สยิว ! ส่งสายลับล้วงตับเณรคำ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการรายหนึ่งลงพื้นที่แบบลับ
สยิว !
ส่งสายลับล้วงตับเณรคำ
อา..พระอรหันต์จะกลายเป็นตุ๊กแกก็คราวนี้แหละบักเณรคำเอ๊ย
นึกหรือว่าจะอยู่เป็นสุข ยิ่งโกงเขามามากๆ ก็ยิ่งอยู่ลำบาก
เพราะจะกลายเป็นเดือนที่มีดาวไถตามไปไม่สิ้นสุด
หมดตัวเหลือแต่หำเมื่อไหร่ เณรคำก็จะกลายเป็น "บักหำ"
แหล่งข่าวได้ข้อมูลว่า ไอ้หน้าเหลี่ยมหนุนมา
10 กว่าปี ?
10 กว่าปี ?
กมธ.ศาสนา ส่งสายลงพื้นที่วัดป่าขันติธรรมแบบลับ พบมินิมาร์ทใกล้ที่พักสงฆ์
นายสันตศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ถึงกรณี การติดตามความคืบหน้าพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ พระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ว่า ขณะนี้ได้ให้ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการรายหนึ่งลงพื้นที่แบบลับ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมทั้งในส่วนต่างๆ ทั้งที่มาที่ไป ของการสร้างวัดป่าขันติธรรมว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้รายงานเบื้องต้นมาว่า มีที่พักสงฆ์สร้างด้วยปูน 4 - 5 หลัง มีมินิมาร์ทอยู่ใกล้เคียง มีหอประวัติบอกเล่าอภินิหาร ของหลวงปู่เณรคำ และยังมีตู้เซฟรับบริจาคขนาดใหญ่ขนาด 2 x 2 เมตร เพื่อรับบริจาคทั้งเงินและทอง ส่วนในเรื่องเส้นทางการเงินการรับบริจาค แม้ว่าวัดป่าขันติธรรมไม่มีใบอนุญาตทำให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติตรวจสอบไม่ได้ แต่คณะ กมธ. พุทธศาสนาก็มองว่า สามารถหาข้อมูลได้จากสถาบันทางการเงิน หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากการรับบริจาคของวัดป่าขันติธรรมนั้นส่อไปทางทุจริต โดยจะให้สายที่ลงพื้นที่นั้นมารายงานผลการลงพื้นที่ให้แก่คณะกรรมธิการรายอื่นฟังในวันที่ 3 ก.ค. เวลา 14.00 น. เพื่อนำมาพิจารณาประกอบกับรายงานสำนักพุทธแห่งชาติต่อไป
ข่าว : มติชน
02 กรกฎาคม 2556
ติดแฟ้มคดีอาญา !
ตำรวจยอมรับ "เณรคำ" เคยถูกแจ้งความในข้อหา "ขู่ฆ่า"
"ฆ่าใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม เหตุใด เพราะอะไร"
และ
"สมยอมกันด้วยสาเหตุใด"
???
เป็นเรื่องที่ต้องสืบหากันต่อไป
นายวิรพล สุขผล
|
ว่าแต่..ไม่จริงมั๊ง ท่านเป็นพระอริยบุคคล สร้างบุญกุศลใหญ่ระดับโลก จะมาทำเรื่องระยำตำบอนอย่างนี้ได้อย่างไร ไม่อยากเชื่อเลย หนูไม่รู้เอ๊ย หนูไม่เชื่อ !
หุหุ งานนี้ อริยะผู้นิยม "หลุยส์" เป็นของโปรด เห็นทีจะรอดยากส์ เพราะว่ามีประวัติติดในแฟ้มอาชญากรรมของตำรวจแล้ว ลบอย่างไรก็ไม่หาย เพียงแค่เจ้าหน้าที่ "ขอข้อมูล" จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็สามารถ "กระชากหน้ากาก" จอมมารตัวนี้ออกมาได้ ว่าไอ้ที่สวมบทบาท "นักบุญ" บินไปโปรดญาติโยมทั่วโลกนั้น ที่แท้มันไปปล้นญาติโยมนั่นเอง อุ๊ยตาย แล้วไอ้ที่อีฉันยกทองคำให้มันไปเป็นโลๆ นั้น ก็โดนมันปล้นนะซีคะ
อา..น่าสงสารนะ เพราะทราบมาว่า มีญาติโยมหลายคน ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ที่ถูกไอ้โจรในคราบผ้าเหลืองคนนี้ปอกลอกจนหมดเนื้อหมดตัว แต่ไม่กล้าเผยตัว เพราะอาย..กลัวคนรู้ว่า "หนูโดนอรหันต์หลอก"
ต่อไปอาจจะมีวลีใหม่ว่า
"สิบโจรขึ้นเรือน ไม่เท่าหนึ่งอรหันต์ขึ้นบ้าน"
เพราะอรหันต์ท่านเมตตาถึงขนาดให้ผ่อนบุญได้ไปถึงชาติหน้า
เส้นทางเดินของอรหันต์กำมะลอ
จาก..เดินธุดงค์ในป่า สู่..เดินขึ้นโรงพักและศาลอาญา
ฮ่าๆ ข่าวเก่า
ข่าว : เดลินิวส์
02 กรกฎาคม 2556
ติดกิจนิมนต์ !
บักเณรคำส่งสารถึงเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ อ้างเหตุผล "มาไทยไม่ได้ ติดกิจนิมนต์ที่ฝรั่งเศสยาว" กลับเมื่อไหร่ยังไม่รู้ หุหุ สงสัยจะกลับมาชาติหน้าตอนบ่ายๆ ละกระมัง นิมนต์นั่งรอนอนรอไปเหอะนะ เรื่องอะไรจะกลับมาเข้าซังเต เสือยังไว้ลาย ชายยังไว้ชื่อ นี่เป็นถึงอรหันต์จะมาจนมุมที่ศรีสะเกษยังงั้นหรือ เสียชื่ออรหันต์หมดสิครับ ซาโยนาระนะ จะไปเข้าครอสกรรมฐานกับพระมิตซูโอะที่เจแปน แอ่นแอ๊น !
Good bye my love
'หลวงปู่เณรคำ' ส่งหนังสือลงนามเอง รายงานจากต่างแดน กรณีที่เป็นข่าวโดยมอบให้พระลูกวัดนำมาส่ง เพื่อชี้แจงเหตุที่ยังกลับไม่ได้
1 ก.ค.56 ที่สำนักสงฆ์เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ วัดป่าศรีสำราญ ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พระเสียน ติกขวิโร พระลูกวัดป่าขันติธรรม ได้นำหนังสือที่ลงนามโดย พระวิรพล ฉัตตฺโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม มาส่งให้กับ พระครูวัชระสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ ตำแหน่งพระเลขาเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ตามที่เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีหนังสือคำสั่งให้พระวีรพล เข้าพบเพื่อชี้แจงเหตุต่างๆ ตามที่เป็นข่าวมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะส่งผลให้คณะสงฆ์ในจังหวัดศรีสะเกษเสื่อมเสียได้นั้น พระวีรพล ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง และมอบหนังสือที่ลงนามด้วยตนเองมาส่งเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ดังนี้
โดยหนังสือมีข้อความว่า ตามที่มีกรณีข่าวพระวิรพล ฉตฺติโก ประธานสงฆ์ป่าขันติธรรม ตำบลยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยว่าเป็นไปในทางเสื่อมแก่พระวิรพล ในเรื่องพระธรรมวินัยของสงฆ์ พร้อมทั้งทำให้เกิดความเสื่อมถอยศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน ผู้ได้รับฟังข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน และยังมีการเสนอข่าวให้มีเรื่องราวออกไปอีกมากมายหลายประเด็น อย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากวันเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ ก็ไม่มีความชัดเจนในการกลับมาของพระวิรพล เพื่อให้การในการสอบสวน ข้อเท็จจริงในเรื่องต่าง อาศัยในความตารมในกฎหมายเถรสมาคม ฉบับที่ 11 ว่าด้วยการลงนิคคหิตกรรม เกล้าฯ กระผม ขอชี้แจงตามคำสั่ง 5 ข้อ ดังนี้
1.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก หรือผู้แทนที่เป็นสงฆ์ (ธ) ที่เชื่อถือได้ แจ้งมาให้คระสงฆ์จังหวัดทราบวันที่จะเดินทางกลับมาให้การสอบสวนให้ชัดเจนแน่นอน ขอชี้แจงว่า มอบให้พระเสียน ติกชวโร ไป
2.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก แจ้งสังกัดวัดใด ขอชี้แจงว่า สังกัดวัดใต้พระใหญ่องค์ตื้อ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จริง เพราะยังไม่ได้ย้ายสังกัด เนื่องจากที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ยังไม่ใช่วัดที่ถูกต้อง
3.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก กลับมาให้การสอบสวน ด้วยตนเองภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ขอชี้แจงว่า เกล้าฯ กระผมไม่สามารถกลับมาได้ตามวันที่กำหนด เพราะปฎิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ
4.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก สั่งให้ศิษย์ฆราวาสงดการให้ข่าวเกี่ยวกับวินัยสงฆ์ ซึ่งไม่ใช้วิสัยของฆราวาส ขอชี้แจงว่า ได้แจ้งลูกศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์งดเสนอข่าวตอบโต้แล้ว
5.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก นำข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมอบถวายให้เจ้าคณะจังหวัด(ธ) เพื่อจะประมวลข้อมูลในการสอบสวน ขอชี้แจงว่า ได้มอบอำนาจให้พระเสียน ติกขวิโร พระวัดป่าขันติธรรม นำเอกสารหลักฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้นำถวายพระเดชพระคุณเพื่อโปรดทราบแล้ว รับรองตามนี้ ลงชื่อ เป็นลายเซ็น และใต้ลายเซ็นมีชื่อ พระวิรพล ฉัตตฺโก ตำแหน่งใต้ชื่อประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม มามอบให้พระเลขาเพื่อนำเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดต่อไป
จากนั้นพระเลขาเจ้าคณะจังหวัด ได้เรียกประชุมคณะทำงาน คระพระสงฆ์ เจ้าคณะอำเภอเมือง พระที่เกี่ยวข้องประชุมพร้อมกับ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมี นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา พร้อมรอง และคณะ ซึ่งในการนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยทั้งพระ และฆารวาส เพื่อที่จะเข้าไปดำเนินการสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือชี้แจงของพระวีรพล ฉตฺติโก เพื่อที่จะได้ทราบในเรื่องการจัดตั้งวัด จากที่ยังเป็นที่พักสงฆ์อยู่ การสอบเส้นทางทางการเงินบริจาค เข้า - ออก ในการจัดสร้างศาสนาสถานต่างๆ ภายในที่พักสงฆ์ ทั้งเรื่องการขออนุญาตจัดสร้างสิ่งต่างๆ การออกแบบ การรับเหมาก่อสร้าง การพิจารณาในเรื่องการอวดอุตริหรือไม่ในการที่มีภาพเป็นข่าวออกมาเป็นระยะๆ ที่มาของภาพเป็นจริงเชื่อถือได้มากแค่ไหน การประพฤติตัวตนผิดพระวินัยสงฆ์ หรือไม่ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่ส่อไปในการเสื่อของสงฆ์ศรีสะเกษ ต่อไป และให้รายงานโดยตรงต่อเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ(ธ) ต่อไปโดยเร็วเพื่อทำความกระจ่างให้สังคม
โดยหนังสือมีข้อความว่า ตามที่มีกรณีข่าวพระวิรพล ฉตฺติโก ประธานสงฆ์ป่าขันติธรรม ตำบลยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยว่าเป็นไปในทางเสื่อมแก่พระวิรพล ในเรื่องพระธรรมวินัยของสงฆ์ พร้อมทั้งทำให้เกิดความเสื่อมถอยศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชน ผู้ได้รับฟังข่าวจากการนำเสนอของสื่อมวลชน และยังมีการเสนอข่าวให้มีเรื่องราวออกไปอีกมากมายหลายประเด็น อย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากวันเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ ก็ไม่มีความชัดเจนในการกลับมาของพระวิรพล เพื่อให้การในการสอบสวน ข้อเท็จจริงในเรื่องต่าง อาศัยในความตารมในกฎหมายเถรสมาคม ฉบับที่ 11 ว่าด้วยการลงนิคคหิตกรรม เกล้าฯ กระผม ขอชี้แจงตามคำสั่ง 5 ข้อ ดังนี้
1.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก หรือผู้แทนที่เป็นสงฆ์ (ธ) ที่เชื่อถือได้ แจ้งมาให้คระสงฆ์จังหวัดทราบวันที่จะเดินทางกลับมาให้การสอบสวนให้ชัดเจนแน่นอน ขอชี้แจงว่า มอบให้พระเสียน ติกชวโร ไป
2.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก แจ้งสังกัดวัดใด ขอชี้แจงว่า สังกัดวัดใต้พระใหญ่องค์ตื้อ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จริง เพราะยังไม่ได้ย้ายสังกัด เนื่องจากที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ยังไม่ใช่วัดที่ถูกต้อง
3.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก กลับมาให้การสอบสวน ด้วยตนเองภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ขอชี้แจงว่า เกล้าฯ กระผมไม่สามารถกลับมาได้ตามวันที่กำหนด เพราะปฎิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ
4.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก สั่งให้ศิษย์ฆราวาสงดการให้ข่าวเกี่ยวกับวินัยสงฆ์ ซึ่งไม่ใช้วิสัยของฆราวาส ขอชี้แจงว่า ได้แจ้งลูกศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์งดเสนอข่าวตอบโต้แล้ว
5.ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก นำข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมอบถวายให้เจ้าคณะจังหวัด(ธ) เพื่อจะประมวลข้อมูลในการสอบสวน ขอชี้แจงว่า ได้มอบอำนาจให้พระเสียน ติกขวิโร พระวัดป่าขันติธรรม นำเอกสารหลักฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้นำถวายพระเดชพระคุณเพื่อโปรดทราบแล้ว รับรองตามนี้ ลงชื่อ เป็นลายเซ็น และใต้ลายเซ็นมีชื่อ พระวิรพล ฉัตตฺโก ตำแหน่งใต้ชื่อประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม มามอบให้พระเลขาเพื่อนำเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดต่อไป
จากนั้นพระเลขาเจ้าคณะจังหวัด ได้เรียกประชุมคณะทำงาน คระพระสงฆ์ เจ้าคณะอำเภอเมือง พระที่เกี่ยวข้องประชุมพร้อมกับ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยมี นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา พร้อมรอง และคณะ ซึ่งในการนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยทั้งพระ และฆารวาส เพื่อที่จะเข้าไปดำเนินการสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือชี้แจงของพระวีรพล ฉตฺติโก เพื่อที่จะได้ทราบในเรื่องการจัดตั้งวัด จากที่ยังเป็นที่พักสงฆ์อยู่ การสอบเส้นทางทางการเงินบริจาค เข้า - ออก ในการจัดสร้างศาสนาสถานต่างๆ ภายในที่พักสงฆ์ ทั้งเรื่องการขออนุญาตจัดสร้างสิ่งต่างๆ การออกแบบ การรับเหมาก่อสร้าง การพิจารณาในเรื่องการอวดอุตริหรือไม่ในการที่มีภาพเป็นข่าวออกมาเป็นระยะๆ ที่มาของภาพเป็นจริงเชื่อถือได้มากแค่ไหน การประพฤติตัวตนผิดพระวินัยสงฆ์ หรือไม่ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ที่ส่อไปในการเสื่อของสงฆ์ศรีสะเกษ ต่อไป และให้รายงานโดยตรงต่อเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ(ธ) ต่อไปโดยเร็วเพื่อทำความกระจ่างให้สังคม
ข่าว : คมชัดลึก
02 กรกฎาคม 2556
เปิดภาพ "รถขนปูน" ของบักเณรคำ !
รถยนต์สุดหรู ยี่ห้อดังระดับโลก มีอภิมหาเศรษฐีผู้หลงงมงาย เชื่อหัวปักหัวปำว่า "บักหำเณรคำ" ได้เป็นอรหันต์แล้ว เพราะมันพูดว่า "หมดสิ้นกิเลสแล้ว" เหลือแต่ตัณหา มหาเศรษฐีได้ยินก็รีบหาของดีไปเป็นบรรณาการแก่มหาโจรในผ้าเหลือง และอรหันต์ท่านก็หมดกิเลสจริงๆ ด้วย เพราะบรรดาสมุนได้ออกมาแถลว่า "ท่านไม่นิยมของหรู ไม่รู้จักแบรนด์เนม ขนาดโรลรอยส์ยังเอาไปขนปูนเลย เดี๋ยวนี้วิ่งไม่ได้แล้ว เพราะทำงานหนัก"
วัดไหนมีงานก่อสร้าง อยากได้รถขนปูน ก็เชิญไปยืมรถคันนี้ได้เด้อ ท่านบอกว่าบริการฟรี !
ชมภาพ "มอเตอร์โชว์" วัดป่าขันติธรรม
โหน่งสามช่ายังยอมรับในความสามารถเลย
เพราะมันแหลได้เนียนจนตลกเรียกพี่
ชุมนุมโจ๊ก ณ วัดป่าขันติธรรม
ภาพบักเณรคำยกครูเป็นศิลปินตลก หม่ำจ๊กม๊กเป็นพี่เลี้ยง
โอม..อานันตะปัชชาเย อาปัตติเถเถนะ
อาปัตติยา อาปัตติเถเถกู
อาปัตติโถ อาปัตติถุย ถุย ถุย !
ภาพดัดแปลงจาก หลวงปู่เณรคำ ดอทคอม
อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
01 กรกฎาคม 2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ