สมเด็จพระพุฒาจารย์ โปรดปรานพระปานขาว ชาวลาว ถึงกับขอสมณศักดิ์ให้ ? บักเณรคำหนีไปซุกซ่อนอยู่ภายใต้อิทธิพลของวัดสระเกศในฝรั่งเศส
อย่างฮา !
มหาเถรปัดจัดการเณรคำ
โบ้ยให้ใช้ "กฎหมายและระเบียบ" ที่มีอยู่
อู้ฮู สุดยอดไอเดียเลยฮ่ะ ถ้างั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีมหาเถรสมาคมไว้ปกครองคณะสงฆ์แล้วใช่ไหมครับ เพราะมีก็ไม่ได้ใช้ ออกกฎหมายและระเบียบเสร็จก็ยุบมหาเถรสมาคมทิ้งไปเลยเป็นไง พูดแบบนี้แหละฮะ จะโดนพุทธอิสระฟ้อง ในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
มหาเถรสมาคม องค์กรสูงสุด ปกครองคณะสงฆ์ไทย ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ปัจจุบันมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธาน มีการประชุมมหาเถรสมาคม ที่วัดสระเกศ ทุกวันที่ 10-20-30 ของทุกเดือน เว้นแต่ตรงกับวันสำคัญจึงเลื่อนการประชุม
เณรคำซุกปีกใครในฝรั่งเศส ?
ยังคลุมเคลือว่า แท้ที่จริงแล้ว วันนี้ บักเณรคำ หนีไปซุกซ่อนตัวอยู่ภายใต้อิทธิพลของใคร ข่าวที่ได้ก็คือว่า อยู่ที่วัดโพธิญาณราม เมืองตวกหน่ง ประเทศฝรั่งเศส มีพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ หรือพระปานขาว ชาวลาว สัญชาติฝรั่งเศส เป็นผู้ให้ที่พักพิงพระปานขาวนั้น ข่าวรายงานว่า มีความใกล้ชิดกับวัดสระเกศ ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช โปรดปรานถึงกับขอสมณศักดิ์ "พระครูชั้นพิเศษสายวิปัสสนา" ให้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ชี้ว่า บักเณรคำหนีไปซุกซ่อนอยู่ภายใต้อิทธิพลของวัดสระเกศในฝรั่งเศส ดังนั้น ต่อให้สมเด็จพระวันรัตตะโกนจนคอแตกไปถึงชาติหน้า ก็อย่าหวังว่าบักเณรคำจะกลับมา แน่จริงก็บินมาจับเองสิ อิอิ !
บักเณรคำ Where are you ? อยู่ไส ?
โอม อานันตะปัดชาเย อาปัตติเถเถกู
อาปัตติถู อาปัตติ ถุย ถุย ถุย
ข้อยสิหายตัวเข้าภูเขาทองแล้วเด้อพ่อออกแม่ออก
คึดฮอด คึดฮอด จนบ่ได้หลับได้นอน
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการ พศ. ได้รายงานกรณีหลวงปู่เณรคำ ให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) รับทราบแล้ว โดยที่ประชุม มส.มีความเห็นว่า ให้สั่งการไปยังเจ้าคณะปกครองดำเนินการตามกฎหมายระเบียบและประกาศของ มส.ที่มีอยู่ ไม่จำเป็นต้องออกระเบียบอะไรเพิ่มเติม รวมถึงที่ประชุม มส. เห็นตรงกันว่าเพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้แจ้งและกำชับเจ้าคณะปกครองทุกระดับชั้นทั่วประเทศ บังคับใช้กฎระเบียบ มส. อย่างเข้มงวดในการควบคุมและดูแลพระสงฆ์ในปกครอง
ข่าว : คมชัดลึก
5 กรกฎาคม 2556
ศึกสองหลวงปู่ !
หลวงปู่พุทธอิสระลั่นกลองรบ
ประกาศฟ้องอาญาเรียงตัว
ตั้งแต่เจ้าคณะภาคยันเจ้าคณะจังหวัด
ปูพรมทั่วอีสาน !
ซ้าย : หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย นครปฐม
ขวา : หลวงปู่เณรคำ วัดป่าขันติธรรม ศรีสะเกษ
อา..มหากาพย์ "มหาภารตะ" กำลังเริ่มต้น งานนี้มีหวังเจ้าคณะพระสังฆาธิการฝ่ายธรรมยุต "7 จังหวัดภาคอีสาน" ได้เดินขึ้นศาลกันหน้าบาน ประจานชาวโลกให้รับรู้ว่า "นี่คือกองทัพธรรมของพระอาจารย์มั่น ซึ่งผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าในผ้าเหลือง" เพราะรับส่วยจากเณรคำจนเต็มพุง เงินทองนั้นท่านถือเป็น "ยาพิษ" สำหรับพระกรรมฐาน รับไว้เมื่อใดเป็นเสียพระอริยะเมื่อนั้น วันนี้ เจ็ดจังหวัดภาคอีสาน รวมทั้งเจ้าคณะภาค 10 สายธรรมยุต ถูกยาพิษฝังในร่างจนยากจะสกัดออก มีหนทางเดียวเท่านั้นก็คือ "โยนผิดให้เณรคำรับไป"เพราะมึงเอามาให้กู กูรับไว้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นภัยร้ายแรง และเชื่อเถิดว่า ทุกรูปทุกองค์จะรอด เพราะถ้าจะเอาผิดคนทั้งเมืองมันก็เกินไป ดังนั้นก็ต้อง "กันพระมหาเถระ" เอาไว้เป็นพยาน ที่เหลือก็โยนใส่เครื่องบินเจ๊ตไปถวายเณรคำที่ปารีส
รวมภาพ "ปลาติดเบ็ด" พระสังฆาธิการระดับสูงในคณะธรรมยุต ตั้งแต่ภาคอีสานถึงภาคกลางฮุบเหยื่อชิ้นใหญ่ เพราะป่าตัวใหญ่ก็ต้องล่อด้วยเหยื่อชิ้นใหญ่ ไม่งั้นไม่กินเหยื่อ
หลวงปู่พุทธะอิสระ ยืนยัน ส่งฟ้องเณรคำ ต่อศาลอาญาพรุ่งนี้แน่นอน ชี้ เหตุคณะสงฆ์ต้นสังกัดไม่ยอมฟันทำผิดพระวินัย เหตุหวาดต้องโดนพ่วงรับผิดไปด้วย...
วันนี้ (4 ก.ค.56) หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เปิดเผยถึงกรณีที่ พระวีระพล ฉตฺติโก หรือ นายคำ ที่ได้มีพฤติกรรมละเมิดพระวินัยเป็นอาจิณ ขณะนี้มีความพร้อมแล้วในเอกสารสำนวนคดี เพื่อฟ้องนายคำและพวก คดีซ่องโจร และข้อหาหลอกลวงประชาชน ประเด็นหลักคือให้ศาลอาญาเห็นชัดในความผิดว่ามีความผิดจริง ในส่วนประเด็นเด็ด ยังขออุบไว้ก่อน จนกว่าศาลอาญาจะประทับรับคำฟ้อง
และในวันที่ 5 กรกฎาคม 56 เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปด้วยตนเองตามสิทธิ์ผู้ยื่นและสิทธิ์จะฟ้องบุคคลที่ ทำให้สังคมเสื่อมเสีย มีกังวลเล็กๆ ในใจว่าศาลจะไม่รับฟ้อง เพราะไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง เราต้องทำให้ศาลอาญาเล็งเห็นว่า เราได้รับผลกระทบเดือดร้อนโดยตรง ถ้าได้บุคคลอย่างเช่นอดีตโยมแม่ หรือกระทั่งอดีตภรรยา และผู้ร่วมบริจาคเงินมาร่วมฟ้อง เราก็จะไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่รับฟ้อง ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่หวังว่าศาลฝ่ายสงฆ์จะให้ความเป็นธรรมได้ ถ้าศาลอาญาไม่ประทับรับฟ้องคงต้องกลับมาหากระบวนการใหม่ แต่สำรองไว้หลายกระบวนการ
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานีเริ่มมีความเคลื่อนไหวเหมือนเป็นการเอาสีข้างเข้าถู โดยยื่นให้คำขาดชี้ช่องว่าให้ไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ไม่ฟันธงว่าผิดพระวินัยอย่างไร และคณะดังกล่าวคงยังคิดว่านายคำนั้นถูกกลั่นแกล้ง ถ้าศาลอาญาประทับรับคำฟ้อง คณะปกครองคงปฏิเสธสิ่งที่รับรถเก๋งมาไม่ได้ เพราะถ้าศาลมีคำสั่งฟ้องและคดีถือว่าสิ้นสุด ทรัพย์ทั้งหมดที่นายคำได้มา รวมทั้งบรรดาที่ถวายรถพระปกครอง สามารถถูกยึดเรียกกลับให้เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน เชื่อว่าทุกคนก็คงร้อนๆ หนาวๆ ทรัพย์ที่ได้มาแปลความได้ว่า รับของโจร เข้าข่ายจริยาพระสังฆาธิการ โทษคือต้องปลด ตำหนิโทษ หรือต้องภาคทัณฑ์ ถ้ามหาเถรไม่กระทำตามนี้ก็คือปกป้องพวกพ้องตัวเอง ฉะนั้นไม่ได้ต่อสู้กับนายคำเพียงคนเดียวเท่านั้น
วันนี้ (4 ก.ค.56) หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เปิดเผยถึงกรณีที่ พระวีระพล ฉตฺติโก หรือ นายคำ ที่ได้มีพฤติกรรมละเมิดพระวินัยเป็นอาจิณ ขณะนี้มีความพร้อมแล้วในเอกสารสำนวนคดี เพื่อฟ้องนายคำและพวก คดีซ่องโจร และข้อหาหลอกลวงประชาชน ประเด็นหลักคือให้ศาลอาญาเห็นชัดในความผิดว่ามีความผิดจริง ในส่วนประเด็นเด็ด ยังขออุบไว้ก่อน จนกว่าศาลอาญาจะประทับรับคำฟ้อง
และในวันที่ 5 กรกฎาคม 56 เวลา 13.00 น. จะเดินทางไปด้วยตนเองตามสิทธิ์ผู้ยื่นและสิทธิ์จะฟ้องบุคคลที่ ทำให้สังคมเสื่อมเสีย มีกังวลเล็กๆ ในใจว่าศาลจะไม่รับฟ้อง เพราะไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง เราต้องทำให้ศาลอาญาเล็งเห็นว่า เราได้รับผลกระทบเดือดร้อนโดยตรง ถ้าได้บุคคลอย่างเช่นอดีตโยมแม่ หรือกระทั่งอดีตภรรยา และผู้ร่วมบริจาคเงินมาร่วมฟ้อง เราก็จะไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าศาลจะรับฟ้องหรือไม่รับฟ้อง ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่หวังว่าศาลฝ่ายสงฆ์จะให้ความเป็นธรรมได้ ถ้าศาลอาญาไม่ประทับรับฟ้องคงต้องกลับมาหากระบวนการใหม่ แต่สำรองไว้หลายกระบวนการ
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอุบลราชธานีเริ่มมีความเคลื่อนไหวเหมือนเป็นการเอาสีข้างเข้าถู โดยยื่นให้คำขาดชี้ช่องว่าให้ไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ไม่ฟันธงว่าผิดพระวินัยอย่างไร และคณะดังกล่าวคงยังคิดว่านายคำนั้นถูกกลั่นแกล้ง ถ้าศาลอาญาประทับรับคำฟ้อง คณะปกครองคงปฏิเสธสิ่งที่รับรถเก๋งมาไม่ได้ เพราะถ้าศาลมีคำสั่งฟ้องและคดีถือว่าสิ้นสุด ทรัพย์ทั้งหมดที่นายคำได้มา รวมทั้งบรรดาที่ถวายรถพระปกครอง สามารถถูกยึดเรียกกลับให้เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน เชื่อว่าทุกคนก็คงร้อนๆ หนาวๆ ทรัพย์ที่ได้มาแปลความได้ว่า รับของโจร เข้าข่ายจริยาพระสังฆาธิการ โทษคือต้องปลด ตำหนิโทษ หรือต้องภาคทัณฑ์ ถ้ามหาเถรไม่กระทำตามนี้ก็คือปกป้องพวกพ้องตัวเอง ฉะนั้นไม่ได้ต่อสู้กับนายคำเพียงคนเดียวเท่านั้น
สิ่งที่อยากจะเรียกร้อง อย่างสุภาพสตรีออกมาเป็นโจทก์ที่เรียกร้องจากนายคำ วิงวอนให้ออกมาแสดงตน มีความเห็นในเรื่องนี้ว่า ที่ออกมาเพื่อแสดงตัวเป็นเมีย และแม่ โดยมีข้อเรียกร้องให้นายคำมารับผิดชอบส่งเสียเลี้ยงดูบุตร หญิงที่ออกมามีความคิดว่าแค่ปกป้องครอบครัวไม่ได้ออกมาปกป้องพระศาสนาโดยตรง แต่ก็ดีที่ออกมาทำความจริงให้กระจ่าง อย่างน้อยจะได้มีประจักษ์พยานว่าสิ่งที่พูดไปมีตัวตนจริง
ข่าว : ไทยรัฐ
5 กรกฎาคม 2556
เรียกแล้ว !
"แต่มันไม่มา จะให้ทำยังไง"
สมเด็จพระวันรัตรับสารภาพ
แปลว่า หมดสภาพ !
หลังโดนรุกหนัก จี้ให้จัดการปัญหาเณรคำโดยเร่งด่วน เพราะเป็นคดีอิทธิพล ประชาชนให้ความสนใจ ในฐานะเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติกนิกาย ต้องทำอะไรให้โปร่งใสและรวดเร็ว แต่สมเด็จพระวันรัตก็อ้างว่า "มอบหมายไปแล้ว..เขายังไม่รายงานอาตมา" สาธุ ขอให้พระเดชพระคุณฯได้เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ต่อไป !
สมเด็จขี้มูก !
สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร
ออกคำสั่งเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุตไปไม่มีผล
เหมือนสั่งขี้มูกเลยฮ่ะ
อาตมาก็มีโครงการด่วน ปิดทองพระเจดีย์พุทธคยา 250 กิโล ยังได้ไม่ครบ บุญน้อยกว่าเณรคำเยอะเลย ถ้ารอดคดีนี้ไปได้ ก็ต้องตั้งมันให้เป็น "สมเด็จเณรคำ" ไปเยย
ให้องค์นี้ไปเรียกซีฮะ
เห็นเณรคำพินอบพิเทาเชื่อฟัง ยกมือไหว้ยังกะพ่อ
เห็นไหม กราบตีนเลย
เคารพนับถือมาก มีอะไรถวายหมด
รถยนต์ราคาเป็นล้าน ก็ถวายพระเดชพระคุณฯได้
ถวายรายงานโดยไม่ถือว่าตัวเองเป็นอรหันต์เลย
พระเทพปริยัติวิมล องค์สอนพระอรหันต์
ถ้าสมเด็จพระวันรัต มอบหมายให้พระเทพปริวัติวิมล เป็นคนไปนำตัวเณรคำกลับมา รับรองว่าต้องสำเร็จ
'สมเด็จพระวันรัต' เรียกให้ 'เณรคำ' กลับแต่ยังไม่กลับ ด้าน 'มส.' จี้เจ้าคณะปกครองใช้กฎ มส. ควบคุมพระในสังกัด ด้าน 'ลูกศิษย์' ร้อง 'ปอท.' ให้ตรวจสอบภาพฉาว
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระวันรัต ในฐานะรักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตและกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำ ว่า ได้มอบหมายเจ้าคณะปกครองไปดำเนินการแล้ว อาตมาไม่อยากเข้าไปแทรกแซงหรือล้วงลูกการทำงาน รอให้ทางเจ้าคณะปกครองรายงานกลับขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามเวลานี้หลวงปู่เณรคำยังไม่ได้กลับมาประเทศไทย คงต้องรอให้กลับมาก่อน ซึ่งอาตมาได้เรียกให้กลับมาแล้ว แต่เขายังไม่กลับ อย่างไรก็ตามในการประชุม มส.วันที่ 10 ก.ค.นี้ จะยังไม่มีการนำเสนอกรณีการตรวจสอบหลวงปู่เณรคำให้ที่ประชุมรับทราบ เนื่องจากกระบวนการยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ด้านนายวรัญชัย โชคชนะ ประธานกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย กล่าวว่า ตนได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสมเด็จพระวันรัต เพื่อขอให้เร่งดำเนินการกระบวนการสอบสวนหลวงปู่เณรคำ เนื่องจากเห็นว่าทางเจ้าคณะปกครองดำเนินการล่าช้า และไม่มีวี่แววว่าเณรคำจะกลับมาหรือไม่ รวมถึงการยืดเวลาให้เณรคำไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค.56 นั้นเห็นว่านานเกินไป พร้อมกันนี้ตนยังขอให้ มส.ออกคำสั่งเรียกตัวเณรคำกลับไทยด่วนภายใน 7 วัน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และหากมีความผิดถึงขั้นปราชิกก็ต้องจับสึกทันที ถ้าไม่มาถือว่ามีเจตนาหนีความผิด
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการ พศ. ได้รายงานกรณีหลวงปู่เณรคำ ให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) รับทราบแล้ว โดยที่ประชุม มส.มีความเห็นว่า ให้สั่งการไปยังเจ้าคณะปกครองดำเนินการตามกฎหมายระเบียบและประกาศของ มส.ที่มีอยู่ ไม่จำเป็นต้องออกระเบียบอะไรเพิ่มเติม รวมถึงที่ประชุม มส. เห็นตรงกันว่าเพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้แจ้งและกำชับเจ้าคณะปกครองทุกระดับชั้นทั่วประเทศ บังคับใช้กฎระเบียบ มส. อย่างเข้มงวดในการควบคุมและดูแลพระสงฆ์ในปกครอง
ข่าว : คมชัดลึก
5 กรกฎาคม 2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ