ศิษย์สายหลวงพ่อชาถูกสาวิกาของธรรมกายเอาชนะด้วยหลักธรรมคำสอน ?
แอนสัญญา !
"จะดูแลมิตซูโอะตลอดชีวิต"
ยอมรับว่าเคยเป็นธรรมกาย แต่..แอนก็เลิกแล้วค่ะ !
สีกาแอนเปิดใจเคลียร์ปัญหามิตซูโอะ
และยอมรับ "เป็นหนี้จริง" แต่เป็นเรื่องธุรกิจ อืม ! ก็จริงสินะ ทักษิณยังบอกเลยว่า มีหนี้ก็มีเครดิต เพราะเครดิตนั้นเขาวัดกันที่หนี้สิน
แต่เรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นความจริงหลายอย่าง เช่นว่า
1. ที่เขาเล่าลือว่า ถ้าเข้าเป็นสาวกธรรมกายแล้ว จะได้รับการช่วยเหลือเกื้อกูลเรือ่งธุรกิจการงาน (เงิน) แบบว่าสาวกธรรมกายไม่มีใครล้มละลาย ก็กลายเป็นเรื่องผิดคาด เพราะสีกาแอนก็เป็นหนี้บาน ทั้งๆ ที่เป็นศิษย์ธรรมกาย
2. ข้อครหาที่ว่า "ศิษย์สายหลวงพ่อชาถูกสาวิกาของธรรมกายเอาชนะด้วยหลักธรรมคำสอน ถึงกับยอมสละผ้าเหลืองหนีตามนางไป" ส่งผลให้ศิษย์ของพระมิตซูโอะเสียขวัญนั้น ก็เป็นอันสบายใจได้ว่า นอกจากหลวงพี่มิตซูโอะจะไม่เสียหลักแล้ว ฝ่ายธรรมกายเสียอีกที่ยินยอมทิ้งธรรมกายมาอยู่ฝ่ายนี้ เพียงแต่มาบรรจบกันในตอนเป็นฆราวาสเท่านั้น
ถือว่าเจ๊ากันไป แอนก็เดินไปข้างหน้า ส่วนศิษย์วัดป่าสุนันทาวนารามก็กลับไปตั้งหลักกันใหม่ ถือว่าเป็นอุบัติเหตุสายไทรโยคก็แล้วกัน
“สีกาแอน” เปิดใจ หลังถูกกระแสโจมตีหนักหน่วง แจงเรื่องหนี้สินที่ถูกเม้าท์ทั่วเมืองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ชี้ทำธุรกิจก็ต้องเป็นหนี้ เรื่องธรรมดา ยอมรับเคยเป็นศิษย์ธรรมกาย พร้อมเปิดปมคลี่คลายความกังขาเรื่องไปนั่งจ้องหน้าสามีสมัยยังเป็นพระ ยันไม่เคยมีความสัมพันธ์ขณะอาจารย์มิตซูโอะอยู่ในผ้าเหลือง ย้ำรักกันจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงและเป็นบุญที่ได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดจนเป็นที่มาของความรัก เผยเหตุที่โดนโจมตีเละตุ้มเป๊ะเพราะไปกระชากกล่องดวงใจของเหล่าศิษย์มิตซู โอะ เตรียมเปิดศูนย์สอนวิธีปฏิบัติให้มีสุขภาพใจดีที่กรุงโตเกียว
ความ เคลื่อนไหวของอดีตพระมิตซูโอะกับแอน-สุทธิรัตน์ มุตตามระ ที่ปักหลักใช้ชีวิตคู่ร่วมกันที่หมู่บ้านนิชิเนะ อ.ชิซุคุอิชิ จ.อิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ว่าหลังทั้ง 2 คนตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด อดีตพระมิตซูโอะใช้เวลาเดินจงกรมราว 1 ชั่วโมง ต่อด้วยการเดินออกกำลังกายรอบบ้าน ก่อนที่จะควงคู่นางสุทธิรัตน์นั่งรถประจำทางท้องถิ่นไปยังเคียวคัมมูระ ออนเซน เข้าคอร์สล้างพิษอาการโรคเบาหวาน เหมือนเช่นที่เคยทำมาทุกวัน
นาง สุทธิรัตน์เปิดเผยระหว่างนั่งรอสามีเข้าคอร์สล้างพิษว่า อาจารย์ตั้งใจจะทำหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง Healthy mind หรือสุขภาพใจ ตีพิมพ์ขายที่ญี่ปุ่น และจะเปิดคลาสสอนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ตั้งใจจะไปเช่าออฟฟิศที่โตเกียว เพื่อเปิดสอนวิธีปฏิบัติให้มีสุขภาพใจดี เนื่องจากมีลูกศิษย์คอยช่วยงานอยู่แล้ว มีสมาคมที่ประสานงานกันอยู่ ในวันที่ 3 ก.ค. เดินทางไปที่โตเกียวเพื่อดูออฟฟิศที่จะเช่าและพักค้างคืนที่โตเกียว 1 คืน เพื่อวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 4 ก.ค.ไปสถานทูตไทยที่โตเกียว จดรับรองสถานภาพการสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากทุกอย่างลงตัวอาจารย์มิตซูโอะคงย้ายมาอยู่ที่โตเกียว ส่วนตนคงเดินทางไปมาระหว่างเมืองไทยกับญี่ปุ่น
นางสุทธิรัตน์กล่าว ต่อว่า เรื่องกระแสโจมตีในเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งเรื่องอดีตสามี เรื่องเคยเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย เรื่องธุรกิจมีหนี้สิน ถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่าไปสนใจ เรื่องอดีตสามีก็เลิกราไปแล้ว เรื่องการเป็นศิษย์วัดพระธรรมกายก็เป็นจริง แต่ไม่เกี่ยวอะไรกัน เรื่องธุรกิจมีหนี้สินก็เป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ ก็ต้องมีหนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก ตนแก้ปัญหาเองได้ ทุกวันนี้ธุรกิจเสริมความงาม ยังคงดำเนินการตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าตนสึกพระนั้น อยากให้ดูเนื้อหาในคลิปล่าสุด แล้วจะรู้ว่าเราทั้งคู่รักกันจริง ไม่มีเรื่องอื่นแอบแฝง มีความเชื่อว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อน ท่านมีแต่ตัว ไม่มีเงิน ทุกวันนี้ค่ารักษาตัวที่ออนเซนตนก็เป็นคนออกให้ทุกอย่าง เพราะเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
นางสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า อยากชี้แจงให้หายสงสัยว่า ตนเข้าไปที่วัดที่เมืองกาญจน์ครั้งแรกกลาง เดือนกุมภาพันธ์2556 และอยู่ที่นั่นแทบไม่ได้กลับกรุงเทพฯเลย เป็นการไปอยู่เพื่อปฏิบัติธรรมและพักอาศัยอยู่กับอดีตพี่สะใภ้ที่มีบ้านอยู่ ใกล้วัด กระทั่งช่วง 2 เดือนก่อนท่านสึก จึงได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด เพื่อดูแลสุขภาพของท่านเท่านั้น แต่ตลอดเวลาเราทั้งคู่มีความรู้สึกว่า เป็นเนื้อคู่กันมาก่อน ท่านเป็นคนดีที่สุดของที่สุดในโลก ส่วนเรื่องที่สงสัยว่า ตนมีความสัมพันธ์กันตอนท่านเป็นพระ ขอบอกไม่มีแน่นอน แค่คิดจิตวอกแวกก็ผิดแล้ว ท่านไม่อยากผิดแม้เพียงแค่จิตไม่นิ่ง จึงตัดสินใจสึกออกมาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันอย่างคนปกติทั่วไปผิดด้วยหรือที่ ท่านสึกออกมาแล้วมีเมีย
ขณะเดียวกันนางสุทธิรัตน์ ได้อัดคลิปวีดิโอ ชี้แจงถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกรอบว่า “เรื่องสึกหรือลาสิกขา ท่านดำริขึ้นมาก่อน ไม่ใช่ตนเป็นคนชวนท่านสึก ไม่ใช่ เพียงแต่ท่านเป็นพระที่ดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระวินัยมาโดยตลอด เมื่อท่านคิดว่าท่านมีความรัก ท่านก็ตัดสินใจเลย เพราะถ้าท่านอยู่ต่อไป อาจทำให้ศาสนามัวหมองได้ มันเป็นเรื่องที่ถูกลิขิตมาแล้ว ส่วนเรื่องประเด็นที่ได้รับใช้ใกล้ชิดท่านแค่ 2 เดือนจริงหรือไม่ ก็ใช่ ตนเข้าวัดมาก่อนหน้านั้น แต่การได้เข้าไปดูแลรับใช้ใกล้ชิด ปรนนิบัติเรื่องสุขภาพต่างๆ และพระมิตซูโอะเคยบอกไปแล้วว่า เป็นเรื่องของเนื้อคู่กัน มีความรู้สึกว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อนตั้งแต่อดีตชาติ ของแบบนี้ไม่ต้องใช้เวลานาน เหมือนเรารู้กัน ส่วนที่ถูกโจมตีว่า ตนสึกพระหรือเปล่า ไม่ใช่แน่นอน อยากจะฝากอีกนิด หลังจากที่เราตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กันแล้ว เราทั้งสองคนตั้งใจจะปฏิบัติศีล 5 เคร่งครัด อยู่ในเส้นทางของพระนิพพาน ไม่ได้ไปตัดเส้นทางพระนิพพานของท่าน แต่จะปฏิบัติตนในฐานะฆราวาส
สีกาแอนยังกล่าวระบายความรู้สึกอีกว่า รู้สึกมีบุญที่มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดท่าน ท่านก็เมตตาเปิดโอกาสให้เข้าไปดูแลท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การถวายอาหาร มีโอกาสใกล้ชิดท่านมากกว่าลูกศิษย์คนอื่น ช่วงนั้นมีความรู้สึกว่า เราเคยรับใช้ท่านมาก่อน ตั้งแต่อดีตชาติ แต่ก็ไม่ได้พูดกันพราะท่านเป็นพระอยู่ มีการพูดคุยกันตอนหลัง ตอนที่ท่านบอกว่าจะลาสิกขาแล้ว มีการพูดคุยกันว่า เรามีความรู้สึกตรงกัน เมื่อท่านรู้สึกอย่างนี้ เรารู้สึกอย่างนี้ ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขา เพื่อมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ระหว่างปฏิบัติธรรมที่วัด ตนก็ปฏิบัติจริงๆ เคร่งครัด มาทำวัตรตั้งแต่ตี 3 ไม่ได้มานั่งจ้องหน้าท่าน เพียงแต่ว่าเรามีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดมากกว่าคนอื่น เพราะได้ดูแลสุขภาพท่านด้วย อยากจะฝากเล็กๆ น้อยๆ ถึงลูกศิษย์ ทราบดีว่าท่านเป็นที่รักของลูกศิษย์หลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น หลายแสน หลายล้านคน ทุกคนมีความรู้สึกเสียดาย เสียใจ บวชมานาน เป็นพระเถระ แล้วตนไปกระชากกล่องดวงใจของคนเหล่านั้น แต่ตนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น บางทีเป็นเรื่องที่ลิขิตมาแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดและขอรับรองด้วยสัญญาต่อลูกศิษย์ทุกคนว่า จะดูแลท่านอย่างดีที่สุดไปตลอดชีวิต
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน นางสุทธิรัตน์เปิดเผยอีกครั้ง ขณะกำลังนั่งรถไฟความเร็วสูงจากจังหวัดอิวาเตะ เข้ากรุงโตเกียว เพื่อพบปะลูกศิษย์ของอาจารย์มิตซูโอะ และเตรียมเรื่องออฟฟิศ พร้อมกับเตรียมตัวเรื่องไปรับรองการจดทะเบียนสมรสที่สถานทูตไทยในกรุง โตเกียวในวันที่ 4 ก.ค. โดยการเดินทางมาครั้งนี้ตนกับอาจารย์ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านชินจู กุ
ส่วนความเคลื่อนไหวที่เมืองไทย ที่วัดสุนันทนาราม สาขาวัดหนองป่าพง ที่ 117 หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายหลังที่นางสุทธิรัตน์ มุตตามระ นำภาพถ่ายคู่กับอดีตพระมิตซูโอะเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไทรโยค เริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์เชื่อมโยงกับการหาขุมสมบัติของทหารญี่ปุ่นใน สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค นายพันงาม สะอาดชื่น กำนันตำบลไทรโยค และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ 10 คน เดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาสรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม สอบถามข้อเท็จจริง พระอาจารย์หนูพรมกล่าวว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านได้สึก ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ส่วนเรื่องเงินทองมูลนิธิ ท่านไม่เคยมาแตะต้องแม้แต่ครั้งเดียว สำหรับข่าวลือที่ว่าอดีตพระอาจารย์บวช และมาสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น เป็นเพราะต้องการค้นหาสมบัติสมัยสงครามโลก หรือที่เขาเรียกกันว่าขุมทองโกโบริ หลังทราบข่าวอาตมาก็ได้แต่ขำ แต่อาตมาคิดว่าชาวบ้านอาจจะเพียงแค่พูดกันเล่นๆ ในกลุ่มของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
ความ เคลื่อนไหวของอดีตพระมิตซูโอะกับแอน-สุทธิรัตน์ มุตตามระ ที่ปักหลักใช้ชีวิตคู่ร่วมกันที่หมู่บ้านนิชิเนะ อ.ชิซุคุอิชิ จ.อิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ว่าหลังทั้ง 2 คนตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด อดีตพระมิตซูโอะใช้เวลาเดินจงกรมราว 1 ชั่วโมง ต่อด้วยการเดินออกกำลังกายรอบบ้าน ก่อนที่จะควงคู่นางสุทธิรัตน์นั่งรถประจำทางท้องถิ่นไปยังเคียวคัมมูระ ออนเซน เข้าคอร์สล้างพิษอาการโรคเบาหวาน เหมือนเช่นที่เคยทำมาทุกวัน
นาง สุทธิรัตน์เปิดเผยระหว่างนั่งรอสามีเข้าคอร์สล้างพิษว่า อาจารย์ตั้งใจจะทำหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง Healthy mind หรือสุขภาพใจ ตีพิมพ์ขายที่ญี่ปุ่น และจะเปิดคลาสสอนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ตั้งใจจะไปเช่าออฟฟิศที่โตเกียว เพื่อเปิดสอนวิธีปฏิบัติให้มีสุขภาพใจดี เนื่องจากมีลูกศิษย์คอยช่วยงานอยู่แล้ว มีสมาคมที่ประสานงานกันอยู่ ในวันที่ 3 ก.ค. เดินทางไปที่โตเกียวเพื่อดูออฟฟิศที่จะเช่าและพักค้างคืนที่โตเกียว 1 คืน เพื่อวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 4 ก.ค.ไปสถานทูตไทยที่โตเกียว จดรับรองสถานภาพการสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากทุกอย่างลงตัวอาจารย์มิตซูโอะคงย้ายมาอยู่ที่โตเกียว ส่วนตนคงเดินทางไปมาระหว่างเมืองไทยกับญี่ปุ่น
นางสุทธิรัตน์กล่าว ต่อว่า เรื่องกระแสโจมตีในเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งเรื่องอดีตสามี เรื่องเคยเป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย เรื่องธุรกิจมีหนี้สิน ถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อย่าไปสนใจ เรื่องอดีตสามีก็เลิกราไปแล้ว เรื่องการเป็นศิษย์วัดพระธรรมกายก็เป็นจริง แต่ไม่เกี่ยวอะไรกัน เรื่องธุรกิจมีหนี้สินก็เป็นธรรมดาของการทำธุรกิจ ก็ต้องมีหนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก ตนแก้ปัญหาเองได้ ทุกวันนี้ธุรกิจเสริมความงาม ยังคงดำเนินการตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าตนสึกพระนั้น อยากให้ดูเนื้อหาในคลิปล่าสุด แล้วจะรู้ว่าเราทั้งคู่รักกันจริง ไม่มีเรื่องอื่นแอบแฝง มีความเชื่อว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อน ท่านมีแต่ตัว ไม่มีเงิน ทุกวันนี้ค่ารักษาตัวที่ออนเซนตนก็เป็นคนออกให้ทุกอย่าง เพราะเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
นางสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า อยากชี้แจงให้หายสงสัยว่า ตนเข้าไปที่วัดที่เมืองกาญจน์ครั้งแรกกลาง เดือนกุมภาพันธ์2556 และอยู่ที่นั่นแทบไม่ได้กลับกรุงเทพฯเลย เป็นการไปอยู่เพื่อปฏิบัติธรรมและพักอาศัยอยู่กับอดีตพี่สะใภ้ที่มีบ้านอยู่ ใกล้วัด กระทั่งช่วง 2 เดือนก่อนท่านสึก จึงได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด เพื่อดูแลสุขภาพของท่านเท่านั้น แต่ตลอดเวลาเราทั้งคู่มีความรู้สึกว่า เป็นเนื้อคู่กันมาก่อน ท่านเป็นคนดีที่สุดของที่สุดในโลก ส่วนเรื่องที่สงสัยว่า ตนมีความสัมพันธ์กันตอนท่านเป็นพระ ขอบอกไม่มีแน่นอน แค่คิดจิตวอกแวกก็ผิดแล้ว ท่านไม่อยากผิดแม้เพียงแค่จิตไม่นิ่ง จึงตัดสินใจสึกออกมาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันอย่างคนปกติทั่วไปผิดด้วยหรือที่ ท่านสึกออกมาแล้วมีเมีย
ขณะเดียวกันนางสุทธิรัตน์ ได้อัดคลิปวีดิโอ ชี้แจงถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกรอบว่า “เรื่องสึกหรือลาสิกขา ท่านดำริขึ้นมาก่อน ไม่ใช่ตนเป็นคนชวนท่านสึก ไม่ใช่ เพียงแต่ท่านเป็นพระที่ดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระวินัยมาโดยตลอด เมื่อท่านคิดว่าท่านมีความรัก ท่านก็ตัดสินใจเลย เพราะถ้าท่านอยู่ต่อไป อาจทำให้ศาสนามัวหมองได้ มันเป็นเรื่องที่ถูกลิขิตมาแล้ว ส่วนเรื่องประเด็นที่ได้รับใช้ใกล้ชิดท่านแค่ 2 เดือนจริงหรือไม่ ก็ใช่ ตนเข้าวัดมาก่อนหน้านั้น แต่การได้เข้าไปดูแลรับใช้ใกล้ชิด ปรนนิบัติเรื่องสุขภาพต่างๆ และพระมิตซูโอะเคยบอกไปแล้วว่า เป็นเรื่องของเนื้อคู่กัน มีความรู้สึกว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อนตั้งแต่อดีตชาติ ของแบบนี้ไม่ต้องใช้เวลานาน เหมือนเรารู้กัน ส่วนที่ถูกโจมตีว่า ตนสึกพระหรือเปล่า ไม่ใช่แน่นอน อยากจะฝากอีกนิด หลังจากที่เราตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กันแล้ว เราทั้งสองคนตั้งใจจะปฏิบัติศีล 5 เคร่งครัด อยู่ในเส้นทางของพระนิพพาน ไม่ได้ไปตัดเส้นทางพระนิพพานของท่าน แต่จะปฏิบัติตนในฐานะฆราวาส
สีกาแอนยังกล่าวระบายความรู้สึกอีกว่า รู้สึกมีบุญที่มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดท่าน ท่านก็เมตตาเปิดโอกาสให้เข้าไปดูแลท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การถวายอาหาร มีโอกาสใกล้ชิดท่านมากกว่าลูกศิษย์คนอื่น ช่วงนั้นมีความรู้สึกว่า เราเคยรับใช้ท่านมาก่อน ตั้งแต่อดีตชาติ แต่ก็ไม่ได้พูดกันพราะท่านเป็นพระอยู่ มีการพูดคุยกันตอนหลัง ตอนที่ท่านบอกว่าจะลาสิกขาแล้ว มีการพูดคุยกันว่า เรามีความรู้สึกตรงกัน เมื่อท่านรู้สึกอย่างนี้ เรารู้สึกอย่างนี้ ท่านจึงตัดสินใจลาสิกขา เพื่อมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ระหว่างปฏิบัติธรรมที่วัด ตนก็ปฏิบัติจริงๆ เคร่งครัด มาทำวัตรตั้งแต่ตี 3 ไม่ได้มานั่งจ้องหน้าท่าน เพียงแต่ว่าเรามีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดมากกว่าคนอื่น เพราะได้ดูแลสุขภาพท่านด้วย อยากจะฝากเล็กๆ น้อยๆ ถึงลูกศิษย์ ทราบดีว่าท่านเป็นที่รักของลูกศิษย์หลายร้อย หลายพัน หลายหมื่น หลายแสน หลายล้านคน ทุกคนมีความรู้สึกเสียดาย เสียใจ บวชมานาน เป็นพระเถระ แล้วตนไปกระชากกล่องดวงใจของคนเหล่านั้น แต่ตนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น บางทีเป็นเรื่องที่ลิขิตมาแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดและขอรับรองด้วยสัญญาต่อลูกศิษย์ทุกคนว่า จะดูแลท่านอย่างดีที่สุดไปตลอดชีวิต
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน นางสุทธิรัตน์เปิดเผยอีกครั้ง ขณะกำลังนั่งรถไฟความเร็วสูงจากจังหวัดอิวาเตะ เข้ากรุงโตเกียว เพื่อพบปะลูกศิษย์ของอาจารย์มิตซูโอะ และเตรียมเรื่องออฟฟิศ พร้อมกับเตรียมตัวเรื่องไปรับรองการจดทะเบียนสมรสที่สถานทูตไทยในกรุง โตเกียวในวันที่ 4 ก.ค. โดยการเดินทางมาครั้งนี้ตนกับอาจารย์ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านชินจู กุ
ส่วนความเคลื่อนไหวที่เมืองไทย ที่วัดสุนันทนาราม สาขาวัดหนองป่าพง ที่ 117 หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ภายหลังที่นางสุทธิรัตน์ มุตตามระ นำภาพถ่ายคู่กับอดีตพระมิตซูโอะเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไทรโยค เริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์เชื่อมโยงกับการหาขุมสมบัติของทหารญี่ปุ่นใน สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายสมชาติ ธีรสุวรรณจักร นายอำเภอไทรโยค นายพันงาม สะอาดชื่น กำนันตำบลไทรโยค และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ 10 คน เดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์หนูพรม สุชาโต รองเจ้าอาวาสรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม สอบถามข้อเท็จจริง พระอาจารย์หนูพรมกล่าวว่า อดีตเจ้าอาวาสท่านได้สึก ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ส่วนเรื่องเงินทองมูลนิธิ ท่านไม่เคยมาแตะต้องแม้แต่ครั้งเดียว สำหรับข่าวลือที่ว่าอดีตพระอาจารย์บวช และมาสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น เป็นเพราะต้องการค้นหาสมบัติสมัยสงครามโลก หรือที่เขาเรียกกันว่าขุมทองโกโบริ หลังทราบข่าวอาตมาก็ได้แต่ขำ แต่อาตมาคิดว่าชาวบ้านอาจจะเพียงแค่พูดกันเล่นๆ ในกลุ่มของตัวเองเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
ข่าว : ไทยรัฐ
03 กรกฎาคม 2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ