จารึกประวัติศาสตร์ NGO ขอชื่นชม ไทยรัฐ + เอ็นจีโอ รวมตัวเล่นข่าวหลวงปู่เณรคำ เพื่อปกป้องพระธรรมวินัย
ไทยรัฐ + เอ็นจีโอ รวมตัวเล่นข่าวหลวงปู่เณรคำ
นสพ ไทยรัฐที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ ได้จับประเด็นข่าวหลวงปู่เณรคำ ฉันติโก อย่างต่อเนื่องตั้งแต่สองปีที่แล้ว ซึ่งก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แค่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม แล้วก็เป็นลมหายไป
ไทยรัฐ + เอ็นจีโอ รวมตัวเล่นข่าวหลวงปู่เณรคำ
เปิดประวัติ "หลวงปู่เณรคำ"
ล้วงลึกลงไปถึงประวัติของหลวงปู่เณรคำ พระชื่อดังท่านนี้บวชตั้งแต่อายุ 12 แล้วปฏิบัติทางสมาธิภาวนาแบบอุกฤษฏ์คือยอมตายถ้าไม่บรรลุธรรม จนมีสมาธิจิตสูงถึงระดับฌาณ 8 มีฤทธิ์อภิญญา ขณะนี้ท่านอายุเพียง 30 ปีเศษเท่านั้น แต่ที่ท่านเรียกตัวเองว่า หลวงปู่ เพราะรวมกับอายุในชาติที่แล้ว ท่านระลึกชาติได้หลายแสนชาติ เห็นนรก เห็นเทวดาและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ต่างๆ
ช่วงที่ธุดงค์อยู่ตามป่าตามถ้ำ ก็ได้สัมผัสกับผี เปรต พญานาค เทวดามากมาย ครั้งหนึ่งปฏิบัติธรรมอยู่บนยอดเขา ก็มีภิกษุชรารูปหนึ่งเดินขึ้นมาสอนธรรมะ การเดินจงกรม การพิจารณาข้อธรรมให้ท่านบ่อยๆ ท่านถามว่าเป็นใคร ภิกษุรูปนั้นก็ไม่ตอบ ต่อมาเมื่อท่านลงจากเขาจึงเห็นรูปภิกษุนั้นในวัดแห่งหนึ่ง จึงทราบว่าเป็นพระอาจารย์ที่ละสังขารไปเพราะเครื่องบินตกเมื่อปี 2518
หลวงปู่ได้ใช้กรรมที่ท่านทำไว้ในอดีตชาติ เคยทำไม่ดีไว้กับภรรยาท่าน ชาตินี้ภรรยาเกิดเป็นงูเห่าคอยแก้แค้น ท่านรู้และยอมใช้กรรม วันหนึ่งท่านยืนสมาธิอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง งูเห่าตัวนี้ก็ฉกเข้าที่ขา พิษแปลบเข้าหัวใจ ท่านนั่งสมาธิอยู่ 3 วัน ยอมตาย แต่ก็ไม่ตาย พิษงูไม่อาจทำร้ายท่านได้
อดีตชาติหนึ่ง เคยจับเพื่อนมัดรอบตัวหวังให้ตาย แต่เกิดความสงสารเลยปล่อยไป ชาตินี้เพื่อนเกิดเป็นงูเหลือม ท่านรู้และขอชดใช้กรรม นั่งสมาธิอยู่ งูเหลือมก็เข้ามารัดกายท่านจนหายใจไม่ออก ท่านนึกถึงพระพุทธเจ้าและขอใช้กรรมให้งู แต่งูก็คลายแล้วเลื้อยหนีไป ไม่ตายอีก
วันหนึ่งท้าวสักกะพระอินทร์มาหาท่าน บอกให้ท่านสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่เพื่อแก้ไขโลกให้พ้นจากเหตุเลวร้ายทั้งมวล ขณะนี้หลวงปูเณรคำสร้างพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาแล้ว หน้าตัก 15 เมตร สูง 18.5 เมตร ผิวกายเคลือบด้วยหยกเขียว เครื่องศิราภรณ์และเครื่องทรงใช้ทองคำหนัก 9 ตันเศษ รูปองค์พระเสร็จแล้วเหลือแต่เครื่องประดับ เมื่อเสร็จจะเป็นพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก สุกสกาวด้วยทองคำเหลืองอร่าม ใช้งบ 1,500 ล้านบาท
จากประวัตินี้มีการสร้างสถิติของยอดพิมพ์หนังสือสูงสุด จนถึงกับต้องมีเล่มที่สองออกมา และเกิดการเลียนแบบหลวงปู่เณรคำขึ้นมากมายในแถบภาคอีสาน ซึ่งใช้ช่องโหว่ของการอ้างว่าเป็นร่างอวตารของพระเถราจารย์มาเกิดเพื่อสร้างบารมีต่อเนื่อง การอ้างเช่นนั้นเพื่อหวังลาภสักการะ ดังปรากฏในคลิปข่าวนี้ครับ
อัปโหลดเมื่อ 13 ก.พ. 2012
ภาพข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ ประจำวันที่ 18 มิ.ย. 2556
ภาพประชาสัมพันธ์ในเฟสบุ๊คของวัดป่าขันติธรรม
นสพ ไทยรัฐที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ ได้จับประเด็นข่าวหลวงปู่เณรคำ ฉันติโก อย่างต่อเนื่องตั้งแต่สองปีที่แล้ว ซึ่งก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แค่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม แล้วก็เป็นลมหายไป
ต่อมาเกิด ปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก สั่นสะเทือนไปถึงวงการศาสนา สำหรับกรณีของพระในวัย 30 กว่าที่อ้างว่าเป็นหลวงปู่เณรคำ ซึ่งมีภาพถ่ายในอิริยาบถต่าง ๆ ว่อนเน็ต เช่น ชูสองนิ้วในศูนย์การค้า นั่งแชะภาพอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว ใส่แว่นดำเรย์แบน มีกระเป๋าหลุยส์อยู่ข้างๆ ส่วนภาพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักสุด เห็นจะเป็นภาพหน้าคล้ายที่นอนกับสีกา
ภาพเหล่านี้ ทำให้พุทธศาสนิกชนหลาย ๆ คนเคลือบแคลงใจ และตั้งคำถามว่า นี่หรือคือพระสงฆ์ที่อ้างตนว่า "มีสมาธิจิตสูงถึงระดับฌาน 8" เนื่องจากพฤติกรรมที่แสดงออกมาค่อนข้างขัดแย้ง โดยเฉพาะการยึดติดในตัววัตถุ สิ่งของ ทั้ง ๆ ที่ตามหลักความเป็นจริงในทางพระพุทธศาสนาแล้ว ควรมุ่งสู่ความหลุดพ้น และปล่อยวางไม่ใช่หรือ
ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามไปยังต้นสังกัดของหลวงพ่อรูปดังกล่าว พระเสริม ธีรธรรมโม กองงานพระเลขาฯ ตัวแทนพระชื่อดังรูปดังกล่าว กล่าวว่า เป็นภาพที่ทำการตัดต่อเพื่อให้หลวงพ่อเสียชื่อเสียง ซึ่งการโจมตี สร้างกระแสปั่นป่วนแบบนี้มีมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีแล้ว
“ตอนนี้ท่านก็อยู่วัดกับอาตมาที่ จ.นครนายก เป็นวัดที่ไม่มีชื่อท่านมาทำงานด้านพัฒนาและศึกษาธรรมะ ดังนั้นจึงจะไม่รับไม่คุยโทรศัพท์กับใคร เรื่องภาพไม่เหมาาะสมในเฟซบุ๊กไม่ใช่เฟซบุ๊กของท่าน เพราะท่านไม่ได้เล่น มีแต่พระลูกวัดที่เล่น ส่วนใหญ่ท่านก็ใช้อินเตอร์เน็ตติดตามข่าวสารเพื่อให้ทันโลก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเฟซบุ๊กส่วนตัวแน่นอน ถามว่าใครเป็นคนปล่อยภาพเราก็พอรู้บางสิ่งบางอย่าง คนที่โจมตีเป็นฆราวาสก็มีพระก็มี เยอะแยะไปหมด แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจ อยากทำก็ทำไป เราไม่ได้สะทกสะท้านอะไร และที่สำคัญท่านอยู่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ต่างประเทศอย่างที่เป็นข่าวกันอย่างแน่นอน” กองงานพระเลขาฯ กล่าว
ซึ่งเรื่องของรูปนี้นายสมเกียรติ กาญจนชาติ เอ็นจีโอด้านศาสนาและจริยธรรม รวบรวมเป็นบันทึกประวัติศาสตร์จับตอแหลหลวงปู่เณรคำ ลงบล๊อกเมื่อ 3 ก.พ. 2556
http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2013/02/blog-post_3.html
ขอถามคำเดียวว่า แค่เรื่องภาพที่ถ่ายเองโพสต์เองสามารถพิสูจน์ได้เช่นนี้ ยังอ้างว่า
ใครทำคนนั้นก็อัปรีย์สิ้นดี จริงไหมครับหลวงปู่ ?
ทำน้ำมนต์ฉบับตัดต่อ
ล้วงลึกลงไปถึงประวัติของหลวงปู่เณรคำ พระชื่อดังท่านนี้บวชตั้งแต่อายุ 12 แล้วปฏิบัติทางสมาธิภาวนาแบบอุกฤษฏ์คือยอมตายถ้าไม่บรรลุธรรม จนมีสมาธิจิตสูงถึงระดับฌาณ 8 มีฤทธิ์อภิญญา ขณะนี้ท่านอายุเพียง 30 ปีเศษเท่านั้น แต่ที่ท่านเรียกตัวเองว่า หลวงปู่ เพราะรวมกับอายุในชาติที่แล้ว ท่านระลึกชาติได้หลายแสนชาติ เห็นนรก เห็นเทวดาและองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ต่างๆ
ช่วงที่ธุดงค์อยู่ตามป่าตามถ้ำ ก็ได้สัมผัสกับผี เปรต พญานาค เทวดามากมาย ครั้งหนึ่งปฏิบัติธรรมอยู่บนยอดเขา ก็มีภิกษุชรารูปหนึ่งเดินขึ้นมาสอนธรรมะ การเดินจงกรม การพิจารณาข้อธรรมให้ท่านบ่อยๆ ท่านถามว่าเป็นใคร ภิกษุรูปนั้นก็ไม่ตอบ ต่อมาเมื่อท่านลงจากเขาจึงเห็นรูปภิกษุนั้นในวัดแห่งหนึ่ง จึงทราบว่าเป็นพระอาจารย์ที่ละสังขารไปเพราะเครื่องบินตกเมื่อปี 2518
หลวงปู่ได้ใช้กรรมที่ท่านทำไว้ในอดีตชาติ เคยทำไม่ดีไว้กับภรรยาท่าน ชาตินี้ภรรยาเกิดเป็นงูเห่าคอยแก้แค้น ท่านรู้และยอมใช้กรรม วันหนึ่งท่านยืนสมาธิอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง งูเห่าตัวนี้ก็ฉกเข้าที่ขา พิษแปลบเข้าหัวใจ ท่านนั่งสมาธิอยู่ 3 วัน ยอมตาย แต่ก็ไม่ตาย พิษงูไม่อาจทำร้ายท่านได้
อดีตชาติหนึ่ง เคยจับเพื่อนมัดรอบตัวหวังให้ตาย แต่เกิดความสงสารเลยปล่อยไป ชาตินี้เพื่อนเกิดเป็นงูเหลือม ท่านรู้และขอชดใช้กรรม นั่งสมาธิอยู่ งูเหลือมก็เข้ามารัดกายท่านจนหายใจไม่ออก ท่านนึกถึงพระพุทธเจ้าและขอใช้กรรมให้งู แต่งูก็คลายแล้วเลื้อยหนีไป ไม่ตายอีก
วันหนึ่งท้าวสักกะพระอินทร์มาหาท่าน บอกให้ท่านสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่เพื่อแก้ไขโลกให้พ้นจากเหตุเลวร้ายทั้งมวล ขณะนี้หลวงปูเณรคำสร้างพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาแล้ว หน้าตัก 15 เมตร สูง 18.5 เมตร ผิวกายเคลือบด้วยหยกเขียว เครื่องศิราภรณ์และเครื่องทรงใช้ทองคำหนัก 9 ตันเศษ รูปองค์พระเสร็จแล้วเหลือแต่เครื่องประดับ เมื่อเสร็จจะเป็นพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก สุกสกาวด้วยทองคำเหลืองอร่าม ใช้งบ 1,500 ล้านบาท
จากประวัตินี้มีการสร้างสถิติของยอดพิมพ์หนังสือสูงสุด จนถึงกับต้องมีเล่มที่สองออกมา และเกิดการเลียนแบบหลวงปู่เณรคำขึ้นมากมายในแถบภาคอีสาน ซึ่งใช้ช่องโหว่ของการอ้างว่าเป็นร่างอวตารของพระเถราจารย์มาเกิดเพื่อสร้างบารมีต่อเนื่อง การอ้างเช่นนั้นเพื่อหวังลาภสักการะ ดังปรากฏในคลิปข่าวนี้ครับ
อัปโหลดเมื่อ 13 ก.พ. 2012
ชมข่าวล่าสุด คลิ้ก http://thaitvnews2013.blogspot.com
ภาพข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ ประจำวันที่ 18 มิ.ย. 2556
ภาพประชาสัมพันธ์ในเฟสบุ๊คของวัดป่าขันติธรรม
นสพ ไทยรัฐที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประเทศ ได้จับประเด็นข่าวหลวงปู่เณรคำ ฉันติโก อย่างต่อเนื่องตั้งแต่สองปีที่แล้ว ซึ่งก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แค่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม แล้วก็เป็นลมหายไป
ต่อมาเกิด ปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก สั่นสะเทือนไปถึงวงการศาสนา สำหรับกรณีของพระในวัย 30 กว่าที่อ้างว่าเป็นหลวงปู่เณรคำ ซึ่งมีภาพถ่ายในอิริยาบถต่าง ๆ ว่อนเน็ต เช่น ชูสองนิ้วในศูนย์การค้า นั่งแชะภาพอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว ใส่แว่นดำเรย์แบน มีกระเป๋าหลุยส์อยู่ข้างๆ ส่วนภาพที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักสุด เห็นจะเป็นภาพหน้าคล้ายที่นอนกับสีกา
ภาพเหล่านี้ ทำให้พุทธศาสนิกชนหลาย ๆ คนเคลือบแคลงใจ และตั้งคำถามว่า นี่หรือคือพระสงฆ์ที่อ้างตนว่า "มีสมาธิจิตสูงถึงระดับฌาน 8" เนื่องจากพฤติกรรมที่แสดงออกมาค่อนข้างขัดแย้ง โดยเฉพาะการยึดติดในตัววัตถุ สิ่งของ ทั้ง ๆ ที่ตามหลักความเป็นจริงในทางพระพุทธศาสนาแล้ว ควรมุ่งสู่ความหลุดพ้น และปล่อยวางไม่ใช่หรือ
ไทยรัฐออนไลน์ได้สอบถามไปยังต้นสังกัดของหลวงพ่อรูปดังกล่าว พระเสริม ธีรธรรมโม กองงานพระเลขาฯ ตัวแทนพระชื่อดังรูปดังกล่าว กล่าวว่า เป็นภาพที่ทำการตัดต่อเพื่อให้หลวงพ่อเสียชื่อเสียง ซึ่งการโจมตี สร้างกระแสปั่นป่วนแบบนี้มีมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปีแล้ว
“ตอนนี้ท่านก็อยู่วัดกับอาตมาที่ จ.นครนายก เป็นวัดที่ไม่มีชื่อท่านมาทำงานด้านพัฒนาและศึกษาธรรมะ ดังนั้นจึงจะไม่รับไม่คุยโทรศัพท์กับใคร เรื่องภาพไม่เหมาาะสมในเฟซบุ๊กไม่ใช่เฟซบุ๊กของท่าน เพราะท่านไม่ได้เล่น มีแต่พระลูกวัดที่เล่น ส่วนใหญ่ท่านก็ใช้อินเตอร์เน็ตติดตามข่าวสารเพื่อให้ทันโลก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเฟซบุ๊กส่วนตัวแน่นอน ถามว่าใครเป็นคนปล่อยภาพเราก็พอรู้บางสิ่งบางอย่าง คนที่โจมตีเป็นฆราวาสก็มีพระก็มี เยอะแยะไปหมด แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจ อยากทำก็ทำไป เราไม่ได้สะทกสะท้านอะไร และที่สำคัญท่านอยู่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ต่างประเทศอย่างที่เป็นข่าวกันอย่างแน่นอน” กองงานพระเลขาฯ กล่าว
ซึ่งเรื่องของรูปนี้นายสมเกียรติ กาญจนชาติ เอ็นจีโอด้านศาสนาและจริยธรรม รวบรวมเป็นบันทึกประวัติศาสตร์จับตอแหลหลวงปู่เณรคำ ลงบล๊อกเมื่อ 3 ก.พ. 2556
http://picasawebcothssomkiert.blogspot.com/2013/02/blog-post_3.html
ขอถามคำเดียวว่า แค่เรื่องภาพที่ถ่ายเองโพสต์เองสามารถพิสูจน์ได้เช่นนี้ ยังอ้างว่า
"ไม่ได้ทำ แต่ถูกใส่ร้าย" แล้วเรื่องสวรรค์นิพพานมันจะเหลวไหลไร้สาระปานใด ?
ภาพตัวอย่าง จากแฟ้มภาพของ หลวงปู่เณรคำ ดอทคอม
และภาพเหล่านี้ที่ไหน ? ใครตัดต่อ ?
ใครทำคนนั้นก็อัปรีย์สิ้นดี จริงไหมครับหลวงปู่ ?
นี่ไม่ใช่หลวงปู่เณรคำองค์จริง เพราะอรหันต์ไม่ทำระยำแบบนี้
ใส่ร้ายป้ายสีพระอริยบุคคล ตกนรกเจ็ดชั่วโคตรนะจะบอกให้
กล้องใคร บอกมานะ
นี่เสด็จไปดูเครื่องบิน
ภาพตัดต่อทั้งนั้นเลย เลวระยำเหลือเกินคนทำนี่
ใครใส่ร้ายหลวงปู่
เห็นไหม ตัดต่อชัวร์ !ทำน้ำมนต์ฉบับตัดต่อ
ตัดต่อไปเที่ยวห้าง ร้านแบบนี้ถ้าไม่ใช่คอสโก้ก็ต้องแซมคลับ
ตัดต่อเยอะจัง
อ้าว ! เจอแล้วมือตัดต่อภาพ
ไหนขอดูหน้าใกล้ๆ หน่อยซิระยำคนไหนที่ตัดต่อภาพหลวงปู่เณรคำลงในหลวงปู่เณรคำดอทคอม
*********************
แม้จะมีกระแสสังคมต่อต้านพฤติกรรมของหลวงปู่เณรคำตามสื่อ แต่คณะศิษยานุศิษย์ยังคงนิ่งไม่ออกมาโต้ตอบแต่อย่างใด เพราะคงเคารพนับถือท่านไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ท่านมีการทำหน้าที่ของสงฆ์มากมาย เช่น
* ระหว่างวันที่ 26 -28 มีนาคม 2010 ภารกิจหลวงปู่ในสหรัฐอเมริกา ณ วัดพุทธบูชา แอตแลนต้า จอร์เจีย
* เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2010 หลวงปู่เณรคำ พร้อมด้วย นายแพทย์ชูเกียรติ ชัยลือกิจ นายสถิตย์ธรรม เพ็ญสุข ได้นำสมาชิกองค์กรสันติสุขจักรวาลหรือยูเอสโอ ไปประกอบพิธีอภิจิตหมู่ เพื่อรวมพลังจิต ให้โลกที่กำลังประสบปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ให้โลก กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว รวมทั้งเพื่อเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศอียิปต์ และประเทศจอร์แดนอีก ด้วย โดยหลวงปู่เณรคำ ได้ลงไปนั่งสมาธิอธิษฐานจิตในโลงศพ ซึ่งทำด้วยหินในปีรามิดคีออพส์ หรือปีรามิดคูฟู ซึ่งสร้างขึ้นเป็นสุสานเพื่อฝังพระศพขององค์ฟาร์โร แห่ง อียิปต์โบราณ ซึ่งขณะที่หลวงปู่เณรคำนั่งสมาธิอธิษฐานจิตอยู่ภายในโลงศพขององค์ฟาโรห์นั้น ปรากฏว่า ได้เกิดแสงมหัศจรรย์ ขึ้นที่องค์ของหลวงปู่ ทั้งที่ภายในสุสานใต้ปีรามิดแห่งนี้ไม่มีแสงสว่างที่บริเวณ โลงศพขององค์ฟาโรห์ ซึ่งทำด้วยหินโบราณแต่อย่างใด ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่สร้างความมหัศจรรย์ใจแก่คณะองค์กรสันติสุขจักรวาลทุก คนเป็นอย่างยิ่ง
* เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2551 หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ( พระวิรพล ฉัตติโก ) ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิต นำคณะสงฆ์และกรรมการมูลนิธิฯ นำเอาวัสดุในการก่อสร้างซ่อมแซมบ้านเรือนมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 100,000 บาทไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านในเขต ต.ศรีตระกูล อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษซึ่งถูกพายุพัดบ้านเรือนพังเสียยับเยินประมาณ 100 หลังคาเรือน
* หลวงปู่เณรคำนำชาวไทยเชื้อสายเขมรโบราณสร้างพระแก้วมรกตจำลองตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้านจังหวัดศรีสะเกษเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในวันขึ้นปีใหม่ 2553
พุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศนับหมื่นร่วมพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก และสวดอิติปิโสตลอดคืน เพื่อความเป็นสิริมงคลรับวันขึ้นปีใหม่ 2553
* เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2553 มอบรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ ให้กับพระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค 10 (ธ) วัดบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด นำไปใช้ในภารกิจเผยแผ่พุทธศาสนา ต่อไป หลังจากพิธีมอบถวายรถแล้ว พระเดชพระคุณเจ้าคณะภาค 10(ธ) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี(ธ) เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ(ธ) และพระเดชพระคุณหลวงปู่เณรคำ ได้นั่งรถรอบอุโบสถภายในวัดบึงพลาญชัยจำนวน 3 รอบด้วยกัน
* เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2553 ร่วมถวายผ้าป่าสามัคคี ของหลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวุฑฒาราม ตำบลหนองกุงแก้ว อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยปัจจัยที่ได้จากการทอดผ้าป่าสามัคคี ในครั้งนี้มีจำนวนมากกว่า 7 แสนบาท
* ระหว่างวันที่ 1-4 เมษายน 2553 ภารกิจหลวงปู่ ณ วัดพุทธเมตตาธรรม เมืองโมรีโน วาเล่ญ์ แคลิฟอร์เนีย
* ระหว่างวันที่ 5-6 เมษายน 2553 ภารกิจหลวงปู่ ณ วัดโพธิวารีรังสฤษฏ์ เมืองวิทเทียร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.luangpunenkham.com
ที่มา: http://men.postjung.com/685406.html
ต้องขอกราบนมัสการท่าน มหานรินทร์ ที่ทุมเทในการจัดทำข้อมูลที่มีค่ายิ่งต่อ สถาบันพระศาสนา
ข้อมูลที่ http://www.alittlebuddha.com/
ต้องขอกราบนมัสการท่าน มหานรินทร์ ที่ทุมเทในการจัดทำข้อมูลที่มีค่ายิ่งต่อ สถาบันพระศาสนา
ข้อมูลที่ http://www.alittlebuddha.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ