อรหันต์โดนอายัดทรัพย์แล้ว นี่คืออภิมหาโคตรโกงแห่งสยามประเทศ ในประวัติศาสตร์โลก



อายัดทรัพย์เณรคำ 16 บัญชี !


ปปง. สั่ง "ห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน"

มิเช่นนั้นจะโดนข้อหาฟอกเงิน

อา..อรหันต์โดนอายัดทรัพย์แล้ว มูลค่ามหาศาล 200 กว่าล้าน กระจายอยู่มากมายถึง 16 บัญชี นี่คืออภิมหาโคตรโกงแห่งสยามประเทศ โดยใช้พระพุทธศาสนาบังหน้า หนักหนากว่าคดีเครื่องราชย์วัดเทพศิรินทร์นับพันเท่า ถ้าดำเนินคดีแบบเจ้าคุณอุดม ก็อาจจะมีพระอรหันต์ติดคุกนานถึง 200 ปี แหมเกิดเป็นชาติสุดท้ายแล้ว เสวยชาติทุกอย่างเลย แล้วเอ้อ..เงินก็ถูกอายัดแล้ว จะเอาที่ไหนมาใช้จ้างหางเครื่องอีก เฮ้อ คิดแล้วกลุ้ม !





ภาพบักเณรคำ ชุด หาฝั่งไม่เจอ เจอแต่คดีอาญา









 


วันที่ 2 ก.ค. ร.ต.อ.หญิงสุวณีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรมทางการเงินของพระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กับพวก ว่าภายหลังตรวจสอบฐานข้อมูลธุรกรรม 16 บัญชีของหลวงปู่เณรคำและพวก ตามที่เครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยื่นไว้ พบชัดเจน 10 บัญชี เป็นของหลวงปู่เณรคำและเครือข่าย มีกระแสเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาท และเงินมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาแทบทุกวัน เบื้องต้นถือเป็นบัญชีที่มีเหตุอันควรสงสัย จึงขอเตือนเครือข่ายหลวงปู่เณรคำ และหลวงปู่เณรคำ อย่าเคลื่อนย้ายทรัพย์สินในบัญชีเด็ดขาด เพราะจะเข้าข่ายการฟอกเงินทันที ซึ่งจะมีความผิดทางอาญา โทษจำคุก 2-10 ปี หากยักย้ายหลายครั้งก็จะผิดหลายกรรมหลายวาระ และถ้ามีการนำเงินไปซื้อรถหรือเครื่องบินใดๆ ทรัพย์นั้นก็จะผิดฐานฟอกเงิน และต้องถูกยึดอายัดเช่นกัน หากเป็นเงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชน

รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า รายงานธุรกรรมที่พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาทนี้ เฉพาะรายงานที่มีการทำธุรกรรมมากกว่า 2 ล้านบาทในแต่ละครั้งที่กฎหมายกำหนดให้สถาบันการเงินต้องแจ้งกับ ปปง. ยังไม่รวมธุรกรรมอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในวงเงินต่ำกว่า 2 ล้านบาทในแต่ละครั้ง มั่นใจจากข้อมูลที่มีอยู่ค่อนข้างชัดเจนว่าว่าหลวงปู่เณรคำและเครือข่ายมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงิน ด้วยการฉ้อโกงประชาชน ในโครงการต่างๆ ทั้งการจัดสร้างพระแก้ว เปิดบัญชีหลอกให้ประชาชนมาบริจาคเงิน โครงการจัดสร้างโรงพยาบาล ซึ่งในสัปดาห์หน้า ปปง. จะจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ที่วัดป่าขันติธรรม เพื่อรวบรวมประจักษ์พยาน จากนั้นจะรายงานเข้าสู่คณะกรรมการธุรกรรมในวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 เพื่อให้มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินอย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งจะตรวจสอบเครือข่ายและบุคคลที่ปรากฏตามข่าวว่ามีความสัมพันธ์เป็นภรรยาและลูกของพระวิระพลด้วย

นอกจากนี้จะประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยในเวลา 13.30 น. วันนี้ นายสงกรานต์และเครือข่ายพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติฯ จะเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ ปปง.

 


ข่าว : มติชน
03 กรกฎาคม 2556



"ขับบักเณรคำ"


แนวปฏิบัติของคณะสงฆ์อุบลราชธานี






ทูอินวัน

เจ้าอาวาส-เจ้าคณะจังหวัดของบักเณรคำ

หลังจากรับโตโยต้าของเณรคำมาขับได้หลายปี
วันนี้เพิ่งรู้ว่า "รับของโจร" จึงต้องหันมาไล่โจรออกวัด
ไม่งั้นตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอุบลปิ๋วแน่



จากกรณีการตรวจสอบหลวงปู่เณรคำ รวมถึงไม่กลับประเทศไทยตามกำหนดนั้น วันนี้ (2 ก.ค.) พระราชธรรมโกศล (สวัสดิ์) เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา การให้อยู่ในสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ โดยจะรอผลการตรวจสอบของทางเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ หากพบว่า มีความผิดในกรณีต่างๆ ทางวัด ก็ต้องดำเนินการขับพระวิรพล สุขผล ออกจากสังกัดวัด ส่วนสาเหตุที่ยังให้ หลวงปู่เณรคำ ยังอยู่ในสังกัดวัด ตั้งแต่ปี 2549 นั้น ต้องเข้าใจด้วยว่า พระเราต้องอยู่กันด้วยความเมตตาต่อกัน เมื่อพระมาขออยู่ในสังกัดเราก็อนุญาต เพราะมองว่า เป็นพระด้วยกันและไม่ได้มีเรื่องเสียหายอะไร อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป วัดก็ต้องรอผลการตรวจสอบข้อมูลของทางจังหวัดศรีสะเกษอีกครั้ง

ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดทางหลวงปู่เณรคำ หรือว่าลูกศิษย์ยังไม่ได้แจ้งกลับมายังกรมศิลปากร หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแจ้งไปที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ให้รับทราบว่าการดำเนินการก่อสร้างพระพุทธมณีมหารัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบ เนื่องจากพระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปสำคัญ 1 ใน 61 รายการที่ต้องขออนุญาตก่อนจัดสร้างตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งชาติและการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ พ.ศ. 2520




ข่าว : เดลินิวส์

03 กรกฎาคม 2556
เข้าข่ายฟอกเงิน !

ปปง.ชี้มูลเณรคำจาก 10 บัญชีเงินฝาก

อา..แบบนี้ก็ยึดทรัพย์กันแหลกราญสิคะ







รุ่นรวยไม่มีเหตุผล VS รุ่นจนไม่มีเหตุผล


ปปง.ชี้ เส้นทางการเงินของ 'หลวงปู่เณรคำ' เข้าข่ายฟอกเงิน

ปปง.ชี้ เส้นทางการเงินของ 'หลวงปู่เณรคำ' เข้าข่ายฟอกเงิน พบหลักฐานที่มีค่อนข้างชัดสำหรับ พบมีเงินใน 10 บัญชีกว่า 200 ล้านบาทและมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา และจะมีการตรวจสอบเพิ่มกับบัญชีอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบว่ามีความมผิดจริงจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป...

ปปง.ตรวจสอบ กรณีภาพถ่ายการใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย ของพระวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เจ้าสำนักสงฆ์ขันติธรรม หรือวัดปาขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ สร้างความสงสัยถึงความเหมาะสมของภิกษุรูปนี้ จนถูก สำนักงานป้องกันและปราชปรามการฟอกเงิน ( ปปง. ) เตรียมตรวจสอบธุรกรรมการเงิน การเรี่ยไรเงินจากประชาชนในการสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก และก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ก.ค. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางมาที่ ปปง. เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ฝ่ายปฏิบัติการ ปปง. เพื่อให้ถ้อยคำ พร้อมนำเอกสารสำคัญประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมต่างๆ

นายสงกานต์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อให้ข้อมูล และเอกสารเพิ่ม หลังจากที่เคยมายื่นแล้ว ได้ไปสอบถามผู้มีความรู้เกี่ยวกับการสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ของหลวง ปู่เณรคำ ที่ระบุว่ามูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท ทั้งที่จริงสร้างด้วย ผงเรซินผสมหินสีเขียว มูลค่าจริงน่าจะไม่เกิน 30ล้านบาทเท่านั้น รวมทั้งตรวจสอบทองคำแท่งที่รับบริจาค น้ำหนัก 8,000 กก. มูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท ว่าอยู่ที่ใด


ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการขอรับบริจาคเพื่อสร้าง โรงพยาบาลที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อสอบถามกับผู้อำนวยการ พบว่ายังไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ความจริงต้องมีการขออนุญาตก่อน มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน ยอดเงินรวมต้องชัดเจน นอกจากมายื่นที่ ปปง. แล้วยังได้ให้ บก.ป. ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆอีก รวมทั้งพี่น้องของหลวงปู่เณรคำ ที่มีทั้งหมด 5 คน หลวงปู่เณรคำเป็นบุตรคนที่ 4 เพราะญาตมีน้องมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ บางคนมีบ้านราคา 20 ล้านบาท รถหรูหลายคัน ซึ่งเรื่องนี้ตนจะเดินทางไปที่ บก.ป. วันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ค. ) เวลา 11.00 น. ซึ่งทาง บก.ป. จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญอีกด้วย

ด้าน ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ กล่าวว่า ข้อมูลเอกสารที่มายื่นเพิ่มเติมวันนี้มีประโยชน์ ชัดเจนมากขึ้น โดยจะเก็บรวบรวมกับที่เคยมายื่นไปแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวน เบื้องต้นพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ 70 – 80% เข้าข่ายฉ้อโกง แต่ยังไม่ระบุชัดว่าผิดจริง ซึ่งต้องตรวจสอบข้อมูลที่น่าสงสัยว่าจะมีการหมุนเวียนเงิน ทั้งบัญชีของหลวงปู่เณรคำ วัด และผู้เกี่ยวข้อง มูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ตามที่ยื่นมารวม 16 บัญชี ตรวจไปแล้ว 10 บัญชี และจะมีการตรวจสอบเพิ่มกับบัญชีอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนการอายัดทรัพย์สินต้องมีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. วันที่ 19 ก.ค. นี้ และประสานข้อมูลกับ บก.ป. ซึ่งจะทราบผลหลังจากนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริงทาง ปปง. จะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป.



ข่าว : ไทยรัฐ
03 กรกฎาคม 2556




ปลดกลางอากาศ !

เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษประกาศกร้าว

"ไม่ให้เณรคำเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าขันติธรรม"

ไม่ว่ากรณีใดๆ


และถ้าภายใน 30 วันนับจากนี้ไป ยังไม่เข้ารายงานตัวต่อพระเจ้าหน้าที่ ก็จะโดนไล่ให้พ้นคณะสงฆ์ศรีสะเกษ จะไปอยู่โลกไหนก็ชั่ง !



อา..เล่นปลดกันกลางอากาศแบบนี้ เมื่อไม่มีตำแหน่งแล้ว ผม-เณรคำจะกลับมาทำอะไรไม่ทราบ เพราะมาก็ผิด ไม่มาก็ผิด ผิดทั้งขึ้นทั้งล่อง แต่กลับเมืองไทยถูกดำเนินคดี-ติดคุก สู้อยู่ปารีสกับเสี่ยปานขาวไม่ดีกว่าหรือ อิสระเสรีมีกินมีใช้ สะพายหลุยส์ไปเดินเล่นแถวๆ ชองเซลิเซ่ เท่ห์กว่า เล่นบทอรหันต์ต่างแดนให้พวกอิจฉาไปเลย..ยังเหลืออีกหลายร้อยล้าน !



พระครูวิสุทธิญาณ
เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต



ศรีสะเกษ - เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษขีดเส้น 31 ก.ค. “เณรคำ” ต้องมาพบกรรมการสอบสวน หากเบี้ยวห้ามเข้าเขตปกครองของสงฆ์ศรีสะเกษ เหตุถือว่าปกครองไม่ได้แล้ว เผยแม้ตั้งวัดป่าขันติธรรมถูกต้องตาม กม.จะไม่ให้เณรคำเป็นเจ้าอาวาส เกรงมีเรื่องวุ่นวายไม่จบสิ้น 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (2 ก.ค.) ที่วัดบ้านซำตาโตง ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และเจ้าอาวาสวัดบ้านซำตาโตง ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนพระอธิกรณ์ พระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า แม้จะมีการจัดตั้งสำนักสงฆ์ขันติธรรมให้เป็นวัดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็จะไม่ให้พระวิรพลเป็นเจ้าอาวาส ต้องขอเรื่องนี้ไว้ก่อน และจะขอให้การสรรหาเจ้าอาวาสอยู่ในหลักการของท้องถิ่น ซึ่งแนวทางในการสรรหาเจ้าอาวาสวัดเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันไปตามนั้น

หากพระวิรพลเชื่อและทำตามก็ต้องขอให้เป็นไปตามที่เขานิยมยินยอมกัน หากพระวิรพลไม่ยินยอม ทางคณะสงฆ์ศรีสะเกษไม่สามารถที่จะตั้งพระวิรพลเป็นเจ้าอาวาสได้ เนื่องจากจะมีเรื่องวุ่นวายขึ้นมาอีกไม่จบสิ้น ขณะนี้ต้องปรึกษาหารือกันว่าทำอย่างไรเรื่องวุ่นวายต่างๆ ของสำนักสงฆ์ขันติธรรมจะจบโดยไม่มีข้อครหา

พระครูวิสุทธิญาณกล่าวว่า การที่คณะกรรมการสอบสวนสั่งให้พระวิรพล สุขผล ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของคณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต มาพบแล้วไม่มาพบ ถือว่าพระวิรพลยังแข็งกระด้างอยู่ หรือว่าอยู่ไกลมายังไม่ถึงจะต้องแจ้งให้ทราบ ต้องแจ้งให้คนที่ได้รับทุกข์ได้ทราบ ซึ่งจะให้โอกาสพระวิรพลถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ หากพระวิรพลไม่มาพบคณะกรรมการสอบสวนก็จะยกเรื่องทั้งหมดให้ไปเจรจากันที่ จ.อุบลราชธานี จะไม่ให้มาวุ่นวายกับอาตมาภาพอีก จะไม่ต้อนรับอีกต่อไป และหากเรื่องยังไม่สงบจะไม่ให้พระวิรพลเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสำนักสงฆ์ขันติธรรมอีกต่อไป และห้ามพระวิรพลเข้ามาในเขตปกครองของสงฆ์ศรีสะเกษเพราะถือว่าปกครองไม่ได้

“ส่วนโทษผิดพระธรรมวินัยนั้นยังเอาโทษไม่ได้ แต่พระวิรพลไม่เคารพอาตมาภาพแล้ว อาตมาภาพก็จะไม่ให้มาอยู่ด้วยในเขต จ.ศรีสะเกษอีกต่อไป ถ้ายังเคารพกันอยู่ก็จะต้องมาปรึกษาหารือกัน พระวิรพลจะหลบหลีกอย่างไรก็ว่ากันไป”

พระครูวิสุทธิญาณกล่าวว่า การที่พระสงฆ์ใช้ข้าวของราคาแพง นั่งเครื่องบินเจ็ตนั้นถือว่าไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ เพราะตามหลักของพระพุทธศาสนาจะเป็นที่ครหาของคนทั่วไป ถ้าอยู่แบบจนๆ แบบที่อาตมาอยู่ยังจะดีกว่า หรือพระวิรพลเห็นว่าเป็นคนละคนกันก็แล้วแต่ ซึ่งตามหลักของพระพุทธเจ้าแล้วต้องอยู่แบบจนๆ เสียก่อน ถึงแม้จะใหญ่โตหรูหราขึ้นไปก็ควรสังวรระวังตนไม่ให้เป็นที่ครหาของคนทั่วไป เราเป็นพระอาศัยญาติโยมเป็นคนให้ แต่มาทำตัวใหญ่กว่าเด่นกว่าคนให้มันไม่ถูกต้อง จะต้องให้พอเหมาะพอดี

ส่วนกรณีที่พระเปิดบัญชีธนาคารส่วนตัวนั้น ข้อเท็จจริงก็มีอยู่บ้างเพราะจะสามารถเอาปัจจัยไปใช้ได้สะดวก ซึ่งตามความนิยมแล้วจะต้องเอาปัจจัยไปเข้าบัญชีของวัดหรือคณะสงฆ์ แต่ความคิดของผู้หาปัจจัยมาก็จะเก็บไว้บ้างเพื่อความสะดวกของเจ้าของ จะได้ไม่ขรุขระ ถือว่าเป็นสมบัติของเจ้าของที่หามาเอง ซึ่งก็น่าคิด เนื่องจากจะว่าผิดก็ยังไม่ได้ เพราะทางพระพุทธศาสนาก็ยังอนุโลมกันอยู่ สมบัติอะไรเป็นของส่วนตัว และของสงฆ์จะต้องแยกกัน หากเจ็บไข้ได้ป่วยจะสามารถใช้ปัจจัยในการรักษาพยาบาลได้ รวมทั้งการเดินทางไปไหนมาไหนต้องใช้ปัจจัยทั้งสิ้น



ข่าว : ผู้จัดการ
03 กรกฎาคม 2556




ปป.-กองปราบ !


ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เช็คบิลเณรคำ


อ้าฮ่า..หลาย คย. คำย่อแล้วนะเนี่ย หลังจากพระอรหันต์แสดงฤทธิ์เป็นรูป "สองนิ้ว" แปลว่า 2 ชิ้น ภายหลังจึงมีสำนวนใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ อาทิเช่น มส. (มหาเถรสมาคม) พศ. (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) สพก. (กรมสรรพากร) DSI. (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) และ กมธ. (กรรมาธิการศาสนา) หน่วยงานเหล่านี้ได้รับเรื่องร้องเรียนและส่งกำลังเข้าขุดคุ้ยวัดป่าขันติธรรมอย่างพร้อมเพรียง งานนี้จึงยิ่งกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เห็นจะมีทางรอดทางเดียวคือ มุดรูอยู่ที่วัดลาวฝรั่งเศสโน่นแหละ ปลอยภัยที่สุดแล้ว เพราะกลับมาก็ไม่มีที่ซุกหัวนอน ขนาดบ้านเกิดยังถูกกองปราบวางกำลังไว้ทุกด้านแล้ว เผลอๆ แค่เหยียบสนามบินก็ถูกล็อกตัวไปกองปราบแล้ว





ผบก.ป.สั่งตรวจสอบ "สำนักขันติธรรม-บ้านเดิม" หลวงปู่เณรคำ กระทำขัดพระธรรมวินัยหรือไม่

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีที่ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อขอให้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือพระวิรพล สุขผล ประธานสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีการกระทำที่เข้าข่ายขัดต่อพระธรรมวินัย และความผิดในคดีอาญา รวม 21 ประเด็น โดยนำเอกสารและภาพถ่ายต่างๆ มามอบไว้เป็นหลักฐาน ว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เอกพล พลมณี รอง ผกก.3 บก.ป.เข้าตรวจสอบพื้นที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ใน จ.ศรีสะเกษ และที่บ้านพักเดิมของหลวงปู่เณรคำ ที่ จ.ยโสธร พร้อมทั้งสอบปากคำพยานซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว


ข่าว : มติชน
03 กรกฎาคม 2556




โอวจอร์จ !

สมเด็จฯเณรคำเสด็จพระราชดำเนิน





เคยมีคนเล่ากันว่า หลวงปู่เณรคำท่านอยากจะเป็นพระราชาคณะหรือพระเจ้าคุณ แต่วันนี้ก็ปรากฏแล้วว่า "ไม่จริง" เพราะความจริงแล้ว หลวงปู่เณรคำท่านเป็น "เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน" ไปแล้ว เคยเสด็จพระราชดำเนินรับพวงมาลัยในระดับเจ้าฟ้ามานับไม่ถ้วน มิน่าถึงกล้าประกาศว่า จะยื่นฎีกาขอต่อพระเจ้าอยู่หัว เพื่อล้มคดี



Take a look





เสด็จฯกรมปศุสัตว์ วันที่ 9 พฤษภาคม 2555



ด้วยเกล้าฯ ด้วยกระหม่อมฯ ขอเดชะฯ




หมายเหตุ : ดัดแปลงมาจากบักเณรคำดอทคอม


อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
03 กรกฎาคม 2556

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#พระเครื่องในประวัติศาสตร์ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร สามารถศึกษาการอนุรักษ์ได้ด้วยตนเอง

#หลวงปู่ทวด องค์ในประวัติศาสตร์ เพื่อหาทุนในการพิทักษ์รักษา โบราณสถาน โบราณวัตถุ ๒๕๖๑

#พระกริ่งปวเรศแท้ในประวัติศาสตร์ไทย บันทึกไว้โดย สมเกียรติ กาญจนชาติ