ศาลอนุมัติหมายจับ "สมีคำ" รวม 3 ข้อหาหนัก ดีเอสไอส่งประสานถอนวีซ่ากระชับพื้นที่นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ของจริง !
อธิบดี ดีเอสไอ โชว์หมายจับเณรคำ
สามใบซ้อน
อุ๊ย ! ตั้งสามข้อหา หนียังไงวะเนี่ย ?
ศาลอนุมัติหมายจับ "สมีคำ" รวม 3 ข้อหาหนัก ดีเอสไอส่งประสานถอนวีซ่ากระชับพื้นที่นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน พ.ต.อ.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฎิบัติการคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดี นายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม
นายธาริต กล่าวว่า เมื่อเช้าดีเอสไอได้ยืนศาลอาญาขอออกหมายจับทางผู้พิพากษาได้พิจารณาเห็นว่าเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจต่อสาธารณะจึงขอพิจารณาโดยรอบคอบ อธิบดีศาลอาญาเห็นว่าเป็นประเด็นสาธารณะ ท่านจึงจะใช้การพิจารณาองค์คณะชุดใหญ่ของศาลอาญาพร้อมนัดดีเอสไอไปรับทราบผล การอนุมัติหมายจับเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่มีข่าวว่าศาลจะไม่ออกหมายจับ ไม่จริงเป็นข่าวลือเรามีความมั่นใจใน พยานหลักฐานและเหตุผลจะได้รับการอนุมัติหมายจับจากศาลอาญาเพื่อดำเนินการอีก หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งการประสานยกเลิกพาสปอร์ตและยกเลิกวีซ่า
ด้าน พ.ต.ท.วิชิต อุปะถะ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวว่าได้ใช้อำนาจพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ออกหนังสือถึงสถาบันการเงิน 140 แห่ง อายัดบัญชีธนาคารและหลักทรัพย์ต่างๆ และได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินคอนโด กรณีมีชื่อนายวิรพล สุขผล ให้อายัดการทำธุรกรรมทั้งหมด และรถยนต์ยานพาหนะทุกประเภทได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ส่วนข้อมูลที่พบว่าวัดหรือพระที่ได้รับมอบรถจากนายวิรพลอยู่ระหว่างการประสานงาน
ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผบ.สำนักปฎิบัติการคดีพิเศษภาคดีเอสไอ กล่าวว่า วันที่ 18ก.ค.พยานได้นัดนำหลักฐานของรถยนต์ นายวิรพลอีกว่า 10 คัน มาให้ดีเอสไอ ล่าสุดมีผู้หวังดีส่งรูปให้ตนเป็นรูปรถโรลส์-รอยซ์ 3 คัน ราคาแพงที่จอดอยู่ในโรงจอดรถที่สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม และรถอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 1 คัน ตนได้สั่งการให้ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบขอให้ผู้ที่ครอบครองรถราคามาชี้แจง เพราะเข้าไปจอดในสำนักสงฆ์ของเณรคำแต่รถเหล่านี้ไม่อยู่แล้ว นอกเหนือจากบัญชีรถยนต์ที่เคยเปิดเปิดเผยไป ทั้งนี้ อยากขอเตือนคนที่รับรถยนต์ไว้ต่อจะมีความผิดฐานสมรู้ความคิดยักย้ายถ่ายเททรัพย์ที่ได้มาจากฉ้อโกงและฟอกเงินสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 087-1028877
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงว่าศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ อายุ 34 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 10 ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หมายจับเลขที่ 1245/2556 มี 3 ข้อหา ประกอบด้วย
1.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือ ข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษสูงสุด 5 ปี อายุความ 10 ปี โดยมีการกระทำผิด 2 ก.ค.56
2. ฉ้อโกง ฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 341 และมาตรา 343 ประมวลกฎหมายอาญา มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี และ
3.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรของตนโดยเด็กนั้นจะ ยินยอมหรือไม่ก็ตาม และปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ตามมาตรา 277 และมาตรา 317 ประมวลกฎหมายอาญา
คดีมีอายุความ 20 ปี แต่มีการทำผิดปี 2543 จะหมดอายุความ 2563 มีอัตราโทษ 20 ปี
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ส่วนหมายจับครั้งนี้มีอายุความ 10 ปี ถึงวันที่ 2 ก.ค. 2556 ดีเอสไอจะมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา และมหาเถรสมาคม ให้ดำเนินการไปยังศูนย์ควบคุมของมหาเถร ที่ควบคุมหนังสือเดินทางของที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ให้ดำเนินติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทาง ส่วนการเพิกถอนวีซ่า ดีเอสไอได้ประสานกลุ่มประเทศในยุโรป และอเมริกา โดยทราบที่อยู่ของนายวิรพลล่าสุดแล้ว แต่ไม่เปิดเผยพร้อมจะประสานประเทศดังกล่าวให้เพิกถอนวีซ่า ทั้งนี้หากการเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือวีซ่า จะมีการผลักดันผู้ต้องหากลับมายังประเทศไทย โดยดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับยังสนามบินของประเทศนั้น เพื่อนำตัวกลับประเทศไทย
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ส่วนหมายจับครั้งนี้มีอายุความ 10 ปี ถึงวันที่ 2 ก.ค. 2556 ดีเอสไอจะมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา และมหาเถรสมาคม ให้ดำเนินการไปยังศูนย์ควบคุมของมหาเถร ที่ควบคุมหนังสือเดินทางของที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ให้ดำเนินติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เพื่อเพิกถอนหนังสือเดินทาง ส่วนการเพิกถอนวีซ่า ดีเอสไอได้ประสานกลุ่มประเทศในยุโรป และอเมริกา โดยทราบที่อยู่ของนายวิรพลล่าสุดแล้ว แต่ไม่เปิดเผยพร้อมจะประสานประเทศดังกล่าวให้เพิกถอนวีซ่า ทั้งนี้หากการเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือวีซ่า จะมีการผลักดันผู้ต้องหากลับมายังประเทศไทย โดยดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับยังสนามบินของประเทศนั้น เพื่อนำตัวกลับประเทศไทย
ข่าว : ไทยรัฐ
18 กรกฎาคม 2556
ดีเอสไอได้ฤกษ์เช็คบิลเณรคำ !
หอบหลักฐานเสนอศาลอาญาออกหมายจับเณรคำ
แล้วค่อยสืบทีหลังว่าเณรคำอยู่ไหน ?
อ้าว ! แปดข้อหา เหลือแค่สามเองหรือวะหม่ำ
หายไวเหมือนเงินในแบงค์เลยว่ะ ฮ่ะๆ
ทองคำอีกแปดพันโล รับรองว่าหายังไงก็ไม่เจอ
ไม่รู้จักผู้มีฤทธิ์แห่งประเทศไทยซะแย้ว !
"ดีเอสไอ" นำหลักฐานขอศาลรัชดาฯ ออกหมายจับ "สมีคำ" 3 ข้อหา วันนี้ ก่อนส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการถอนพาสปอร์ต-อายัดทรัพย์ และติดตามจับกุม...
วันที่ 17 ก.ค. 56 นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำเอกสารพยานหลักฐาน ยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ที่ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีเว็บไซต์ของนายวิรพล เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน/กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และฉ้อโกงประชาชน
นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า ดีเอสไอเชื่อมั่นว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่ยื่นต่อศาลมีน้ำหนักเพียงพอที่จะสามารถออกหมายจับนายวิรพลได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล
ด้าน พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า เมื่อศาลอาญารัชดาฯ อนุมัติออกหมายจับแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประสานไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับเช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ (พศ.) เพื่อให้ทราบทางสงฆ์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อให้ถอนวีซ่าและหนังสือเดินทางของนายวิรพล และตำรวจทุกหน่วย เพื่อประกาศขึ้นบัญชีหมายจับ ซึ่งสามารถจับกุมได้ทันทีหากพบตัว และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริตต่อไป.
วันที่ 17 ก.ค. 56 นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำเอกสารพยานหลักฐาน ยื่นต่อศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ที่ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กรณีเว็บไซต์ของนายวิรพล เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน/กระทำชำเราและพรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และฉ้อโกงประชาชน
นายทวีวัฒน์ กล่าวว่า ดีเอสไอเชื่อมั่นว่า พยานหลักฐานต่างๆ ที่ยื่นต่อศาลมีน้ำหนักเพียงพอที่จะสามารถออกหมายจับนายวิรพลได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล
ด้าน พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า เมื่อศาลอาญารัชดาฯ อนุมัติออกหมายจับแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประสานไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับเช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ (พศ.) เพื่อให้ทราบทางสงฆ์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อให้ถอนวีซ่าและหนังสือเดินทางของนายวิรพล และตำรวจทุกหน่วย เพื่อประกาศขึ้นบัญชีหมายจับ ซึ่งสามารถจับกุมได้ทันทีหากพบตัว และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่ออายัดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริตต่อไป.
ข่าว : ไทยรัฐ
17 กรกฎาคม 2556
ทูตอเมริกันมึน !
แห่ยื่นเรื่องเณรคำคนละข้าง
ข้างหนึ่ง : ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดี
อีกข้างหนึ่ง : ขอให้ลี้ภัยในอเมริกา ไม่ต้องกลับมาไทย
ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเข้าข้างฝ่ายไหน ?
ซ้าย : นายวรัญชัย โชคชนะ ประธานกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ เอกอัคราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เนื่องจากมีลูกศิษย์ของ "สมีคำ" หรือ พระวิรพล สุขพล เดินทางมายื่นหนังสือต่อสถานทูตมิให้ทางการสหรัฐฯ ระงับวีซ่า และส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ขวา : นายสุขุม วงประสิทธิ์ และกลุ่มเครือข่ายวิมุตติธรรม ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ พิจารณาคำร้องของสำนักพุทธศาสนา ดีเอสไอ เถรสมาคม ในการร้องขอให้มีการถอนวีซ่าของอดีตพระวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ต่อเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย
สถานที่ : สถานทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
ข่าว : สยามรัฐ-เดลินิวส์
18 กรกฎาคม 2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ