฉบับที่เข้ามาในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนนี้ กระทรวงยุติธรรม ก็มีการเสนอตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้นมา เคยกราบเรียนไปแล้วว่าทำยังไง คนที่มีรายได้น้อย หรือคนที่มีปัญหาเรื่องทางกฎหมาย เข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม ก็จะตั้งกองทุนนี้ไว้ให้นะครับ ก็คงจะต้องจัดหาเม็ดเงินเข้าไปเติม ต้องดูงบประมาณว่าจะเอาเงินที่ไหนมาดี เอาใส่เข้าไปแล้วก็ไปเป็นการต่อสู้คดีความอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ หลักการอนุมัติไปแล้ว เดี๋ยวคงต้องไปทำเรื่องกฎหมาย เรื่องงบประมาณต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง ก็จะทำให้โดยเร็วนะครับ

ในเรื่องของการลงทุนทางด้านการค้า เราก็คิดกันว่า ถ้ารัฐจะต้องลงทุนต่อไปในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องของการสื่อสาร การคมนาคม อะไรต่างๆ เหล่านี้ ถ้ารัฐอย่างเดียวไม่ทันเวลา อาจจะต้องมีการตั้งกองทุน กองทุนเกี่ยวกับสื่อสาร เกี่ยวกับพลังงาน ซึ่งมีอยู่บ้างแล้ว ทีนี้ทำยังไงจะเพิ่มมากขึ้น ทำยังไง ประชาชนจะมีส่วนร่วม ผมว่าคนมีสตางค์ประเทศไทยก็เยอะนะ ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าตั้งกองทุนแบบนี้ขึ้นมา ก็ต้องมีผลประโยชน์ตอบแทน ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงพอสมควร อาจจะสูงกว่าการไปกู้จากสถาบันการเงินอื่นๆ ก็ต้องไปทบทวนอีกที แต่ยังไงก็เริ่มแน่นอน มีอยู่บ้างแล้วแต่จำนวนไม่มากนัก.. อันนี้เป็นเรื่องของการลงทุนนะครับ

ในส่วนของการส่งเสริมธุรกิจนี่ วันนี้เราจำเป็นต้องส่งเสริมทั้งในส่วนของระดับชาติ ในระดับต่างประเทศด้วย แล้วก็ภายในประเทศด้วย ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เคยกราบเรียนไปแล้วในเรื่องของธุรกิจ SME ต้องให้ความสำคัญนะครับ เรามีถึงเป็นล้านๆ แห่ง เป็นธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง เราต้องส่งเสริมให้จากขนาดเล็กเป็นกลาง กลางเป็นขนาดใหญ่ขึ้น เราตั้งกองทุนแล้วขณะนี้ก็กำลังปรับแก้คณะกรรมการต่างๆ แล้วก็ปรับแก้กองทุนต่างๆ ว่าจะโยกงบไหนมาใส่ตรงนี้ได้บ้างไหม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เป็นกองทุน ในการที่จะขยายธุรกิจต่างๆ ก็ขอความร่วมมือนะครับ พี่น้องที่ประกอบการธุรกิจร้านค้าขนาดเล็กนี่ หลายประเภทนะ 6-7 ประเภท การเกษตรก็มี ในเรื่องของการบริการก็มีนะครับ คงต้องไปหาช่องทางที่เข้าหากองทุนเหล่านี้ได้ วันนี้ก็มีสมาคมการค้า กับอุตสาหกรรมอยู่แล้วนะ ก็ลองไปติดต่อจากทางโน้นเข้ามานะครับ เรามีการประชุมร่วมกันของ กรอ. วันนี้ก็อยากกราบเรียนอย่างนั้นก่อนนะครับ 

เรื่องการสร้างแบรนด์ในประเทศ ผมคิดว่ามีความสำคัญนะ ถ้าเราไม่คิดแบรนด์ อะไรใหม่ๆ เลย จะเป็นปัญหาแน่ในอนาคตนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสมุนไพร เกี่ยวกับเรื่องผลิตผลทางการเกษตร ทำยังไงให้มูลค่าสูง ผมยกตัวอย่าง วันนี้ก็คุยกัน เอ๊ะ ง่ายๆ นะครับ จะใช่หรือไม่ใช่ ก็ไปคิดแบบนี้ ง่ายๆ เช่นวันนี้มีคนบางคนแนะนำให้ทานบวบ ทานแล้วก็จะป้องกันมะเร็งได้ ไปหาทีซิว่ามันจริงไหม? ถ้าจริงก็จะได้ปลูกบวบมากขึ้นไง ยกตัวอย่างง่ายๆ เท่านั้นเอง หลายๆ อย่างนะครับ บางคนก็บอกว่า ใบย่านางบ้าง อะไรบ้าง สมุนไพรทั้งหมด มีมากมายในประเทศไทย ไม่งั้นคนก็รับประทานไป แล้วก็ไม่รู้คุณค่าของเขา บางทีก็ไปทำลายทิ้ง กำจัดวัชพืชซะ วันนี้ต้องไปเพิ่ม เริ่มตั้งแต่เล็กๆในระดับหมู่บ้านชุมชนเขามีอยู่แล้ว เรียกว่าความรู้ในท้องถิ่น ปราชญ์ท้องถิ่น ทางการแพทย์ หมอยาสมุนไพรไปดูซิ ว่าทำได้แค่ไหน อย่างไร แล้วเรามาพัฒนาไปสู่การผลิต การเพาะปลูกแล้วผลิต ทำเป็นสินค้าซื้อขายกันเพิ่มมูลค่า นะครับ

ในส่วนของการลงทุนเหล่านี้นั้นผมอยากให้มีการลงทุนมากขึ้นในการประกอบการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในชุมชน ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ด้วย ทุกเรื่องเลยนะ มีหลายสาขาที่เรียนไปแล้ว 7 สาขา หรือยังไงที่จำได้นะครับ การเกษตร ใช่ไหม? นวดแผนโบราณนี่ก็ใช่นะ เป็นเรื่องของการท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ มันต่อเนื่องกัน ไปดูก็แล้วกันนะ

ในการขับเคลื่อนปัญหาภายในประเทศนะครับ เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ วันนี้ก็คิดเรื่องข้าว เรื่องยาง คิดกันทั้งวันทั้งคืน ก็บอกพี่น้องชาวนา ชาวสวนยางหน่อยว่า เราพยายามอย่างเต็มที่นะครับ ว่าทำยังไงให้ราคาไม่ตกลงไปมาก วันนี้ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา

วันนี้ก็มีหลายคณะมาพบที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ก็เห็นเชิญไปคุยที่กระทรวงเกษตรแล้วล่ะ ว่าจะต้องใช้เวลาอย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร? ถ้าจะใช้เงินมากๆ คงไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ก็ช่วยไปเยอะแล้ว ก็คงต้องใช้เวลานิดหนึ่งในการที่จะสร้าง มาตรฐานราคา ให้สูงขึ้น  ผมคิดว่าวันนี้ราคาได้อยู่ในเกณฑ์ที่ วันนี้อาจจะกำไรน้อยหน่อยนะ สำหรับชาวนาที่ลงทุนสูง ผมถึงบอกไปแล้วว่า การลงทุนนี้ ไปลดยังไงค่าลงทุนในการทำนา หรือการทำสวนยาง สวนยาง ลองไปคุยซิว่า การดูแลสวรยาง การพัฒนา หรือการให้ปุ๋ยจะทำยังไง ปุ๋ยอินทรีย์ใช้ได้ไหม?แล้ววันนี้ที่มีปัญหามากที่สุดคือเจ้าของสวนยางกับผู้กรีดยางรับจ้าง ทั้งสองส่วนนี้ จะต้องปรับอะไรกันหรือเปล่า แล้วจะต้องยองรับกันอย่างไร ถ้า 2 ส่วนนี้ต้องการเพิ่มทั้งคู่นี่ รัฐบาลก็ไปไม่ไหวนะ ทุกประเทศเป็นหมดนะ วันนี้ได้เสนอมการประชุมร่วมกัน 4 ประเทศ มีไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ที่ในส่วนอาเซี่ยนด้วยกัน  ในส่วนของจีน ญี่ปุ่น ผมได้ขอข้อมูลไปแล้วนะครับ ว่าจะทำอย่างไรที่จะยกระดับสินค้าการเกษตรเหล่านี้นะครับ

ในส่วนของการที่จะแก้ไขกฎหมายนั้น ผมเรียนว่าทั้งหมดที่ไล่กันในขณะนี้ ถ้าเรามองว่ากฎหมายที่เราต้องแก้ไขในหลายๆ ประเภทนะ ทั้งกฎหมายปกติ กฎหมายที่ออกยังไม่ได้คั่งค้าง อยู่ กฎหมายที่เป็นสากล กฎระเบียบเกี่ยวกับการทำสัญญาทางการค้าเหล่านี้ ทั้งหมด 300 - 400 ฉบับ แล้วมีบางอย่างต้องออกใหม่เพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ เรื่องการศึกษา เรื่องการเข้าถึง เหล่านี้มากมาย ก็กลับมา ขณะนี้ได้ประมาณสัก 163 ฉบับ มั้ง ที่จะต้องออกให้ทันภายใน 1 ปี ที่มีการปฏิรูปนี่นะครับ

วันนี้ได้กำหนดไว้ว่าแต่ละเรื่องควรจะเท่าไร ใน 3 เดือน แรก 3 เดือน ต่อไป อันนี้ก็กราบเรียนทางสภานิติบัญญัติ แล้วก็สภาปฏิรูปด้วยนะ เพราะต้องสอดคล้องกันทั้งหมด แม่น้ำ 5 สายที่ว่า รัฐบาลก็จะขับเคลื่อนไป อะไรที่ทำได้ทำเลย อะไรที่ต้องแก้กฎหมาย ก็แก้ให้ทันใน 1 ปี อะไรที่ทำไม่ได้ ต้องไปเพิ่มเติมในรายละเอียด หลายอย่างไปว่ากันในระยะยาวโน่นนะ.. วันนี้อะไรที่ออกได้ต้องออกก่อน แต่ต้องฟังความคิดเห็นก่อนนะครับ อันนี้ขอย้ำ

เรื่องเศรษฐกิจพิเศษ เราก็พูดกันหลายครั้งแล้ว ผมเกรงว่าหลายๆ คนจะไม่เข้าใจนะครับว่า ถ้าเรามุ่งหวังชุมชนอย่างเดียวหมู่บ้านตำบลอย่างเดียวก็คงไม่ได้นะ เราก็ต้องสร้างทั้งในส่วนของการเทรดดิ้ง เขาเรียกว่าการค้า ถ้าเราสร้างสังคมที่เป็นผู้ผลิตอย่างเดียว คือไม่มีการทำการค้าเองไม่ได้  วันนี้หลายอย่างที่เราต้องแก้ ระดับประชาชนก็ทำนะครับ พี่น้องประชาชนก็ต้องหาทางว่าทำยังไง จะเกิดตลาดชุมชนให้ได้ ตลาดกลุ่มจังหวัดให้ได้ ลดในเรื่องของการควบคุมราคาต่ำ โดยเฉพาะพ่อค้าคนกลางเหล่านี้ ต้องแก้ไข ถ้าเราเทรดดิ้ง เอง ค้าขายกันเอง ผมว่าจะได้รายได้ดีขึ้นนะ แล้วเรารวมกลุ่มซะ ถ้าใครมาซื้อของถูกเราก็ไม่ขาย ทำนองนี้ รัฐบาลจะดูแลในเรื่องนี้นะครับ ในเรื่องของการเทรดดิ้ง ทั้งในระดับท้องถิ่น และในระดับรัฐบาล กับต่างประเทศด้วยนะ

วันนี้ก็มีการเตรียมการส่งเสริมการลงทุนในลักษณะบริษัทการเงินนะ จากต่างประเทศ มาลงทุนในประเทศเราเหมือนกับประเทศที่มีการลงทุนมากมาย ในปัจจุบัน ปัญหาของเราคือ ความยากง่ายในการประกอบการ และในเรื่องของการสร้างบุคคลากรเพื่อรองรับเรื่องเหล่านี้นะ เราต้องเตรียมการให้พร้อม วันนี้ได้สั่งกระทรวงศึกษาไปแล้ว เรื่องการเตรียมการเรื่องเหล่านี้นะครับ

ในเรื่องของการตั้งบริษัท เกี่ยวกับเรื่องของการลงทุนด้านการเงินนี่วันนี้มีหลายประเทศสนใจนะ แล้วเราต้องแก้ไขกฎหมายเหมือนกันนะครับจะได้เร็วขึ้น แล้วก็ทำได้โดยเร็ว

ในเรื่องของการแก้ปัญหาการขาดน้ำหรือน้ำท่วมนี้ ปี 58 ผมบอกไปแล้วว่าถ้าเราทำแผนใหญ่ออกมาแล้ว ทั้งประเทศ ทุกระบบแล้วนี่ ปี 58 ต้องเกิดผล ในปี 58 นี่ ตรงไหนไม่ควรจะท่วมอีกแล้วก็ต้องไม่ท่วม ตรงไหนที่จะไม่แล้งอีกแล้ว ก็ต้องไม่แล้ง คงเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่โตมากนัก เป็นบางพื้นที่เท่านั้น คงทั้งประเทศไม่ได้ ผมเรียนไปแล้วว่าถ้าทั้งประเทศนะ ใช้เวลาในการทำหลายปี เป็นสิบๆ ปีใช้งบประมาณสูงมาก เราก็ค่อยๆ ทำในช่วงที่มีความเดือดร้อนมากก่อน ตรงไหนที่พอประคัยประคองไปได้ก็ค่อยๆ ทำไปแต่ทั้งหมด

ต้องบูรณาการงบประมาณทั้งหมดที่รัฐบาลได้ให้ไปแล้วกับทุกกระทรวง ทบวง กรม ในการดูแลพ่อแม่พี่น้อง ต้องเฉลี่ยให้เข้าถึง มากน้อยก็ว่ากันมา อะไรที่เติมได้ก็เติม งบเหลือจ่าย งบกลางปีอะไรต่างๆ ก็ไปว่ามา งบเงินกู้ก็ไม่มีปัญหา ทั้งกู้ในประเทศ กู้ต่างประเทศด้วย ฉะนั้นก็เป็นเรื่องการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้วกัน

หลายเรื่องที่มีปัญหา ก็มีเรื่องเงินทุน เรื่องคุณภาพของการทำงาน คือบริษัทต่างๆ ที่มารับไปแล้วบางทีคุณภาพไม่ได้ แล้วก็เรื่องการผ่านการทำประชาพิจารเหล่านี้จะเป็นปัญหาหมด ถ้าไม่ยอมกันเลยก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

วันนี้เรามีปัญหาเรื่องน้ำอุปโภค บริโภค แหล่งน้ำประปา การส่งน้ำประปาให้ทั่วถึง ยังมีปัญหานะครับ ก็รับว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เท่าที่สามารถดำเนินการได้ ก็โชคดีที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ก็ขอบคุณในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนะครับ ในการที่จะดูแลประชาชน

ในเรื่องของการไปประชุมร่วมกับต่างประเทศ วันนี้ก็ให้นโยบายไปกับทุกกระทรวงว่า เวลาประชุม มีเรื่องหลายเรื่องที่ต้องไปพูดกับเขา ไปรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีข้อเสนอจากเราไปด้วย ไม่ว่าจะเรื่องโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงานสีเขียว มันต้องมีข้อเสนอของประเทศเราไปด้วย ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องโลกร้อนนี่ เราไม่ใช่ประเทศที่สร้างโลกร้อน มลพิษมากนัก แต่เรามีป่าไม้ ทำยังไงให้เขาสนใจเราตรงนี้ ประเทศใดที่รักษาป่าไม้ได้ดี เคยพูดกันมาแล้วนะครับ ในเรื่อง คาร์บอน เครดิต ก็คงต้องทำให้ต่อเนื่อง ว่าทำอย่างไรประเทศเหล่านี้จะได้เงินมาสนับสนุนในเรื่องของการดูแลป่าไม้ ในเรื่องของการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้เป็นปอดของโลก เราสร้างความสำคัญตรงนี้ให้ได้แล้วกัน เพราะงั้น การไปประชุมในทุกๆ เรื่อง ทุกกระทรวงต้องรู้ทุกเรื่องว่าเราจะไปพูดอะไรกับเขา ไปประชุมเศรษฐกิจ ก็พูดความมั่นคงได้ เพราะมันพันยึดโยงกันไปหมดขณะนี้ ต้องมีข้อมูล เพราะจะทำงานอิสระ กระทรวงใคร กระทรวงมัน ไม่ได้แล้วนะ ต้องรู้กระทรวงอื่นด้วย เพราะงั้นเวลาประชุม ครม. ทุกกระทรวงต้องรู้ทุกเรื่องว่าเราจะไปพูดอะไรกับเขา ไปประชุมเศรษฐกิจ ก็พูดความมั่นคงได้   

นี่ผมจะพูดเยอะ ให้เข้าใจว่านโยบาย รัฐบาลว่ายังไง กระทรวงนั้น กระทรวงนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องอตรงไหน อะไรหลัก อะไรรอง อะไรเสริม จะได้มีเรื่องไปพูดกับเขา ไปยื่นข้อเสนอเขาบ้างไม่ใช่ไปรับเขามาอย่างเดียวไม่ได้

ในเรื่องของการส่งเสริมการค้าการลงทุน วันนี้เราแก้ไขไปหลายอย่างด้วยกัน เรื่องกฎกติกา เรื่องขั้นตอน เรื่องเวลา ระยะเวลานี่ เดิมเคยใช้เวลาเป็นเดือนๆ วันนี้ต้องเรียบร้อยภายใน 30 วัน แล้วการลงทุนทั้งหมด ต้องไปเข้าที่ BOI ก่อนแล้ว BOI จะชี้แจงได้ ถ้าเป็นต่างประเทศนะครับ ในประเทศก็ได้นะ ถ้านึกอะไรไม่ออกก็ไปที่ BOIนึกอะไรไม่ออกก็มาที่รัฐบาล ผมก็พร้อมจะชี้แจงพร้อมจะมีผู้นำพาหรือตอบรายละเอียดผมว่าไปให้ถูกช่องดีกว่า ทางพาณิชย์ก็มี ทางอุตสาหกรรม ทาง BOI มีหมด ศูนย์One Stop Services เรื่อง One Stop Services ก็เหมือนกัน วันนี้ก็มีปัญหาอีกเรื่องการค้ามนุษย์นี่ ผมให้ความสำคัญนะ ที่ทำมาทั้งหมด จดทะเบียนประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว แต่บางประเทศก็ยังไม่ได้จดเช่น เวียดนามก็ได้คุยกัน หารือกันว่าจะต้องตั้งขึ้นมาแล้วจดทะเบียนชาวเวียดนามที่ทำงานในประเทศไทย อีกประเทศหนึ่งที่ทางประเทศต้อนทางเขาขอมา ปัญหาอยู่ที่ไหน ทราบไหมครับ ปัญหาอยู่ที่การพิสูจน์สัญชาติทำได้ช้า วันนี้ที่ผ่านมา สองประเทศก็ยังทำอยู่ แล้วใช้บัตรชั่วคราวไปก่อน ต่อไปคงต้องทำยังไงให้เร็ว แล้วต้องเตรียมการรองรับ AEC ในปีหน้าด้วย ปีหน้าต้องเตรียมคนงาน แรงงานให้พร้อม ทั้งไทย และต่างประเทศให้ถูกกฎหมาย เดี๋ยวเปิดพื้นที่ขึ้นมา มีโรงงานมากขึ้น แล้วจะเอาคนงานจากที่ไหนมาล่ะ ถ้าไม่เตรียมไว้ ขึ้นบัญชีไว้ปัจจัยวันนี้ที่อยากให้พวกเราทุกคนได้เข้าใจก็คือปัจจัยในการกำหนดให้แต่ละประเทศมีความก้าวหน้าได้อย่างไร สร้างความเข้มแข็งได้อย่างไร หลายประการด้วยกันไม่ใช่ปัจจัยในประเทศอย่างเดียว ในประเทศขออย่างเดียว เสถียรภาพ มั่นคง แล้วก็ปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน อันนี้เป็นหลัก ที่ 1 แล้วจะเกิดเรื่องอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะต่างประเทศ ด้านความมั่นคง ความขัดแย้งยังคงมีอยู่ ดูข่าวในทีวี ก็ยังมีขัดแย้งหลายประเทศ เราก็ต้องอย่าให้เกิดขึ้นในประเทศเราดีกว่าเราจะได้รองรับความเจริญที่จะเข้ามา ที่ไหนขัดแย้งมากๆ เขาก็ไม่ไป เขาจะได้มาที่เราไง เราไม่ขัดแย้ง ก็ฝากไว้ด้วย เพราะความเจริญทางเศรษฐกิจวันนี้ ก็ต้องใช้คำว่าเป็นพลวัตนะ ก็คือต่อเนื่องเชื่อมโยงหมุนเป็นพลวัต ไม่ใช่เดินไปแล้วก็หยุดปั๊บ หยุดรอเขา ไม่ได้ ต้องเดินไปเรื่อยๆ พลวัต ก้าวทดแทนไปเรื่อยๆ เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ขยายขนาดอะไรไปเรื่อยๆ

ในเรื่องของกติกาสากล เรื่องโลกร้อน เรื่องโรคระบาด เรื่องการใช้ความรุนแรง การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานทาส ต้องแก้ใหญ่โตนะ วันนี้ประเทศไทยเราไม่ได้ดูแลลึก รายละเอียดมานานวันนี้ต้องแกทั้งระบบ ใช้เวลาให้เร็วนะครับ มีเวลาแค่ปีเดียวการพัฒนาความยั่งยืนเป็นเรื่องของกายภาพสำคัญ ถนน เส้นทาง สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ทุกหน่วยงานต้องมาช่วยกัน ประชาชนก็ต้องร่วมมือนะ ช่วยกัน ในการที่จะแสดงความคิดเห็น ความต้องการ ในสิ่งที่เป็นไปได้ ถ้าต้องการเวลาเดียว เร็ว ไม่ได้หรอก

อีกอันที่จะมีผลต่อการพัฒนาประเทศคือการสัมพันธ์ที่ดีระหว่าประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าความเชื่อถือระหว่างผู้นำของแต่ละประเทศ เชื่อถือกันให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อนกัน นับถือซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกันมันก็พูดอะไรกันก็ได้ แต่อยู่ในกรอบที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ ก็อยากจะฝากว่า ขอเถอะ อย่าไปขัดแย้งกับใครอีกเลย ในประเทศก็ไม่ได้ ต่างประเทศก็ไม่ได้ อย่าไปขัดแย้งกับเขา

ในเรื่องการสร้างความเข้าแข็งในอาเซี่ยนนี่มีผลกระทบกับประชาคมโลกด้วย เพราะเราเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำ แหล่งอาหารโลก แหล่งพลังงานทดแทนของโลก ในอนาคตผมคิดว่าประเทศเราจะเป็นผู้นำทางด้านอาหาร ร่วมกับประเทศหลายประเทศในอาเซี่ยนด้วย อดใจรอให้ถึงเวลานั้นนะ ตอนนี้ก็ร่วมมือกันแล้วกัน ความขัดแย้งในประเทศจะเป็นตัวถ่วงความเจริญ ทุกด้านเลย ไม่ใช่ว่าผมจะไปกดดันใคร ไม่ฟังความคิดเห็นของใคร ใช้อำนาจมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ วันนี้ผมถือว่าเต็มที่แล้วนะ ที่เราผ่อนผันให้ทุกอย่างเลย งั้นขอร้องเรื่องการสร้างวาทะกรรม สร้างผลกระทบที่มีต่อการปฏิรูป ไม่เกิดประโยชน์

เรื่องการทุจริตผิดกฎหมายหลายท่านเป็นห่วงว่า คสช. ยังให้ความสำคัญอยู่ ให้เหมือนเดิม จะเห็นได้ว่ามีการสอบสวนดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้น้อย เยอะแยะไปหด ก็สอบไปใช้เวลาไป ก็ว่าไป อย่าไปเร่งรัดเลยนะ

ในส่วนของเรื่อง อปท. เรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นนะ ซึ่งจะมีการหมดอายุ ผมก็ได้เสนอไปให้ ครม. พิจารณาแล้ว รายละเอียดขั้นตอนพิจารณาอยู่ว่าจะทำอย่างไร ถ้าเลือกตั้งไม่ได้ก็ให้รักษาการก่อนได้ไหม น่าจะดีกว่านะ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ พี่น้อง อปท. ก็เตรียมตัวให้ดีนะว่าจะทำยังไงกันต่อไป ข้อสำคัญคือ ท่านคิดแล้วกันว่าท่านจะทำยังไง ให้ประเทศชาติปลอดภัย แล้วก็ก้าวหน้าไปให้ได้ เพราะต้องสอดคล้องกันทั้งรัฐบาล ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ต้องเดินไปให้ได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ในสัปดาห์นี้ผมจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ 2 ประเทศ ใกล้ๆ นี่แหละ ก็ลาวกับเวียดนาม ซึ่งมีการพบปะกับท่านผู้นำ 3 ครั้งแล้ว ในกลางปีที่ผ่านมาก็คงไปพูดคุยเฉพาะทวิภาคีกันอีกครั้ง อะไรที่ตรงกัน อะไรที่ขับเคลื่อนอะไรที่ยังค้างอยู่ ไปพูดกันให้หมด แล้วจะได้เดินหน้าประเทศ ทั้งสองประเทศให้มีความก้าว หน้าไปให้เร็วขึ้น 

ในช่วงต่อไปก็รู้สึกจะมีประเทศทางใต้เรา คงเป็นประเทศสุดท้าย ที่ใกล้ๆ รอบบ้าน มาเลเซียนะครับ เนื่องจากว่าเลื่อนหลายครั้งแล้วท่านก็ไม่ว่าง ผมก็ไม่ว่าง ก็ไปว่ากันตอนสิ้นเดือนอีกที

นอกนั้นก็เป็นการประชุมตามวาระ ก็รู้สึกจะมีที่เกาหลีนะ เป็นความร่วมมือครั้งหนึ่ง แล้วก็มีการประชุมที่ท่านรองนายกกล่าวไว้คือที่ดาวอส อะไรนี่ ก็เดี๋ยวเป็นระยะๆ ไปแล้วกัน จริงๆ แล้ว

ผมก็อยากขับเคลื่อนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าเรามัวแก้ปัญหาในประเทศอย่างเดียวคงไม่ได้ ก็ต้องไปเดินต่างประเทศด้วย ในประเทศ ก็วันนี้ทุกคนในรัฐบาล ทุกรัฐมนตรี แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายก็เดินหน้าอยู่แล้วนะ เพียงแต่บางครั้ง อาจจะสร้างการรับรู้ได้ไม่มากนัก เพราะอยู่ในขั้นตอนกระบวนการ ถ้าพูดไปทั้งหมดก็อันตราย พูดไปแล้วจะเป็นปัญหาอะไรหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราก็จะค่อยๆ สร้างการรับรู้ไปให้กับพี่น้องประชาชนไปเรื่อยๆ ตามลำดับนะ ใจอย่าร้อนมากนักนะ

ผมคิดหมด เพราะรับปัญหามาทั้งหมดอยู่แล้ว ผมก็มีประสบการณ์ยาวนานพอสมควร รับฟังปัญหามาตลอดระยะเวลาในการรับราชการ วันนี้ก็เอาเหล่านั้นมาทบทวน แล้วนำเข้าสู่การปฏิบัติ เย็นนี้  ทุกวัน เวลา 18 นาฬิกาก็ ถ้าว่างก็ชมรายการเดินหน้าประเทศไทยด้วย 15 นาทีเองว่าเขาทำอะไรกันบ้างถ้าไม่ฟังเลยก็ไม่รู้ ไม่รู้แล้วถามผม พอผมตอบไปบางทีไม่ครบ ไม่ครบก็เป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ที่พิเศษอีกอันที่ผมสั่งการเพิ่มเติม

ในการประชุม ครม. ทุกครั้ง ผมจะให้โฆษกรัฐบาลสรุป แล้อธิบาย ชี้แจงเพิ่มเติมว่าการประชุมมีอะไรบ้าง ที่ผ่านมาอาจจะสร้างการรับรู้ได้ไม่มากนักตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ครั้งที่แล้ว จะให้มีการเอามารีวายในรายการเดินหน้าประเทศไทยด้วย ก็ลองติดตามดู จะได้รู้ จะได้ รู้ว่าเรื่องนี้ ผมทำหรือยัง คิดหรือยัง ถ้าท่านติดตามแบบนี้ ก็จะดีนะ ทั้งเรื่องการปฏิรูป เรื่องกฎหมาย เรื่อง สนช. สปช. เรื่องรัฐบาลอีกช่องท่านไม่ค่อยได้ดู ช่องรัฐสภา ถ่ายทอดทั้งวัน เป็นสาระ ใครชอบกฎหมาย ใครชอบการทำงานของรัฐบาล ในลักษณะการบริหาร ลองเปิดดู ว่างๆ ก็เปิดดูก็ได้อย่าไปดูบันเทิงมากๆ อย่างเดียว ต้องดูทุกอันจะได้รู้ว่าประเทศเรา ละครก็ดูได้ ภาพยนตร์ก็ไปชมได้ ไปเที่ยวไหนก็สะดวกขึ้น และการปฏิรูปก็กำลังเดินหน้า สนช. ก็กำลังออกกฎหมาย จะได้เข้าใจว่าประเทศเราไปตรงไหน ถ้ายังเอาปัญหาพันไปพันมามันไม่ได้นะ วันนี้เราต้องรักษากฎกติการะเบียบ ให้เดินหน้าประเทศให้ได้ โอเคนะครับ นะ

ผมพร้อมรับฟังทุกท่าน พร้อมรับฟังทุกกลุ่ม ขอบคุณในคำแนะนำ จากทุกท่านที่กรุณาให้คำแนะนำกับรัฐบาล และ คสช. มา

ขอบคุณครับ ..สวัสดีครับ

นสพ.แนวหน้า